ซย่าหมิ่นหันไปมอง เห็นแมวดำนอนอยู่ตรงนั้น ค่อยๆ เลียขนตนเองอย่างเกียจคร้าน “มีมี ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าให้นอนในรังของเจ้า ห้ามขึ้นมาบนเตียง”
เขาไม่ได้โง่เสียหน่อย มีเตียงนุ่มๆ เรื่องอะไรจะไปนอนลังกระดาษ ไม่นอนเตียง ลิ่นจื่อเชินเงยหน้าขึ้นมาปรายตามองนาง ซย่าหมิ่นสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ากำลังถูกแมวมองเหยียด
“ท่านอาใหญ่ มีมีอยากนอนกับพวกเรา”
“นอนด้วยกันๆๆๆ”
ยังไม่ทันที่ซย่าหมิ่นจะร้องห้ามว่าไม่ได้ มีมีก็ถูกเสียงเอ๋อร์กับเฉี่ยวเอ๋อร์อุ้มเข้ามานอนในผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว
แมวดำทำหน้าขัดขืนทว่าก็อ่อนใจไม่รู้จะทำอย่างไรดี ซย่าหมิ่นเห็นแล้วนึกขัน นางรู้สึกแต่แรกแล้วว่ามีมีฉลาดแสนรู้มาก แต่เพิ่งจะเคยได้เห็นความอ่อนโยนของมันก็ตอนนี้
ถูกต้อง มันเป็นแมวอ่อนโยน แม้จะชอบทำท่าเย่อหยิ่ง ไม่แยแส ไม่ชอบอ้อนคน เวลาเด็กๆ ลูบตัวมันแรง มันก็จะถลึงตาใส่ เรียกว่าเป็นแมวที่ไม่น่าเอ็นดูเอาเสียเลย แต่ไม่ว่าเด็กๆ จะเล่นซนเพียงใด มันก็ไม่เคยกางเล็บใส่หรือกัดพวกเขาเลย อย่างมากก็แค่เบี่ยงตัวหลบอย่างเหนื่อยใจเท่านั้น เห็นป้าอิ๋นฮวาเล่าว่าเวลาหลานๆ ไปเล่นกันตรงหลังบ้านมันก็จะคอยเฝ้าดูอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ซ้ำยังจับตามองอย่างเคร่งครัดราวกับเป็นแม่นมก็ไม่ปาน มีอยู่ครั้งหนึ่งเด็กๆ คิดจะแอบหนีออกไปข้างนอก มันก็แกล้งเอาตัวถูออดอ้อนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของหลานๆ จากการหนีออกไปเที่ยว
ซย่าหมิ่นรู้สึกจากใจจริงว่าดีเหลือเกินที่มีมีมาอยู่ด้วย แม้มันจะชอบวางทางเย่อหยิ่งสูงส่ง แต่ก็เป็นแมวที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย
“เอาเถิด ข้าอาบน้ำให้เจ้าแล้วนี่ ตัวสะอาดก็ไม่เป็นไรหรอก” นางกล่าวยิ้มๆ ยอมประนีประนอมอย่างรวดเร็ว
ข้าเลียขนตนเองทุกวัน สะอาดออกจะตายไป! ลิ่นจื่อเชินถลึงตาใส่นางอย่างดุดันพลางนอนนิ่งไม่กระดุกกระดิกอยู่บนเตียงขณะถูกมือเล็กๆ สองคู่ลูบไล้
รอจนหลานๆ หลับสนิทแล้ว ซย่าหมิ่นก็เตรียมตัวเข้านอนบ้าง นางเหลือตะเกียงไว้ดวงหนึ่ง จากนั้นก็ขึ้นเตียง เอนตัวนอนตะแคงตรงริมนอกสุด พอกำลังจะปิดตาลงก็เห็นเงาดำๆ ขยับยุกยิก ยังนึกว่าอะไรเสียอีก ที่แท้ก็มีมีที่พยายามดิ้นให้หลุดจากมือของเด็กๆ เลยโดดแผล็วออกมา ดวงตาสีเขียวประสานเข้ากับสายตาของนางเข้าพอดี
ซย่าหมิ่นมองแมวดำพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน “มีมี มานี่”
ดวงตาสีเขียวของลิ่นจื่อเชินเป็นประกายแวววามเหมือนต้องมนตร์สะกดของหญิงงามบนเตียง เขาเดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย ก่อนจะหาตำแหน่งเหมาะๆ นอนขดตัวข้างกายนาง
หญิงสาวลูบไล้ขนอ่อนนุ่มสีดำ “มีมี ดีจริงที่มีเจ้า”
ลิ่นจื่อเชินไม่ชอบถูกลูบตัว เนื่องจากพวกเด็กๆ มักควบคุมน้ำหนักมือไม่เป็นและลูบดะไปทั่ว ถึงไม่ชอบเขาก็ได้แต่ทน ทว่าการลูบไล้ของนางเป็นสัมผัสที่เพลิดเพลินอย่างยิ่ง นางลูบตัวเขาเบาๆ อย่างอ่อนโยน พึมพำว่าดีจริงที่มีเขา ทำให้บางซอกมุมในใจเขาอ่อนนุ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“มีมี นอนเถิด” ซย่าหมิ่นปิดตาลงอย่างง่วงงุน
ลิ่นจื่อเชินไม่ได้หลับตามไปด้วย แต่ใช้ดวงตาสีเขียวคู่นั้นจ้องมองใบหน้าของนาง ส่วนต่างๆ บนใบหน้าดูอ่อนหวานนุ่มนวลเป็นพิเศษยามหลับใหล สุดท้ายก็หยุดสายตาลงกับใบหูขวาที่ขาวผ่องราวกับหิมะ เพ่งพิศอยู่อย่างนั้น เหมือนชอบใบหูของนางเป็นพิเศษ
นานทีเดียวกว่าที่เปลือกตาจะเริ่มหนัก เขาขยับตัวเข้าไปใกล้ซย่าหมิ่นให้มากขึ้น จนดูคล้ายนอนแอบอิงหลับไปด้วยกัน