ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 36-37 – หน้า 7 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 36-37

เขาได้สติ สลัดสุนัขออกจากตัวอีกครั้ง ในเมื่อรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ผู้ติดตามสี่คนที่ยังอยู่บนหลังม้าก็ควบเข้ามาไล่ตะเพิดสุนัขออกไปแล้วล้อมเขาไว้ตรงกลางพลางมุ่งหน้าไปยังหน้าผาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล

ลูกธนูพุ่งฟิ้วๆ มาทางนี้ราวกับห่าฝน เพียงไม่นานทุกคนก็โดนยิงจนครบ คนหนึ่งร่วงตกจากหลังม้า อีกสามคนที่เหลืออารักขาชื่อซูลงจากหลังม้าเช่นกัน ใช้อาชาเป็นเครื่องกำบังธนูชั่วคราวขณะรุดหน้าต่อ พอวิ่งรี่มาถึงหน้าผาด้วยความเร็วราวกับพายุหมุน ทั้งสามก็คล้องแขนกัน โอบร่างชื่อซูเอาไว้ตรงกลางอย่างแน่นหนา

พวกเขาตัดสินใจใช้ตนเองเป็นโล่มนุษย์คุ้มกันหนานอ๋องให้กระโดดหน้าผา

แม้ร่างจะแหลกเหลวก็ไม่หวั่น ขอเพียงหนานอ๋องมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้นแม้เสี้ยวเล็กๆ ก็ยังดี

การอยู่ในฐานะแขนขาและคนสนิทขององค์ชายหกไม่เพียงถือเป็นเกียรติยศ เพราะวงศ์วานว่านเครือทั้งหมดก็ผูกชีวิตไว้กับพวกเขาด้วยเช่นกัน หากหนานอ๋องตายลงตรงนี้หรือตกอยู่ในมือต้าเว่ย ครอบครัวญาติพี่น้องทุกคนของพวกเขาก็ต้องดับดิ้นตามไปด้วย

นี่เป็นทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวที่มี ไม่เหลือทางอื่นอีกแล้ว

หลิวเซี่ยงกำราบพวกเป่ยตี๋ที่เมื่อครู่พยายามขวางตนไว้ได้ พออ่านเจตนาทางนี้ออกก็รีบบ่ายหน้านำผู้ใต้บังคับบัญชาไล่ตามมา ยกธนูขึ้นยิงอีกครั้ง

หนึ่งในสามที่หันหลังมาทางนี้ถูกธนูยิงมากเกินกว่าจะทนไหว เพิ่งจะคล้องแขนสร้างโล่มนุษย์กับพวกพ้องได้ไม่ทันไรก็ขาดใจตาย ร่างไถลลงไปกองกับพื้น

อีกสองคนที่เหลือก็มีลูกธนูปักร่างคนละสิบกว่าดอกจนกลายเป็นเม่น ทว่ายังไม่ล้ม สหายตายไปคนหนึ่งก็เหมือนไม่รู้เรื่อง ยังเกี่ยวแขนกันสองคนอย่างมุ่งมั่น ประกบชื่อซูไว้ทั้งหน้าและหลังพลางวิ่งไปทางริมผาต่อ

หลิวเซี่ยงนำกำลังคนไล่ตามมาจนอยู่ห่างจากทั้งสามเพียงเจ็ดแปดก้าว

ด้วยระยะเพียงเท่านี้ ลูกธนูยิงออกไปกระทบร่างคนก็หมดแรงเสียก่อน ปักเข้าเนื้อได้ไม่กี่ชุ่นเท่านั้น พวกเขาจึงเข้าไปใกล้กว่านี้ไม่ได้ สุนัขล่าเนื้อพันธุ์ซี่เฉวี่ยนหลายตัววิ่งตามไปกัดทึ้งอย่างบ้าคลั่ง แต่สองคนที่อยู่ข้างนอกทำราวกับไม่รู้สึกรู้สา หลิวเซี่ยงจึงได้แต่ยืนมองโล่มนุษย์ทั้งสองคุ้มกันชื่อซูที่อยู่ตรงกลางวิ่งไปข้างหน้าต่อ ระหว่างที่กำลังมองด้วยความคับแค้นจนลูกตาเบิกกว้าง อ๋องผู้สำเร็จราชการที่เมื่อครู่เอาแต่นั่งดูสถานการณ์บนหลังม้ามาตลอดก็ยื่นมือออกไปทางองครักษ์ที่อยู่ข้างๆ องครักษ์รีบส่งธนูให้ทันที

เขารับมาน้าวสายจนสุด จนคันธนูโค้งกลมราวกับจันทร์เพ็ญ หรี่ตาเล็งเป้า แล้วปล่อยลูกธนูออกไป

ลูกธนูดีดฟุ่บออกจากสาย พุ่งฉิวไปหาโล่มนุษย์ที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบจั้ง ทรงพลังแรงกล้า แหวกลมส่งเสียงหวีดหวิวราวกับมีจิตวิญญาณ พริบตาเดียวก็ถึงตัวโล่มนุษย์ที่อยู่นอกสุด หัวธนูสามแฉกเสียบฉึกเข้าที่กลางหลัง ตัดผ่านหัวใจทะลุอก จากนั้นก็พุ่งทะลุอกชื่อซูที่ถูกปกป้องไว้ตรงกลาง จนถึงตอนนี้แรงก็ยังไม่ตก พุ่งต่อเข้าไปในร่างโล่มนุษย์อีกคน ก่อนจะทะลุออกกลางหลัง หลังได้เสียบร่างของคนสามคนเข้าด้วยกันลูกธนูถึงค่อยหมดแรง

