ลิ่นจื่อเชินมีหลักการสำคัญอยู่สามอย่าง
หนึ่ง ไม่เลียขน
สอง ไม่ใช้กล่องมูลแมว
สาม ไม่เล่นไม้ตกแมว
เขาจะไม่ยอมเป็นแมวเด็ดขาด!
ทว่า…หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งวัน สองวัน สามวัน หลายต่อหลายวัน เขาก็คุ้นเคยกับการเป็นแมวไปแล้ว
เลียขนไม่เห็นมีอะไรเสียหาย เขารักสะอาดนี่นาก็ต้องคอยดูแลตนเองให้สะอาดสะอ้านตั้งแต่หัวจรดเท้าสิ ตอนเช้าๆ พอได้เลียขนแต่งตัวให้เรียบร้อย อารมณ์ก็เบิกบานไปด้วย ไม่อยากจะบอก ถึงเขาจะดำมิดหมีไปทั้งเนื้อทั้งตัว แต่ขนก็สวยนุ่มเป็นประกายวาววับ
กล่องมูลแมวเขาก็ใช้ได้อย่างสะดวกสบาย ช่างสะอาดดีเหลือเกิน
ส่วนไม้ตกแมวเห็นเจ้านี่ทีไรเขาเป็นต้องอยากเล่นทุกครั้ง…แค่กๆ คิดเสียว่าฝึกฝนร่างกายก็แล้วกัน เหมือนอย่างแต่ก่อนที่เขาต้องฝึกกระบี่หรืออะไรทำนองนี้ทุกวัน ตอนนี้กลายเป็นแมว ฝึกไม่ได้ หาอะไรทำขยับแข้งขยับขาก็ดีไม่น้อย
สรุปก็คือลิ่นจื่อเชินสัมผัสข้อดีของการเป็นแมวได้อย่างถ่องแท้ มีที่ให้อยู่ให้กิน ได้รับการดูแลอย่างดีไม่ต่างจากตอนเป็นอ๋องตรงที่ใด คนบ้านนี้มีแต่ทาสแมวที่ต้องคอยรับใช้เขาทั้งนั้น
ทว่าสวรรค์มักไม่ให้เราสมปรารถนาทุกอย่าง…เหตุใดเขาถึงต้องกลายเป็นแม่นมคอยดูแลทาสแมวน้อยทั้งสองด้วยเล่า
อย่างตอนนี้เสียงเอ๋อร์กับเฉี่ยวเอ๋อร์กำลังเล่นชิ้นไม้เล็กๆ ที่แต่ละชิ้นทาสีต่างๆ กัน สามารถเอามาต่อกันเป็นบ้านได้ นี่คือตัวต่อที่ซย่าหมิ่นประดิดประดอยให้หลานๆ เล่น
ลิ่นจื่อเชินนอนปรายตามองอย่างเกียจคร้าน เขารู้ว่าเป็นของเล่นที่สตรีผู้นั้นทำให้เด็กๆ เอามาต่อเป็นบ้านได้ เห็นเด็กสองคนเล่นกันอย่างสนุกสนานก็นึกหมั่นไส้เลยแกล้งเอาหางปัดให้ล้ม
“บ้านพังแล้ว!”
“มีมีเอาหางปัด…”
“มีมีนิสัยไม่ดี!”
“ต่อใหม่แล้วกัน”
พวกเด็กโง่! เด็กๆ นอกจากจะไม่โกรธยังลงมือต่อบ้านใหม่ ลิ่นจื่อเชินเห็นแล้วเลยขี้เกียจแกล้งซ้ำ
เล่นตัวต่อเสร็จ พวกเด็กๆ ก็เล่นบัตรภาพกัน โดยปูผ้าสะอาดลงบนพื้นดินแล้วเรียงบัตรไว้เต็มผ้า
บัตรภาพนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ของซย่าหมิ่น นางวาดรูปดอกไม้ ใบไม้ สัตว์นานาชนิดไว้ข้างบนพร้อมเขียนตัวเลขกำกับ วิธีเล่นคือคนหนึ่งกำหนดลาย อีกคนหาภาพบนบัตรให้ตรง โดยจะต้องหาให้เจอในเวลานับห้าถอยหลัง ใครหาได้มากที่สุดเป็นผู้ชนะ จุดประสงค์ของของเล่นชนิดนี้คือกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของเด็กและช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้
“หมา!”
“หมาอยู่นี่! หอยทาก!”
“เจอหอยทากแล้ว! ซาลาเปาเนื้อ!”
“เจอแล้ว! นก!”
รูปวาดฝีมือหยาบ อัปลักษณ์สิ้นดี ลิ่นจื่อเชินเหล่มองอย่างรังเกียจก่อนจะเบือนหน้าหนี คำว่า ‘น่าเบื่อ’ เขียนอยู่บนใบหน้าดำๆ
“นกอยู่ที่ใด เหตุใดถึงหาไม่เจอ” เฉี่ยวเอ๋อร์กวาดตามองหาจากบัตรภาพยี่สิบกว่าใบ
เสียงเอ๋อร์กระหยิ่มยิ้มย่อง “ตานี้ข้าชนะแน่! ข้าจะเริ่มนับล่ะนะ ห้า สี่ สาม…”
เจ้าเด็กบ้า ยอมให้น้องหน่อยก็ไม่ได้! ลิ่นจื่อเชินเดินเข้าไปแกว่งหางเบาๆ แอบบอกให้เฉี่ยวเอ๋อร์รู้ว่าบัตรรูปนกอยู่ตรงที่ใด
“เจอแล้ว!” เด็กหญิงมองเห็น แล้วรีบไปหยิบขึ้นมาอย่างรวดเร็ว