กล่าวกันว่าอาหารการกินนั้นสูงค่าที่ความวิจิตรเลิศรส มิใช่ที่ปริมาณ ตั้งแต่เป็นทหารมา เขายังไม่เคยกินของพวกนี้มาก่อน
บ่าวไพร่เหล่านั้นยังยืนรออยู่ข้างนอก ดูท่าเมื่อพวกเขากินอาหารบนโต๊ะหมดเมื่อไรก็คงจะยกของใหม่มาเพิ่มให้อีก
นึกว่าเท่าที่เห็นตอนแรกหรูหรามากแล้ว มาเจออาหารตรงหน้าถึงได้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงของหายากที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น
หลัวเสี่ยวอี้ชะโงกตัวเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างอดรนทนไม่ไหว “พี่สาม ถ้าอย่างไรข้าไปเตือนให้พี่สะใภ้มัธยัสถ์หน่อยดีหรือไม่”
“อย่าพูดมาก” ฝูถิงตอบกลับพลางหยิบตะเกียบ ความหมายคือ ‘จะกินก็กิน ไม่กินก็ไสหัวไป’
หลัวเสี่ยวอี้ยกมือลูบหน้า พี่สามของเขาเป็นชายชาติอาชาไนยผู้สมบุกสมบัน ส่วนชิงหลิวเซี่ยนจู่นั่นเป็นหญิงสูงศักดิ์ผู้เคยชินกับความหรูหราฟุ้งเฟ้อ แล้วเช่นนี้จะร่วมชีวิตกันได้อย่างไร
อาหารมื้อนั้นผ่านไปด้วยความกลัดกลุ้ม หลัวเสี่ยวอี้เอ่ยลาเพราะมารบกวนเจ้าบ้านมากพอแล้ว
เพิ่งจะเดินออกจากห้องก็ฝืนทำเป็นยิ้มทะเล้นพูดหยอกล้อว่า “วันนี้พี่สามเสียเงินไปอักโข ต้องถอนทุนคืนจากพี่สะใภ้ให้มาก ข้าไม่อยู่ขัดจังหวะเรื่องดีๆ ของพวกท่านสองสามีภรรยาแล้วล่ะ”
ฝูถิงไม่สนใจคนสนิท ในหัวมีแต่ภาพปลายนิ้วเท้าขาวผ่องที่เห็นแค่ไวๆ ภาพนั้น
หลัวเสี่ยวอี้เห็นนัยน์ตาอีกฝ่ายเป็นสีเข้มลึกใต้แสงตะเกียงราวกับหมาป่า ก็เดินออกมาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
แต่ตอนกำลังจะเลี้ยวไปตามโค้งเฉลียงทางเดิน เขาก็ปะเข้ากับชิวซวงที่มาแจ้งว่า “นายหญิงเชิญท่านขุนพลไปคุยกันหน่อย”
ความคิดของหลัวเสี่ยวอี้แล่นไปอีกทาง
เห็นทีจะคุยเรื่องเงินกระมัง อย่าบอกนะว่านางร้อนใจอยากได้เงินคืนเร็วๆ
หลี่ชีฉืออยู่ที่เรือนหลี่เยี่ยน
นางใช้เวลาระหว่างที่ฝูถิงนอนหลับจนถึงกินข้าวมานั่งคัดอักษรเป็นเพื่อนหลานชายอยู่นาน จนได้ยินสาวใช้รายงานว่าเชิญคนที่ต้องการพบมาแล้ว ถึงค่อยหยุดมือ
หลี่เยี่ยนนำสมุดคัดลายมือสองเล่มไปเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พอเหลือบตาขึ้นมาเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาในห้องเป็นใครก็เบ้ปาก แล้วเข้าไปยืนข้างผู้เป็นอาโดยไม่ส่งเสียง
หลัวเสี่ยวอี้เห็นว่าซื่อจื่อที่ตนเคยล่วงเกินอยู่ในห้องด้วยก็ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะประสานมือคำนับ “ไม่ทราบว่าพี่สะใภ้เซี่ยนจู่มีสิ่งใดจะบัญชาถึงได้ให้คนไปตามข้าน้อยมา”
หลี่ชีฉือนั่งอยู่ในเงามืด มองเห็นหน้าไม่ถนัด นางเพียงแค่ยกมือทีเดียว จากนั้นซินลู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ประคองกล่องไม้ใบหนึ่งมามอบให้เขา
หลัวเสี่ยวอี้รับมาเปิดดูด้วยความสงสัย สิ่งที่อยู่ข้างในคือมีดสั้นสองคม ปลอกทำจากทองคำแท้ หยิบขึ้นมาถือแล้วหนักอึ้งอยู่ในมือ
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังขา “นี่คือ?”
หลี่ชีฉือเอ่ย “ตอบแทนที่เมื่อก่อนเจ้าสิ้นเปลืองส่งของขวัญไปให้หลายครั้ง”
หลัวเสี่ยวอี้ใจหายวาบ ถ้าจะทำตามที่พี่สามบอก พวกเขาก็ต้องจ่ายค่ามีดสั้นนี่ด้วย แล้วเขาจะต้องรับของของพี่สามให้สิ้นเปลืองไปไย
หลัวเสี่ยวอี้กำลังจะหาข้ออ้างปฏิเสธก็ได้ยินนางพูดขึ้นมาเสียก่อน