รถคันนี้เป็นคันเดียวกับที่ไปทำเรื่องให้ไม่ใช่เหรอ?! แล้วคนขับก็เป็นคุณเหมียวไก่ฉีกคนนั้นด้วย! นี่เธอถึงขนาดเอาน้ำจิตน้ำใจของประธานฟางมาหาเงินเลยเหรอ
เฉินตั๋วอยู่ในความสับสนอันน่าหวาดกลัว…เขาจะบอกประธานฟางดีหรือเปล่า ถ้าบอกไปแล้วประธานฟางเกิดไม่สบอารมณ์ขึ้นมา เขาอาจจะถูกหักเงินเดือนก็ได้ แต่พอคิดว่าจะปิดเอาไว้ก่อนก็นึกไปถึงว่าถ้าเกิดความลับแตกขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงจะถูกหักเงินเดือนอีกเช่นกัน
ทว่าถ้าปิดไปได้หนึ่งเดือน ก็จะได้เงินเดือนมาหนึ่งเดือน เฉินตั๋วจึงตัดสินใจว่าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“คนขับผู้หญิง หายากนะเนี่ย ฮ่าๆ!” เฉินตั๋วหัวเราะแก้เก้อ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สุดท้ายก็ขมวดคิ้ว “ทำไมถึงได้คะแนนน้อยอย่างนี้ล่ะ แค่สามดาวเอง…”
เฉินตั๋วอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่ามาตรฐานการบริการของคุณเหมียวไก่ฉีกต่ำจริงๆ หรือเปล่า
ฟางไหลหยางกลับไม่ได้คิดอย่างนั้น พยักหน้าอย่างสงบ “อ๋อ อย่างนั้นเองเหรอ”
เฉินตั๋วไม่รู้ว่าควรจะบอกเขาดีหรือเปล่า การเปลี่ยนคนขับใหม่ดูจะเข้าท่ากว่า ทว่าในใจก็มีความเห็นแก่ตัวอยู่นิดหน่อย อยากจะเห็นภาพที่ทั้งสองคนได้เจอหน้ากัน
“เอ๊ะ! ทำไมห่างออกไปไกลกว่าเดิมแล้วล่ะ” เฉินตั๋วจ้องมองระยะห่างของคนขับรถด้วยความงุนงง “รีบโทรไปถามเลยสิครับ โทรไปตามเบอร์โทรศัพท์ในข้อมูลนั่นเลย”
ฟางไหลหยางทำตามนั้น เดี๋ยวเดียวอีกฝ่ายก็รับสาย เสียงของหญิงสาวช่างน่าฟังและมีชีวิตชีวา ฟางไหลหยางได้ฟังก็รู้สึกกระชุ่มกระชวย
“สวัสดีค่ะ พวกคุณอยู่หน้าประตูใหญ่โรงแรมโรสใช่หรือเปล่าคะ” อีกฝ่ายคงจะเป็นเด็กสาวแรกรุ่น น้ำเสียงดูคล่องแคล่วเชียว “ตอนนี้ฉันกำลังไปที่ลานจอดรถ รอเดี๋ยวนะคะ”
“ครับ” ฟางไหลหยางตอบรับแล้ววางสาย
ฟางไหลหยางพยักหน้าให้เฉินตั๋ว “อีกเดี๋ยวก็มาแล้วล่ะ”
ผ่านไปสองนาทีรถโฟล์กสวาเกนสีขาวที่ดูคุ้นตาคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นหน้าโรงแรม ไฟหน้าทั้งสองข้างถูกเปิด เสียงแตรดังขึ้นสองครั้ง ‘ปี๊นๆ’
ฟางไหลหยางจดจ้องอยู่ที่ป้ายทะเบียนรถ เปรียบเทียบกับรูปในมือถือ ชี้ไปยังรถคันนั้นพลางเอ่ยกับเฉินตั๋ว “คันนี้เหรอ”
เฉินตั๋วไม่ได้ดูเทียบอะไรก็พยักหน้า ป้ายทะเบียนนี้เขาเป็นคนช่วยเลือกมาเอง เขาจำได้อย่างแม่นยำ ไม่จำเป็นต้องดูให้แน่ใจอีกรอบหรอก
“งั้นผมไปก่อนนะ คุณหาทางกลับบ้านเองก็แล้วกัน” ฟางไหลหยางเอ่ยกับเฉินตั๋วอย่างไร้เยื่อใย เปิดประตูได้ก็ขึ้นไปนั่งบนรถ
เดิมทีเฉินตั๋วอยากติดรถไปด้วย แต่ถูกฟางไหลหยางปิดทางอย่างนี้แล้วก็ไม่มีทางเลือกอื่น หยิบมือถือขึ้นมาเรียกรถด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
เจ้านายใจจืดใจดำเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเงินเดือนสูง เขาก็อยากลาออกอยู่เหมือนกัน
“รูปหล่อไปไหนเหรอคะ” ครั้นฟางไหลหยางขึ้นมาบนรถก็ได้ยินเสียงไพเราะของหญิงสาวเอ่ยกับเขาอย่างเป็นมิตร