ลูกตาของเขาพลันเบิกกว้าง ยืนตะลึงอยู่กับที่ พูดอะไรไม่ออกอยู่เป็นนาน ข้าพลันรู้สึกว่าดูเหมือนตนเองจะทำอะไรผิดไปแล้ว จึงรีบหลบออกนอกประตู ฉวยโอกาสที่เขายังไม่บันดาลโทสะหนีไป
เพิ่งจะออกพ้นประตูก็ได้ยินเสียงคำรามของเขา “ฮวาเหมียวเหมียว! เจ้าสารเลวผู้นี้! นั่นเป็นแก้วเจียระไนโมราแดงเพียงหนึ่งเดียวของข้า อ๊ากๆๆๆ!”
เสียงคำรามดังสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพื้นปฐพี ข้าตกใจสั่นสะท้านไปทั้งตัว ขนหางชี้พองขึ้นมาทุกเส้น เที่ยวเอ้อระเหยอยู่ข้างนอกถึงสามวันเต็มๆ ไม่กล้ากลับมา
เที่ยวเล่นอยู่ข้างนอกท้องย่อมหิว รอจนหิวทนไม่ไหวแล้วข้าก็ย่องกลับมาเงียบๆ ทว่าอิ๋นจื่อยังคงไม่คลายโทสะ
เขาไม่ยอมทำอาหาร ไม่ยอมทำงาน ไม่ยอมพูดกับข้า เอาแต่มองเศษพลอยแดงด้วยความเสียใจทุกวัน หลั่งน้ำตาเงียบๆ ดวงหน้าน้อยที่ซีดขาวแลคล้ายสะใภ้น้อยในบ้านนายพรานล่าสัตว์ที่เชิงเขาที่ถูกแม่สามีชั่วร้ายข่มเหงรังแกทุกวัน…
ทำให้ข้ารู้สึกผิด…
แม้จะรู้สึกผิด แต่ข้าไม่ได้ขออภัย เพราะความหยิ่งยโสของแมวไม่อนุญาตให้ข้าขออภัยนกตัวหนึ่ง!
แต่…อิ๋นจื่อดูจะเสียใจมากจริงๆ…
หลังจากคิดหน้าคิดหลังแล้ว ข้าก็หาอาหารง่ายๆ กิน จากนั้นก็แบกปลาแห้งหลายชิ้นแล้วไปจากภูเขาลั่วอิง เริ่มเที่ยวระเหเร่ร่อนไปสุดหล้าฟ้าเขียว
ข้าไม่รู้ว่าใช้เวลาไปมากเท่าไร ปีนขึ้นไปบนยอดเขาจูมู่หล่างหม่า ที่สูงกว่าท้องฟ้า เดินเข้าไปในพื้นที่ต่ำเป็นท้องกระทะของถู่หลู่ฟาน ที่ร้อนอบอ้าว เคยบุกไปขั้วโลกใต้ที่มีผนึกน้ำแข็งยาวไกลนับหมื่นหลี่ ที่นั่นดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกดิน ซัดมารปีศาจและมนุษย์ที่คิดจะข่มเหงข้าจนพ่ายแพ้ไปจำนวนนับไม่ถ้วน ในที่สุดก็พบหินกรวดแม่น้ำก้อนหนึ่งในลำธารที่ไหลมาจากภูเขาน้ำใสจนมองเห็นก้นบึ้ง
หินกรวดแม่น้ำละเอียดเกลี้ยงเกลาเป็นมันขลับ บนผิวมีลวดลายเป็นเส้นๆ หลากสีสัน รูปร่างลักษณะคล้ายแมวสามสีที่น่ารักตัวหนึ่ง เป็นความงามที่อัศจรรย์ยิ่ง จะต้องเป็นก้อนหินที่งดงามที่สุดในโลกแน่นอน!
ข้าวิ่งกระหืดกระหอบด้วยความตื่นเต้นดีใจกลับไปภูเขาลั่วอิง หลังจากผ่านการหลงทางอีกหลายครั้ง ในที่สุดก็มายืนอยู่ตรงหน้าอิ๋นจื่อ เอาหินกรวดแม่น้ำมอบให้เขาด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง กระดกหางขึ้นแล้วบอก “เก็บมาจากข้างทาง งามมากกระมัง!”
อิ๋นจื่อกลับไม่ได้ดีใจเหมือนที่ข้าคิดไว้ เขาประคองหินกรวดแม่น้ำไว้ในมือนิ่งงันอยู่เป็นนาน จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น “แมวโง่ ท่านไม่ได้กลับมาครึ่งปี เขตอำนาจของพวกเราถูกผู้อื่นยึดเอาไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”
“เช่นนั้นก็ไปตีกลับคืนมาแล้วกัน” ข้าพูดอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ “ง่ายดายยิ่งนัก”
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น…” น้ำตาของอิ๋นจื่อพลันร่วงเผาะๆ ลงมา ร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนัก
ข้าตกใจ รีบดึงชายเสื้อของตนเช็ดน้ำตาให้เขา แต่น้ำตายิ่งมาก็ยิ่งมาก ทำอย่างไรก็เช็ดไม่หมด ครั้นแล้วข้าจึงขยับเข้าไป คิดจะเลียน้ำตาบนใบหน้าของเขา
คิดไม่ถึงว่าอิ๋นจื่อกลับคว้าหูข้าไว้แน่น หยุดสะอื้นแล้วด่าว่า “แมวโง่! ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว! ความเคยชินแย่ๆ ของท่านที่ชอบเที่ยวเลียเที่ยวคลอเคลียคนไปทั่วต้องเปลี่ยนเสียที! จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น!”
“เจ็บๆ!” ข้าส่งเสียงร้องไม่หยุด รีบใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งผลักออกไป เขาที่อ่อนแอก็ปลิวกระเด็นไปชนกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้างทันที
ข้ายังคงสะบัดหูที่เจ็บอย่างไม่พอใจ มองเขาด้วยแววตาโกรธแค้น
อิ๋นจื่อกลับก้มหน้า เอ่ยเสียงแผ่ว
“ขอบคุณ”
ข้ามองเขาด้วยความประหลาดใจ ในที่สุดก็เข้าใจเหตุผลข้อหนึ่ง
ที่แท้อีกาชอบถูกตี…