ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 1-2 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 1-2

เสียนอ๋องซู่อวิ้นยังอยู่ที่นี่ เจียงจู่วั่งเรียกฝานจิ้งกลับมาหารือกันที่ค่ายใหญ่เป็นการลับ

เดิมทีฝานจิ้งเป็นคนทางฝั่งมารดาของเจียงหานหยวน เพิ่งเข้ากองทัพเมื่อสิบกว่าปีก่อน เห็นเจียงหานหยวนเป็นเจ้านายอีกคน น่ากลัวว่ามอบความจงรักภักดีให้นางมากกว่าให้เจียงจู่วั่งเสียด้วยซ้ำ จึงไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องนี้กับเจ้าตัว

ฝานจิ้งเพิ่งรู้จุดประสงค์การเดินทางขึ้นเหนือของซู่อวิ้นก็ตอนนี้เอง ไม่ต้องบอกเลยว่าจะสะท้านใจด้วยความตระหนกสักเพียงใด

“ท่านแม่ทัพใหญ่ตอบรับไปแล้วหรือ”

เขาถามอย่างตกตะลึง แต่ประโยคนั้นเพิ่งหลุดออกจากปากก็รู้ตัวทันทีว่าเผลอพูดจาไม่ควรเข้าเสียแล้ว

ฝ่ายชายเป็นถึงผู้สำเร็จราชการจัดการงานราชสำนัก ฐานะแทบไม่ต่างจากฮ่องเต้ เมื่อเอ่ยปากถึงเรื่องเช่นนี้ ซ้ำยังให้ซู่อวิ้นมาเจรจาด้วยตนเอง คนเป็นขุนนางมีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยหรือ

คิดให้ถ้วนถี่ยิ่งกว่านั้น แม้เรื่องนี้ออกจะกะทันหันไปบ้าง ทว่าก็ไม่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด

แต่เดิมองค์เกาจู่ปฐมฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งแคว้นเป็นเจ้าครองแคว้นทางเหนือ ยึดครองพื้นที่แถบฉินยงไว้เมื่อหลายสิบปีก่อน สร้างแคว้นขึ้นในยุคที่บ้านเมืองปั่นป่วนจากการยกทัพปราบปรามกันระหว่างฝักฝ่ายต่างๆ ฮ่องเต้เซิ่งอู่ที่ขึ้นสืบราชสมบัติในกาลต่อมายิ่งเชี่ยวชาญแผนการศึก สู้ศึกออกตกเหนือใต้ในช่วงยี่สิบกว่าปีที่ครองราชย์ จนสามารถทำลายการใช้กำลังยึดครองดินแดนครั้งสุดท้ายได้เมื่อสิบกว่าปีก่อน รวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น ปิดฉากการแตกแยกและสงครามรบพุ่งอันยาวนานลงโดยสมบูรณ์

ทว่าในเวลาเดียวกันความระส่ำระสายวุ่นวายนานปีของจงหยวน ก็เปิดโอกาสทองให้ชาวตี๋ที่อยู่ทางเหนือรุกลงใต้

เวลานั้นทางเหนือมีแคว้นใหญ่เรืองอำนาจอยู่สองแคว้น หนึ่งคือเว่ย หนึ่งคือจิ้น มีแม่น้ำหวงเหอไหลกั้นกลาง ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำคือเว่ย ฝั่งตะวันออกคือจิ้น แต่เดิมทั้งสองแคว้นยื้อแย่งชิงอำนาจกันมาช้านาน ทว่าในยุคหลังแคว้นต้าเว่ยเฟื่องฟูขึ้นเรื่อยๆ ฮ่องเต้แคว้นจิ้นหมายจะจับมือเป็นพันธมิตรกับชนเผ่าตี๋ที่เป็นดินแดนเพื่อนบ้านนอกด่านทางเหนือ ยืมกำลังชาวตี๋มาช่วยตนต้านต้าเว่ย ดังนั้นเมื่อพวกเป่ยตี๋ยกทัพมารุกรานจึงชักศึกเข้าบ้านด้วยการถอยให้ ผลสุดท้ายนอกจากจะไม่สามารถรักษาเขตแดนของตนเอาไว้ได้ ยังพลอยเสียมณฑลสำคัญทางเหนือที่แต่เดิมเคยเป็นของแคว้นจิ้นอย่างซั่วโจว เหิงโจว เยียนโจว และโยวโจวไปให้ชาวตี๋ทั้งหมด

หลังจัดการกับความวุ่นวายภายในจนสงบ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้แผ่นดินได้แล้ว ฮ่องเต้เซิ่งอู่ก็เบนสายตามายังชายแดนเหนือ วางแผนชิงมณฑลใหญ่อย่างซั่วโจว เหิงโจว เยียนโจว และโยวโจวกลับมา ปรากฏว่าระหว่างทางยกทัพออกศึกขึ้นเหนือ โรคเก่ากำเริบจนได้แต่นอนติดเตียง แผนการจึงถูกล้มเลิกไปเพียงเท่านั้น

หลายปีให้หลังฮ่องเต้เซิ่งอู่เสด็จสวรรคต รัชทายาทขึ้นสืบราชบัลลังก์ มีสมัญญานามว่า ‘หมิงตี้’

