ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

ทันใดนั้นเองเสียงแหวกลมควับๆ ก็ดังขึ้น ดาบใหญ่หัวพยัคฆ์ยาวเท่าท่อนแขนที่ยังอยู่ในฝักเล่มหนึ่งหมุนติ้วเยื้องมาจากทางด้านหลัง จังหวะสุดท้ายที่หมุนมันหวดกระแทกเข้ากับใบหน้านายทหารตี๋ผู้นั้นโดยแรง

ดาบเล่มนี้หนักอึ้ง เมื่ออยู่ในฝักมีน้ำหนักถึงสามสิบสี่สิบจิน ซ้ำยังมีพลังจู่โจมที่รุนแรงจนน่าตกใจ ดั้งจมูกและโหนกแก้มนายทหารตี๋แตกละเอียดจนหน้ายุบลงไปครึ่งหนึ่งทันตา เจ้าตัวร้องโหยหวนขณะหงายหลังล้มลงบนพื้น คันธนูและลูกธนูโหว่กระเด็นหลุดจากมือ

หยางหู่ผงะ ยังไม่ทันได้หันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถูกคนข้างหลังผลักให้ล้มลงกับพื้น

ลูกธนูคมกริบหลายดอกพุ่งเฉียดศีรษะไป พอเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเขาก็พบว่าฝานจิ้งออกหน้ามาช่วยแล้ว

ฝานจิ้งกดร่างหยางหู่ให้พ้นลูกธนูที่กำลังพุ่งทะยานมา ก่อนจะกระโจนไปข้างหน้า เก็บดาบที่เมื่อครู่รีบร้อนจนต้องขว้างทั้งฝักขึ้นมาชักออกแล้วสับลงไปยังนายทหารบนพื้นที่เจ็บปวดเสียจนลืมตาไม่ขึ้น ศีรษะคนผู้นั้นกระเด็นกลิ้งไปอีกทาง จากนั้นเขาก็หวดดาบอีกครั้ง ฟันลูกธนูโหว่ทั้งหมดให้ขาดเป็นสองท่อน

วิกฤตคลี่คลายแล้ว ฝานจิ้งยืดตัวยืนเต็มความสูงด้วยดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ ในมือถือดาบชุ่มเลือด กระโจนเข้าใส่ทหารตี๋ที่ยิงธนูสกัดต่อ ชายร่างสูงใหญ่หนวดเครารกครึ้มที่สวมชุดเหมือนตนเองผู้นี้เหี้ยมหาญจนน่าตกใจ แม้แต่ผู้บังคับบัญชายังถูกตัดหัวทิ้ง ฝ่ายตรงข้ามเห็นดังนั้นก็ขวัญหนีดีฝ่อ พากันถอยหลังกรูดแล้วหมุนตัวทำท่าจะวิ่งหนี ทว่าวิ่งไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ถูกทหารค่ายชิงมู่ที่ไล่ตามขึ้นมาจากข้างหลังฆ่าตาย

ทหารกล้าสองพันนายพร้อมใจกันออกจากป่า หลังการสังหารอันดุเดือดทหารตี๋หลายร้อยนายรวมทั้งผู้บังคับกองพันผู้นั้นก็ถูกฆ่าทิ้งทั้งหมด ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว

เลือดไหลนองพื้น ผสมกับดินโคลนหลังฝนห่าใหญ่ผ่านพ้น มองไปทางใดก็มีแต่ศพนอนระเกะระกะ จางจวิ้นค้นป้ายผ่านทางได้จากตัวนายทหารหัวขาด แล้วนำมาให้เจียงหานหยวน

นางรับมาพลิกดู

ป้ายผ่านทางนี้แกะสลักขึ้นจากไม้ เขียนอักษรตี๋ที่เลียนแบบมาจากอักษรจงหยวนอีกที นางอ่านออก รู้ว่าเป็นชื่อและตำแหน่งของนายทหารตี๋ผู้นี้ ‘ขุนพลชางไห่’ ซ้ำยังประทับตราเผาไฟป้องกันการปลอมแปลง

ตำแหน่งขุนพลในกองทัพเป่ยตี๋ก็เหมือนตำแหน่งแม่ทัพทั่วไปของต้าเว่ย ไม่นับว่าต่ำ ใครเลยจะคาดคิดว่าต้องกลายเป็นผีใต้คมดาบที่นี่โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ฝานจิ้งถาม “ท่านแม่ทัพ หลังจากนี้จะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อ”

หญิงสาวมองขบวนเกวียนที่จอดอยู่บนทาง “วันนี้เป็นวันที่สิบแล้ว หากพวกเราปลอมตัวเป็นทหารขนส่งยุทธภัณฑ์กองนี้ ระหว่างทางก็จะปลอดภัยหน่อย แต่เดินทางได้ล่าช้าเกินไป ต่อให้ปลอมตัวซ่อนอยู่บนรถเปล่าๆ ก็เสียเวลาอยู่ดี ข้ากลัวว่าจะเกิดเคราะห์ร้ายขึ้นกับทางเมืองเฟิงเยี่ย…”

นางนิ่งคิดครู่หนึ่ง เอ่ยต่อว่า “เดินหน้าต่อเต็มความเร็ว จะต้องไปถึงภายในครึ่งเดือนให้ได้! ที่นี่ไม่อาจอยู่นาน จัดการทุกอย่างเสร็จให้ออกเดินทางต่อทันที”

