บทที่เจ็ด ลาก่อนเจ้านาย
จอมมารคชสารตกใจจนล้มกลิ้งไปกับพื้น หลบกรงเล็บแหลมคมของข้า
ราชาอินทรีที่อยู่ด้านข้างโกรธแค้นขึ้นมา “หญิงชั่วร้าย! ต่อให้ไม่รับปากการขอแต่งงาน ก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายพี่น้องของข้ากระมัง! สังหารนางให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
ไม่รู้ว่าอิ๋นจื่อกับจอมมารวัวกระทิงที่อยู่ด้านหลังถอนหายใจยาวเหยียดด้วยเหตุใด
ข้ายังคงหมุนไปรอบๆ ไล่ตามขนหางนกของจอมมารคชสารอย่างสนุกสนาน
เหตุใดต้องตีข้า!
ขณะกำลังเล่นอย่างสนุกสนานอยู่นั้น จู่ๆ ตะขอเหล็กก็จู่โจมเข้ามาตรงหน้า ข้ารีบพุ่งไปที่ด้านข้าง เบี่ยงตัวหลบพ้นจากการถูกแทงท้องไปได้หวุดหวิด
ราชาอินทรีไม่ได้หยุดการโจมตีเพราะการหลบหลีกของข้า ตะขอเหล็กของเขาโค้งตวัดมุ่งมาที่ศีรษะของข้า ท่าทางคล้ายไม่ตายไม่ยอมเลิกรา
ข้าโมโหขึ้นมาแล้ว หางชี้ชันขึ้น จับจ้องราชาอินทรีที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหารตรงหน้าอย่างดุดัน คำรามเสียงต่ำพร้อมจะต่อสู้ ความทรงจำผุดขึ้นมาอีกครั้ง มือเคลื่อนไหวไปตามความคิด กรงเล็บยาวและคมกริบดุจใบมีดปรากฏขึ้น
“เหมียวเหมียว…” จอมมารคชสารพูดขึ้นมาด้วยความเสียใจ “เจ้าชิงชังข้ามากจริงหรือ”
ข้ายังไม่ได้ตอบ ราชาอินทรีก็ชิงด่าออกมาก่อน “เจ้าช่างโง่งม! ยังไม่รีบตื่นขึ้นมาอีก หญิงผู้นี้ปั่นหัวเจ้าเล่น หลายปีมานี้มีบุรุษในแถบนี้ไม่รู้เท่าไรถูกนางพูดจายั่วเย้าแค่คำสองคำก็ลุ่มหลงจนจิตใจเคลิบเคลิ้มมัวเมา นางเคยรับหมั้นใครจริงเสียเมื่อไร เห็นเจ้าเป็นคนโง่ชัดๆ!”
เพิ่งจะสิ้นเสียง เขาก็ชูตะขอจู่โจมมาที่ข้า ข้าก็ไม่เกรงใจยื่นกรงเล็บซ้ายออกไปต้านรับ กรงเล็บอีกข้างก็ตะกุยไปที่หน้าอกตรงหัวใจของเขา ราชาแรดเห็นแล้วตื่นตระหนก รีบพุ่งเข้ามาใช้กำปั้นขวางไว้ “อย่าทำร้ายพี่น้องของข้า!”
ข้าไม่ได้ลดพลังในการจู่โจมลง ตะกุยกำปั้นของเขาเป็นแผลสี่รอย กระนั้นก็ตัดเส้นเอ็นเห็นกระดูก โลหิตสดหยาดหยด เพียงพอที่จะทำให้เขากุมมือร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
“น้องสาม!” จอมมารคชสารร้องขึ้น เขามองบาดแผลของราชาแรดแล้วก็มองข้า ดวงตาเริ่มแดงไปด้วยเส้นโลหิตฝอย แววตามีประกายไม่อยากจะเชื่อปรากฏอยู่ “เหตุใดเจ้าจึงเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้!”
ข้ากำลังเลียคราบโลหิตบนกรงเล็บในมือ ได้ยินคำพูดของเขามีแววตำหนิก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม “ก็เขาตีข้า…”
“สังหารนางแล้วค่อยว่ากัน แก้แค้นให้น้องสาม!” ราชาอินทรีจู่โจมเข้ามาอย่างดุดันอีกครั้ง จอมมารวัวกระทิงรีบพุ่งเข้ามาช่วยข้าโดยเอากระบองเหล็กต้านตะขอคู่ของเขา
หลัวช่ากับอิ๋นจื่อก็ชักกระบี่ออกมา ทั้งสองรุมโจมตีราชาแรดที่ถูกทิ้งอยู่คนเดียว
จอมมารคชสารลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็กระทืบเท้า สั่นสะเทือนจนพื้นดินไหวภูเขาโยกคลอน เขาดึงค้อนทองคำออกจากเอวแล้วทุบลงมาที่ข้าอย่างแรง ข้ารีบหลบ กรงเล็บทั้งสองพุ่งแหวกอากาศออกไป เกิดเป็นกระแสลมคมกริบสี่สาย
จุดที่กระแสลมพาดผ่าน ต้นไม้นับร้อยต้นเอนล้มลงพร้อมเพรียงกัน หินก้อนใหญ่ที่แข็งแกร่งแตกเป็นสองท่อน ยอดเขาทั้งยอดถูกตัดไปแถบหนึ่ง พังโครมลงมาอย่างไม่เต็มใจ ทำให้ความสูงลดลงมา
“กรงเล็บทะลวงฟ้าที่ยอดเยี่ยม!” จอมมารคชสารหลบไปได้อย่างหวุดหวิด ทว่าขนหางนกสองเส้นบนมงกุฎกลับถูกตัดขาด เขายกค้อนทองคำทุบลงไปที่พื้นดินติดๆ กันไม่หยุดด้วยความโกรธแค้น
พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น เทือกเขาที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าถูกแรงสั่นสะเทือนจนแยกออกเป็นช่องและค่อยๆ ขยายกว้างขึ้น การทรงตัวของทุกคนเริ่มไม่มั่นคง การเคลื่อนไหวถูกรบกวนอย่างหนัก
ราชาแรดเห็นจอมมารคชสารใช้กระบวนท่านี้ออกมาก็รีบถอยหลังเพื่อหลบอานุภาพการโจมตี ส่วนราชาอินทรีกลับกางปีกบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วจู่โจมเข้าใส่ข้าโดยไม่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแต่อย่างใด