เมื่อสองวันก่อนในไลฟ์ นักวาดการ์ตูนเรื่องฮิตในอินเตอร์เน็ตที่พอจะมีชื่อเสียงอยู่บ้างพูดถึงเรื่องนี้พอดี
ฟางไหลหยางมีลางสังหรณ์ เขานั่งตัวตรง ไม่ได้มีความคิดจะหลับตาพักผ่อนอีกต่อไป ใจเต้นรัวเร็วตึกตักๆ
ถ้า…ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นเหมียวไก่ฉีกจริงๆ ล่ะ…
สมองของฟางไหลหยางตั้งสมมติฐานเอาไว้อย่างเลื่อนลอย เขาขยับตัวช้าๆ เปลี่ยนอิริยาบถหามุมที่ดีที่สุดที่จะเห็นหน้าตรงของคนขับได้
แขนทั้งสองข้างของเหมียวเหมี่ยวควบคุมพวงมาลัยเอาไว้ เธอหักเลี้ยวเป็นวงกว้าง ถนนไม่ได้กว้างนัก ความจริงแล้วก็ไม่ควรจะโค้งกว้างขนาดนี้
ตัวของฟางไหลหยางโงนเงน ใช้ทั้งสองมือยันประตูรถเอาไว้ตัวถึงได้ไม่กระแทกไปที่ด้านข้าง โงนเงนได้ครั้งหนึ่งสมองก็พลันสดชื่นขึ้น
คิดอะไรอยู่นะ ต่อให้คนขับในแอพฯ เรียกรถคือเหมียวไก่ฉีก นักวาดการ์ตูนที่เมื่อชั่วโมงก่อนเพิ่งจะอัพรูปอวดอาหารรสเลิศบนเวยป๋ออย่างมีความสุข แล้วยังไงล่ะ? ก็แค่ได้รู้ว่าคนคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไรก็เท่านั้น เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชีวิตเลย ไม่จำเป็นต้องใส่ใจสักนิด
หลังเตือนตัวเองอย่างนั้น ฟางไหลหยางก็สงบจิตใจลง หลับตาพักผ่อนต่อ
ทว่าทักษะของคนขับรถผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนที่เธอพูดไว้จริงๆ แย่เอามากๆ เลยล่ะ
หลังหน้าผากฟางไหลหยางกระแทกกับประตูรถเป็นครั้งที่สิบ เขาก็ล้มเลิกการพักผ่อน ดวงตาทั้งสองข้างว่างเปล่าจดจ้องอยู่ที่นอกหน้าต่าง เหม่อลอยไปกับไฟถนนที่วูบวาบวนไปเรื่อยๆ ไม่หยุด อย่างไรก็ต้องทำจิตใจให้ว่าง เพราะว่า…ฟางไหลหยางพบว่าเขาเมารถเข้าแล้ว
ตอนจอดก็ไถลไปข้างหน้า ออกตัวก็กระตุกสามครั้ง ถ้าตอนนี้ต้องให้คะแนนทักษะการขับรถของเธอคนนี้ เขาก็ให้คะแนนเธอได้แล้ว
ทุกครั้งที่เจอสี่แยกไฟแดง ตอนหยุดรถ คนขับผู้น่ารักคนนี้ก็จะเหยียบเบรกจนสุดตัว แรงหนืดขนาดใหญ่ทำให้กระเพาะของฟางไหลหยางกลิ้งตลบ รอจนกระทั่งไฟเขียว กว่าจะออกตัวได้ก็ช้าเป็นเต่าคลาน ความเร็วในการเหยียบคันเร่งก็ไม่เสถียร เร็วบ้างช้าบ้าง ฟางไหลหยางกัดริมฝีปาก เกรงว่าตัวเองจะถูกทำให้เมารถจนวิงเวียน
“รูปหล่อ คุณจะหลับเหรอคะ ฉันเปิดแอร์แรงไปใช่หรือเปล่า คุณหนาวมั้ย” เหมียวเหมี่ยวเห็นฟางไหลหยางพิงหลับอยู่กับประตูรถจากกระจกหลังจึงถามด้วยความหวังดี
“แค่ก ไม่เป็นไรครับ” ฟางไหลหยางกระแอมขึ้นครั้งหนึ่ง ไม่ให้สมาธิของเขากลับไปรวมอยู่ที่ทักษะการขับรถของเธอ
เหมียวเหมี่ยวตั้งอกตั้งใจขับรถ แต่กลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นสักเท่าไร
นานสองนานฟางไหลหยางก็เอ่ยถาม “เอ่อ…ผมถามอะไรหน่อยได้หรือเปล่า”
“คะ?”
“คือว่า…คุณได้ใบขับขี่มาได้กี่เดือนแล้ว” ฟางไหลหยางระมัดระวังคำพูด
“…” มือที่กุมพวงมาลัยของเหมียวเหมี่ยวพลันหยุดนิ่ง แสงไฟจากรถฝั่งตรงข้ามส่องเข้ามาจากด้านหน้า เธอมองชายหนุ่มที่กำลังขมวดคิ้วจ้องไปนอกหน้าต่างที่นั่งอยู่บนเบาะผ่านกระจกมองหลัง หัวเราะด้วยความเก้อเขิน “เอ่อ…รูปหล่อ…ฉันได้ใบขับขี่มาสี่ปีแล้วน่ะ…”
“…”
“จริงๆ นะ! จริงๆ!” เหมียวเหมี่ยวเห็นสีหน้าตกตะลึงที่แสดงชัดว่าอีกฝ่ายไม่เชื่อเธอ ก็รีบร้อนอธิบาย “ถ้าไม่เชื่อฉันให้ดูใบขับขี่ของฉันก็ได้!” เธอพูดพลางเอื้อมมือล้วงใบขับขี่จากกระเป๋าเสื้อ