ฝานจิ้งรับคำสั่ง หันไปสั่งคนเก็บกวาดสถานที่ พร้อมกันนั้นยังดึงเสบียงของพวกเป่ยตี๋ออกมา เปลี่ยนม้าเป็นตัวที่แข็งแรงพ่วงพี แล้วขนศพทั้งหมดไปซ่อนในป่าพร้อมทั้งขบวนเกวียน

หยางหู่กับทหารอีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บกำลังทำแผลกันอยู่ บาดแผลของเขาสาหัสกว่าใคร เพราะลูกธนูที่อยู่ในไหล่มีเงี่ยงแหลมแบบตะขอ เมื่อฝังลึกอยู่ในเนื้อจึงไม่อาจดึงทิ้งโดยง่าย ต้องค่อยๆ แซะเนื้อออกมา

เขานั่งอยู่บนยอดกำแพงช่วงที่ทลาย ถอดเสื้อเปลือยท่อนบนที่มีแต่มัดกล้ามตึงแน่น ให้หมอทหารที่ตามมาด้วยกรีดเนื้อเปิดออก เหงื่อเม็ดเป้งผุดพรายเต็มหน้าผาก ขณะกัดฟันเร่ง “เร็วหน่อย! มัวพิรี้พิไรอะไรอยู่! นี่หากคลอดลูก ป่านนี้ก็วิ่งได้แล้ว!”

หมอทหารแค่นหัวเราะ “แม่ทัพน้อยหยางของข้า! ไหนช่วยคลอดลูกหน่อยซิ คลอดให้ข้าดูสักคนที…” พูดพลางฉวยโอกาสที่คนเจ็บไม่ทันสนใจ งัดปลายมีดแซะหัวธนูชุ่มเลือดให้หล่นลงสู่ถาดโลหะที่รองรับดังแกร๊ง ตามมาด้วยเลือดสกปรกที่ทะลักออกจากรอยแผล

หยางหู่ร้องเสียงหลง รู้สึกเจ็บสะท้านเข้าไปถึงหัวใจ ระหว่างกำลังกัดฟันสูดปากก็พลันเห็นเจียงหานหยวนเดินมาทางนี้ เลยรีบข่มความเจ็บปวดหุบปากแทบไม่ทัน

แม่ทัพหญิงไถ่ถามอาการบาดเจ็บของทหารสิบกว่านายที่เหลือ ล้วนแต่เป็นแผลเล็กๆ ระดับผิวเนื้อทั้งสิ้น อาการไม่รุนแรง พอนางได้ฟังดังนั้นก็ค่อยเบาใจ สุดท้ายนางเดินเข้ามาตรงหน้าหยางหู่แล้วถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง

หมอทหารล้างแผลเสร็จก็ใส่ยาและพันผ้าให้อย่างว่องไว พร้อมตอบยิ้มๆ “แซะหัวธนูออกได้แล้วขอรับ โชคดีที่ไม่โดนข้อต่อ แม่ทัพน้อยหนังหนา ได้พักฟื้นสักหน่อยเดี๋ยวก็หาย”

เจียงหานหยวนพยักหน้า ก่อนจะหันไปมองหยางหู่ “เจ็บมากเลยสินะ อาฝานบอกว่าเจ้าอยากหยุดเกาทัณฑ์เสียงจนไม่ห่วงตนเอง เกือบเป็นอันตรายอยู่แล้ว”

สายตาที่แม่ทัพหญิงมองมาฉายความห่วงใย เสียงที่ถามไถ่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน หยางหู่เห็นแล้วใบหน้าร้อนวาบ ใจเต้นตึกตัก ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่เจ็บ ก่อนจะพูดต่อ “ต้องโทษที่ข้าไร้สามารถ หากไม่เพราะแม่ทัพฝานฆ่าขุนพลนั่นและหยุดเกาทัณฑ์เสียงไว้ได้อย่างทันท่วงที ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างยังไม่รู้เลย ข้าต้องขอบคุณเขาที่ช่วยชีวิตเอาไว้”

ปกติฝานจิ้งมักมีสีหน้าเย็นชาอยู่เสมอ กลุ่มทหารหนุ่มเลือดร้อนอย่างพวกหยางหู่จะทำอะไรก็คอยห้ามคอยปรามไปเสียทุกอย่าง พวกเขาจึงไม่ใคร่สบอารมณ์นัก และเรียกลับหลังเจ้าตัวว่า ‘ตาแก่ฝาน’ หาว่าอาศัยอำนาจแม่ทัพหญิงมาข่มผู้อื่น ตอนนี้พอหวนนึกถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อครู่หยางหู่รู้สึกเลื่อมใสจนอยากก้มลงไปหมอบกรานคารวะอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ ทั้งละอายแก่ใจ ทั้งซาบซึ้งจนสุดบรรยาย

“มันเป็นเหตุเหนือความคาดหมาย ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าเลย เจ้าทำภารกิจได้ยอดเยี่ยม ปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ พักผ่อนสักหน่อยแล้วกัน อีกเดี๋ยวจะได้เดินทางต่อ ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่”

“ไม่มีปัญหาขอรับ!” หยางหู่ตอบเสียงดัง

เจียงหานหยวนตบแขนฝ่ายนั้นแล้วหมุนตัวเดินไปทางอื่น

ฟ้ายังไม่ทันสาง ทั้งหมดก็ทิ้งโรงทหารร้างเอาไว้ด้านหลัง พกสัมภาระเพียงน้อยชิ้น เร่งควบม้าไปข้างหน้าต่อโดยไม่หยุดพัก สังหารทหารตี๋กองเล็กๆ ที่พบประปรายระหว่างทาง มุ่งหน้าตรงขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาถึงแนวชายแดนอันหลงในวันรุ่งขึ้น

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com