ทั้งสามชะงักค้างอยู่กับที่ในสภาพถูกลูกธนูดอกเดียวเสียบร้อยไว้ด้วยกัน

โล่มนุษย์ที่อยู่นอกสุดถูกหัวธนูพุ่งตัดเป็นเส้นตรงจนเกิดรูกลวงกว้างถึงสองเฟินหลังสูดหายใจได้สองสามครั้งก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ค่อยๆ ทรุดลงไปบนพื้น โล่มนุษย์อีกคนตัวอ่อนล้มลงตาม พาชื่อซูซึ่งหนีไปที่ใดไม่พ้นเพราะอยู่ตรงกลางล้มลงกับพื้นด้วยกัน

หลิวเซี่ยงวิ่งไปดูพร้อมไล่สุนัขล่าเนื้อพันธุ์ซี่เฉวี่ยนออกไป โล่มนุษย์ที่ประกบหัวท้ายร่อแร่ใกล้ตายเต็มที ส่วนชื่อซูที่อยู่ตรงกลางตาปิดสนิท แน่นิ่งไม่ขยับเหมือนหมดสติ เลือดไหลทะลักออกมาทางปากอย่างต่อเนื่อง

ชื่อซูหันหน้าเข้าหาโล่มนุษย์ที่อยู่ด้านนอก ลูกธนูดอกนี้ของอ๋องผู้สำเร็จราชการจึงทะลุเข้าอกขวา ไม่ถึงแก่ความตาย ชะรอยท่านอ๋องจะมีเจตนาเก็บชีวิตเจ้าตัวไว้

หลิวเซี่ยงโน้มตัวลงใช้นิ้วอังจมูกองค์ชายเป่ยตี๋ ก่อนจะหันไปเรียกคนของตน จังหวะนั้นเองชื่อซูพลันลืมตาพึ่บ กู่เสียงร้องคำรามอย่างเดือดดาลพร้อมออกแรงกลิ้งตัวลงจากหน้าผาทั้งที่มีคนปักตรึงประกบหน้าหลังอีกสองคน

หลังความตกตะลึงช่วงสั้นๆ ผ่านพ้น หลิวเซี่ยงได้สติอย่างรวดเร็ว เขารีบเอื้อมมือไปคว้าแขนซ้ายของชื่อซูไว้

ร่างสามร่างที่ห้อยต่องแต่งตรงริมผาหนักอึ้งราวกับหินยักษ์ ดึงหลิวเซี่ยงให้ลื่นไถลไปข้างหน้า กระนั้นมือเขาก็ยังจับแน่นไม่ยอมปล่อย เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาสองสามคนวิ่งจากข้างหลังมาฉุดเขากลับไปถึงค่อยพอขืนตัวไว้ได้

มือของชื่อซูชุ่มเลือด ซ้ำเจ้าตัวยังพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ ไม่มีทางที่จะจับไว้ได้นานอยู่แล้ว เพิ่งจะยืนเต็มสองเท้า หลิวเซี่ยงก็ใช้โซ่สำหรับมัดคนที่ผู้ใต้บังคับบัญชายื่นให้พันแขนชื่อซูไว้อย่างว่องไว แน่นหนาชนิดไม่มีทางสลัดหลุด

ใต้ขอบผา ลูกธนูที่เสียบทะลุอกคนสามคนรับน้ำหนักโล่มนุษย์ที่ตายไปแล้วไม่อยู่ ร่างของทั้งคู่แกว่งไปมากลางอากาศกับชื่อซูได้ไม่กี่ที ก้านธนูก็หักจนกลิ้งหลุนๆ ลงไปตามหน้าผาทีละร่าง สุดท้ายเหลือแค่ชื่อซูที่ถูกหลิวเซี่ยงยึดแขนไว้ด้วยโซ่

หลิวเซี่ยงกัดฟันออกแรงสาว พยายามดึงฝ่ายนั้นขึ้นมา

องค์ชายหกแห่งเป่ยตี๋ผมสยายรุ่ยร่าย หน้าอกมีเลือดไหลทะลัก ลูกตาแดงฉาน กัดฟันกรอด ทันใดนั้นก็หัวเราะหึๆ “ข้าจะทำให้อ๋องผู้สำเร็จราชการของพวกเจ้าต้าเว่ยได้รู้ว่าแม้ตัวตาย องค์ชายแห่งราชวงศ์ต้าตี๋เช่นข้าก็ไม่ยอมตายให้พวกเจ้าเห็นหรอก” พูดจบก็ยกแขนอีกข้างขึ้น ปรากฏว่ามือข้างนั้นกำมีดสั้นที่เมื่อครู่แอบดึงออกจากตัวโล่มนุษย์ ชื่อซูตวัดมีดฟันฉับ เลือดพุ่งกระฉูดเป็นสาย ปลายแขนที่ถูกโซ่พันยึดไว้ขาดทันตา ร่างสูงใหญ่กลิ้งหล่นลงไปข้างล่างราวกับก้อนศิลา เศษหินบนหน้าผาร่วงกราว เพียงพริบตาเดียวก็พ้นไปจากคลองจักษุ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com