ข้าเหยียบก้อนหินที่ร่วงหล่นลงมาแล้วกระโดดพุ่งขึ้นไปยังที่สูงอย่างปราดเปรียว พอกระโดดขึ้นไปถึงที่สูงก็โจนทะยานออกไปเกาะอยู่บนแผ่นหลังราชาอินทรี แล้วกัดปีกของเขาเต็มแรง
ราชาอินทรีได้รับความเจ็บปวด ร้องเสียงดังออกมาคำหนึ่งแล้วพลิกตัวไปมา “เจ้า! มารดามันเถอะ! ลงไปเดี๋ยวนี้!”
“เมี้ยว เมี้ยว เจ้านกหน้าเหม็นกล้าตีข้า” ข้าส่งเสียงออกมาอย่างไม่ค่อยชัดเจนนัก เป็นตายก็ไม่ยอมปล่อย กลับยิ่งกัดแน่น กระทั่งโลหิตสดเต็มปาก
“ข้าจะให้เจ้าตายไปพร้อมกับข้าเสียเลย!” ราชาอินทรีเดือดดาลสุดขีด ใช้ตะขอคู่ฟาดลงมาที่แผ่นหลังตนเอง แรงที่ฟาดลงมาคล้ายจะให้ทะลุตัวเขาออกไป
“น้องรอง! อย่า!”
“พี่รอง! อย่า!”
จอมมารคชสารกับราชาแรดร้องตะโกนเป็นเสียงเดียว
“น้องสาวบุญธรรม! ระวัง!”
“ลูกพี่! ระวัง!”
จอมมารวัวกระทิงกับอิ๋นจื่อตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
ในช่วงคับขันอันตราย ข้าพลันเกิดประกายความคิดขึ้น ถึงกับนึกวิธีเปลี่ยนกลับเป็นร่างแมวออกอย่างรวดเร็ว ร่างเดิมที่เล็กบอบบางอยู่แล้วใช้หลบกระบวนท่าไม้ตายที่จะเอาชีวิตได้พอดี
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะกลายร่างเป็นแมว ตะขอคมกริบของราชาอินทรีก็ยังฟาดลงมาไม่ถึงตัวข้า ที่พื้นดินราบเรียบจู่ๆ ก็มีลมพายุพัดโหมขึ้นมาทั้งสี่ด้าน หินทรายปลิวว่อนไปหมด พัดม้วนเอาร่างของข้าและราชาอินทรี รวมถึงก้อนหิน ต้นไม้จำนวนมากขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วพัดพาไปยังที่ห่างไกลอย่างรวดเร็ว…
“เมี้ยว!” ข้าถูกพัดจนหลุดจากร่างของราชาอินทรี อดที่จะร้องออกมาไม่ได้ ก้มหน้าลงก็เห็นหลัวช่าถือพัดใหญ่ด้ามหนึ่งอธิบายกับจอมมารวัวกระทิงอย่างใสซื่อ “ข้าเข้าใจว่านางกำลังจะตาย…ขออภัยด้วย”
ข้าถูกลมพัดหอบหมุนไปจนอยากอาเจียน ภาพเบื้องหน้าพลันดำมืด หมดสติไปทันที
ตอนฟื้นขึ้นมาเป็นช่วงโพล้เพล้แล้ว รอบด้านมีแต่ป่าอันเปล่าเปลี่ยว ข้าตกลงมาจนกระดูกทั้งตัวเจ็บไปหมด กระทั่งเดินก็ดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรง
พยายามตะเกียกตะกายเดินไปทั้งที่ไม่มีจุดหมาย เดินไปสองสามก้าวก็หยุดพัก เดินไปอีกสองสามก้าว ก็หยุดพัก…
ข้าไม่รู้ว่าตนเองจะไปที่ใด…แต่ข้าอยากกลับบ้าน…
เมื่อก่อนตอนกลางคืนข้าเที่ยวเล่นอยู่ข้างนอกไม่กลับบ้าน เจ้านายก็จะร้อนใจถือไฟฉายเที่ยวตามหาไปทั่ว ไม่ว่าข้าจะซ่อนตัวอยู่ในท่อน้ำ อยู่ในพุ่มหญ้า ช่องว่างตรงบันได หรือบนต้นไม้ เขาก็หาข้าพบจนได้ จากนั้นก็อุ้มอย่างอ่อนโยนพากลับบ้าน เปิดอาหารกระป๋องที่อร่อยให้
แต่…ครั้งนี้เจ้านายไม่ได้มาตามหาข้า
เขาใช่ไม่ต้องการฮวาเหมียวเหมียวแล้วหรือไม่ จึงได้ทอดทิ้งข้า เหมือนเจ้านายของมีมีที่ทิ้งมีมีให้นางไปเป็นแมวจร ปล่อยให้ถูกคนรังแกเช่นนั้น
ข้าไม่กล้าคิดต่อไปอีก และไม่ได้คิดอะไรต่อไป เพียงมองดวงตะวันยามสายัณห์อย่างเหม่อลอย ตะวันในยามสายัณห์แดงยิ่ง คล้ายไข่แดงเค็มโตๆ ลูกหนึ่ง แผ่เสน่ห์ดึงดูดใจคนออกมา ยั่วยุจนท้องของข้าร้องจ๊อกๆ
ข้าหมอบอยู่บนพื้น เห็นมดกำลังขนย้ายอาหารทีละน้อย ทั้งร่างแมวของข้าหิวจนวิงเวียนตาลาย ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อยนิด เพียงอยากจะนอนหลับอยู่ตรงนี้ อาศัยความฝันอันงดงามมาลืมเลือนความทุกข์ที่อยู่ในใจ
ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นเบาๆ ที่ข้างหู จังหวะฝีเท้าเช่นนี้ข้าคุ้นเคยดีไม่ต่างอะไรกับเสียงร้องของตน เสียงนี้น่าจะอยู่ทางตะวันตกห่างออกไปยี่สิบหลี่
ข้ารีบเงยหน้าขึ้นมา ยกอุ้งเท้าขึ้นแล้วพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนหยุดฝีเท้า ในดวงตาก็มีคนที่เฝ้าคิดถึงอยู่ทั้งวันทั้งคืนปรากฏขึ้นมาจริงๆ…
ข้าไม่รู้จะบรรยายถึงรูปร่างหน้าตาของเขาเช่นไร เพราะไม่มีคำใดมาให้ข้าใช้ได้ แต่ถ้ามีคนนับพันนับหมื่นคนมาอยู่รวมกัน ข้าเชื่อว่าตนเองยังคงมองเห็นและหาตัวเขาท่ามกลางผู้คนทั้งหมดพบได้ในพริบตาเดียว และหลังจากนั้นก็จะมองไม่เห็นการมีอยู่ของคนอื่นๆ อีกเลย