สมัยที่ยังเป็นรัชทายาทฮ่องเต้หมิงตี้เป็นคนที่ความสามารถไม่โดดเด่นที่สุดในหมู่พี่น้อง แต่เนื่องจากมีนิสัยโอบอ้อมอารีเปี่ยมคุณธรรมมาตั้งแต่เด็ก เมื่อขึ้นครองแผ่นดินจึงชนะใจผู้คน เสียดายก็แต่ช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ครองราชย์แผ่นดินเกิดความวุ่นวายมิได้หยุดหย่อน แรกสุดมีภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ภายหลังยังเกิดเหตุองค์ชายก่อกบฏ ฮ่องเต้หมิงตี้เหนื่อยล้าทั้งกายใจจนไม่มีแรงเหลือให้สนใจดินแดนทางเหนือที่สูญเสียไป หลังป่วยหนักจนลาลับไปเมื่อปีกลาย เหล่าขุนนางได้มอบบัลลังก์แด่องค์ชายเจี่ยนวัยสิบสองพรรษา ให้เป็นฮ่องเต้องค์ที่สี่ของต้าเว่ย ปีถัดมาซึ่งก็คือปีนี้ได้เปลี่ยนชื่อรัชศกเป็นเทียนเหอ กล่าวคือเวลานี้อยู่ในสมัยของฮ่องเต้น้อยนั่นเอง

ฮ่องเต้น้อยยังเยาว์วัย ไม่อาจจัดการงานราชกิจด้วยตนเอง ก่อนฮ่องเต้หมิงตี้จะสวรรคตจึงได้แต่งตั้งให้ฉีอ๋องน้องชายคนที่สามของตนเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการ ฝากฝังให้เขาและที่ปรึกษาราชการอีกคนช่วยกันช่วยเหลือเกื้อหนุนฮ่องเต้น้อย

แม้ฝานจิ้งจะประจำการอยู่ชายแดนมาชั่วนาตาปี แต่ก็พอรู้คร่าวๆ ว่าราชสำนักในเวลานี้ค่อนข้างซับซ้อนทีเดียว

ในอดีตฉีอ๋องดำรงบรรดาศักดิ์เป็นอันเล่ออ๋อง ถือกำเนิดจากมารดาผู้มีสายเลือดสูงส่ง สมัยที่ฮ่องเต้เซิ่งอู่ยังมีชีวิตก็รักใคร่โปรดปรานโอรสผู้นี้เป็นอันมาก ระหว่างนอนป่วยซมอยู่บนเตียงยังเคยแต่งตั้งให้อีกฝ่ายเป็นผู้แทนพระองค์เดินทางมาชายแดนทางเหนือเพื่อบำรุงขวัญทหาร สง่าราศีของอันเล่ออ๋องหนุ่มน้อยในครานั้นยังประทับติดตรึงอยู่ในใจฝานจิ้งมิรู้เลือนแม้จะผ่านมาหลายปี ทว่าหากพูดกันในฐานะผู้สำเร็จราชการ ทั้งประสบการณ์และอายุของเจ้าตัวยังทำให้ผู้คนศรัทธาไม่ได้

หลายปีก่อนหน้านี้พื้นที่ที่ราชสำนักให้ความสำคัญยังไม่ใช่ทางเหนือ เจียงจู่วั่งที่รักษาชายแดนมายี่สิบกว่าปีเหมือนถูกลืม เพิ่งจะไม่กี่ปีมานี้เองที่ปัญหาแนวชายแดนทางเหนือชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม่ทัพใหญ่จึงพลอยเป็นที่จับตามองตามไปด้วย พิจารณาจากชื่อเสียงในเวลานี้ของเจียงจู่วั่งก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าเหตุใดอ๋องผู้สำเร็จราชการถึงเลือกเจียงหานหยวนมาเป็นชายา

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 84.1-84.2

    By

    บทที่ 84.1 ชายาเป่ยเจิ้นอ๋องมองชุดรัดเอวแขนหลวมทำจากผ้าพลิ้วกรุยกรายลายปักซูซิ่ว บนร่างองค์หญิงอวี๋หยางอีกครา ดูคล้ายกับแบบที่ซูลั่วอวิ๋นสวม...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 83.1-83.2

    By

    บทที่ 83.1 หานเหยาได้ยินน้องชายพูดขึ้นมา นางก็เอ่ยอย่างลิงโลด “ดี! พี่สะใภ้ ท่านไม่ต้องกลับไปที่หมู่บ้านเฟิ่งเหว่ยแล้ว ที่นั่นวุ่นวายเหลือเก...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 82.1-82.2

    By

    บทที่ 82.1 ที่แท้จ้าวกุยเป่ยคิดว่าให้สัญญากับหานเหยาไว้ว่าจะมารับลูกอมก็จำเป็นต้องรักษาคำพูดหรือไร หานหลินเฟิงคร้านจะแยแสบุรุษหัวทึบผู้นี้ เ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 ราตรีวุ่น แววตาเสิ่นเฉียนมืดทะมึน กัดริมฝีปาก ปลายคางเกร็งแน่นเผยความแข็งกร้าวอยู่ในที “ที่แท้ถูกเด็ดปีกหมดสิ้นแล้วเนรเทศมาให้ข้านี่...

  • ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 81.1-81.2

    By

    บทที่ 81.1 ฉิวเจิ้นเพ่งตามองดูแล้วก็พบว่าไม่เพียงกำแพงของค่ายเสบียงมีการต่อเติมให้สูงขึ้น ยังขุดคูลึกรอบตัวกำแพงทั้งด้านนอกด้านในเพิ่มอีกสอง...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com