ลิ่นจื่อเชินมองพู่ในมือนางแล้วอยากเมินใส่ คำว่า ‘ไม้ตกแมว’ ทำให้เขาสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างไรชอบกล พอเห็นนางย่างสามขุมเข้ามาหา เขาก็พยายามบังคับขาไม่ให้วิ่งหนีแล้วพูดกับตนเองว่า ‘ไม่ต้องกลัวสตรีผู้นี้ นางจะมาไม้ใดก็มา!’
ทว่าไม้ตกแมวนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อมันมาแกว่งไกวอยู่ตรงหน้า เขาก็เกิดคันไม้คันมืออยากขยับอย่างบอกไม่ถูก…จากนั้นเท้าหน้าของเขาก็ขยับเข้าไปตะปบพู่นั่นจริงๆ
เหตุใดเขาถึงอยากตะปบพู่ได้ล่ะ อ๋องหนุ่มพิศวงงงงวยอยู่ในใจ ขณะที่ขาหน้าตะปบปั้บๆ อย่างหยุดไม่อยู่ เขารู้สึกสนุกตื่นเต้นเหลือเกิน หากไม่ติดว่าเจ็บขาหลัง เขาคงยืนสองขาและโผเข้าไปตะปบพู่ทั้งตัวแล้ว
ช้าก่อน เพราะอะไรกันแน่เขาถึงได้ชอบเล่นของสิ่งนี้ ลิ่นจื่อเชินรู้สึกพรั่นพรึงเป็นอย่างยิ่ง
ทุกคนจ้องมองมีมีเล่นไม้ตกแมว ต่างรู้สึกสนุกสนานกันถ้วนหน้า
“ท่านอาใหญ่ ขอข้าเล่นบ้าง!” เสียงเอ๋อร์รับไม้ตกแมวมาจากมืออาหญิง แล้วนั่งยองๆ ล่อแมวน้อย “มีมี มองทางนี้!”
ข้าไม่ใช่แมว! ไม่ใช่แมว! ลิ่นจื่อเชินตะโกนบอกตนเองอย่างบ้าคลั่ง แต่ควบคุมสัญชาตญาณอีกทั้งห้ามขาหน้าไม่ให้ตะปบออกไปไม่ได้เลย เขาอยากคว้าพู่นั่นมาเล่นใจแทบขาด
“มีมีเก่งจังเลย!”
“มีมีสนุกใหญ่เชียวนะ!”
คนทั้งหมดพากันหัวเราะขัน โดยที่ซย่าหมิ่นหัวเราะดังกว่าใครเพื่อน
น่าโมโห! ลิ่นจื่อเชินถลึงตามองนางอย่างเคียดแค้น ทว่าขณะเดียวกันก็เล่นอย่างสนุกสนาน
ซย่าหมิ่นมองมีมีเอาเป็นเอาตายกับการไล่ตะปบพู่ก็คิดในใจว่าดีแล้วที่ยอมเลี้ยงแมวตัวนี้ มันจะได้เป็นเพื่อนเล่นให้เด็กๆ จากนั้นนางก็เหลือบไปเห็นกรงเล็บของแมวน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วรีบดึงไม้ตกแมวออกจากมือหลาน
ลิ่นจื่อเชินกำลังเล่นติดลมบน หน้าดำๆ จึงบูดสนิทเหมือนกำลังถามนางว่าเอาออกไปด้วยเหตุใด
“ท่านอาใหญ่ ข้ายังอยากเล่นอีก”
“ข้าก็อยากเล่น”
“สักครู่ค่อยเล่นนะ มีมีเล็บยาวมาก เดี๋ยวจะโดนข่วนเอา ให้ท่านอาใหญ่ตัดเล็บมีมีก่อน” ถ้าเล่นๆ กันอยู่เกิดข่วนโดนเด็กเป็นแผลล่ะไม่ดีแน่
ทันทีที่เอ่ยคำว่า ‘ตัดเล็บ’ ลิ่นจื่อเชินก็อยากหนีไปทันทีด้วยสัญชาตญาณแมว ทว่าซย่าหมิ่นเข้าไปตะปบเขาจากข้างหลังได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
“ม้าว!” บังอาจ! อย่ามาแตะต้องข้านะ! อ๋องหนุ่มคำรามลั่น เขาไม่เคยชอบให้สตรีเข้าใกล้ ยิ่งถ้าสตรีผู้นั้นเหิมเกริมและไร้มารยาท เขาจะยิ่งรังเกียจเดียดฉันท์เป็นพิเศษ ไม่มีวันเสียล่ะที่จะยอมให้นางแตะต้องแม้แต่ปลายขน
ซย่าหมิ่นเห็นเขาขัดขืนสุดแรงก็พูดขู่เหนือหัวเขา “อยู่นิ่งๆ หน่อย ไม่เช่นนั้นวันนี้เจ้าต้องไปจับหนูกินเองเป็นข้าวเย็น”
ลิ่นจื่อเชินแข็งทื่อทั้งตัว ไม่กระดุกกระดิก แม้ใบหน้าจะปกคลุมด้วยขนสีดำปลอดก็ยังมองออกอย่างชัดเจนว่าเขากลัวจนทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว
พวกเด็กๆ เห็นก็พากันร้องแจ้วๆ “ท่านอาใหญ่ มีมีกลัวหนูล่ะ!”
“เพิ่งเคยเห็นแมวกลัวหนูเป็นครั้งแรก แมวตัวนี้ตลกจริงๆ” ซย่าจื้อหัวร่องอหาย ขณะที่ซย่าเจวี้ยนเอามือป้องปาก หัวเราะขันอย่างห้ามไม่อยู่
ซย่าหมิ่นได้ยินดังนั้นก็ยื่นหน้าเข้าไปด้วยความอยากรู้ จากนั้นก็ขำพรวด “จริงด้วยสิ มีมีกลัวหนู เชื่อเขาเลย ทำหน้าตลกเหลือเกิน กลัวจนไม่กล้าขยับตัวแล้ว ฮ่าๆ!” นางหัวเราะลั่นอย่างไม่เกรงใจ
คนพวกนี้กล้าหัวเราะเยาะข้ากันดีนักนะ! ลิ่นจื่อเชินเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาเคียดแค้นสตรีที่จับตัวเขาเป็นพิเศษ เพราะนางหัวเราะดังกว่าใครเพื่อน
ข้ากลับเข้าร่างเดิมได้เมื่อไร จะมาจัดการเจ้าเป็นคนแรก!