หลี่ชีฉือได้รับการแต่งตั้งเป็นชิงหลิวเซี่ยนจู่ ตอนนั้นนางจึงอ้างว่าจะไปดูอำเภอชิงหลิวอันเป็นเขตปกครองของตนเอง เมื่อกลับตำหนักมาอีกครั้งนางก็นำเงินก้อนหนึ่งมามอบแด่พี่ชาย ช่วยสมทบเป็นสินบรรณาการให้เขาถวายฮ่องเต้
พอพี่ชายถามว่าเงินก้อนนี้มาจากที่ใด นางก็ตอบตามจริงว่านำคฤหาสน์ในชื่อตนเองไปเปลี่ยนเป็นเงินจากโรงจำนำของสามัญชน
กวงอ๋องตกใจเสียไม่มีดี โรงจำนำคิดดอกเบี้ยทบต้น หากนำเงินไปไถ่คืนไม่ได้จะทำอย่างไร มิกลายเป็นเรื่องน่าขันให้คนทั้งแผ่นดินหัวเราะเยาะเอาหรือ
หลี่ชีฉือกัดฟันตอบไปว่า ‘ไว้ค่อยหาเงินไปไถ่คืนมาให้ได้ก็พอ’
พี่ชายทำหน้าเครียดอยู่นาน สุดท้ายกลับเอามือปิดหน้าหัวเราะลั่น ยกนิ้วชี้นางพลางส่ายหัวดิก ‘เจ้านี่ช่างบ้าบิ่นจริงๆ!’
หลังจากนั้นไม่ว่านางจะออกจากตำหนักเดินทางไปที่ใด เขาก็แสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เคยถามไถ่
ในเมื่อถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลือก ก็มีแต่ต้องกลั้นใจทำไปเท่านั้น
ใครเลยจะคาดคิดว่าทำไปทำมา กิจการของนางจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหยุดไม่ได้เสียแล้ว
ก็เงินเป็นของดีจริงๆ นี่นา
แขกส่วนใหญ่ของโรงเตี๊ยมเป็นพ่อค้าเร่ที่นำของไปตระเวนขายตามที่ต่างๆ เพื่อหาเงินยังชีพ ปกติจะออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อเดินทางต่อตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง
กลุ่มเก่าออกไปก็มีกลุ่มใหม่เข้าพักแทน
แสงอรุโณทัยส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ซินลู่กำลังเกล้าผมให้ผู้เป็นนาย
หลี่ชีฉือมองปิ่นทองคำที่ถืออยู่ในมืออย่างลังเลกับน้ำหนักของมัน แต่สุดท้ายก็ยังยื่นให้สาวใช้
“นายหญิงจะปักปิ่นอันนี้หรือเจ้าคะ” ซินลู่ถามอย่างพิศวง แต่ไหนแต่ไรเจ้านายไม่ชอบเครื่องประดับหนักๆ เช่นนี้ไม่ใช่หรือ
เมื่อคืนเจ้าหลานชายรบเร้าให้นางเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังอยู่เป็นนานจนได้นอนไม่เต็มอิ่ม หลี่ชีฉือพยักหน้าตอบสาวใช้อย่างเกียจคร้านทั้งที่ยังไม่ลืมตา
ซินลู่ปักปิ่นให้แต่โดยดี
เพิ่งจะแต่งตัวเสร็จ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ฝ่ายตรงข้ามเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องโดยไม่รอคำอนุญาต
ซินลู่หันไปตั้งท่าจะเอ็ด แต่พอเห็นผู้มาใหม่ ความขุ่นใจก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ปรีดา “ชิวซวงตามมาถึงแล้ว”
หลี่ชีฉือลืมตาหันไปมองชิวซวง สาวใช้คนสนิทอีกคนเดินเข้ามาในชุดเสื้อคลุมคอกลม อันเป็นเครื่องแต่งกายแบบบุรุษเพื่อความสะดวกยามตะลอนๆ อยู่ข้างนอก
“คารวะนายหญิง” ชิวซวงย่อตัวคำนับ แล้วรีบรายงานด้วยรอยยิ้มเต็มหน้าโดยไม่สนใจว่าตนเองจะเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการเดินทาง “บ่าวจัดการงานที่นายหญิงมอบหมายเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ คนของตำหนักยงอ๋องตามบ่าวมาถึงที่นี่ มุ่งมั่นจะขอพบนายหญิงให้ได้”
หลี่ชีฉือลุกขึ้นยืนยิ้มๆ “ดีที่ข้าเดินทางช้า หาไม่หากเข้าเมืองก่อน เขาอาจตามไม่ทัน”