ซู่เซิ่นฮุยคุกเข่านิ่งๆ อยู่บนพื้นอิฐใต้แสงตะวันรอน หัวเข่าทั้งสองข้างต้องรองรับน้ำหนักตัวทั้งหมด แรกสุดแค่เจ็บ จากนั้นเหมือนถูกเข็มแทง สุดท้ายกลายเป็นชาดิก จนตอนนี้ไร้ความรู้สึกราวกับไม่ใช่หัวเข่าของเขาอย่างไรอย่างนั้น
ประตูตรงหน้าเปิดออกอีกครั้ง เขาเห็นหญิงสกุลจวงเดินลิ่วๆ ลงบันไดมาหา
“ท่านอ๋องทรงลุกขึ้นเถิดเพคะ! ไท่เฟยทรงมีรับสั่งให้ท่านอ๋องเสด็จเข้าไปข้างในแล้ว!”
หัวไหล่ซู่เซิ่นฮุยขยับไหวทีหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นช้าๆ
เนื่องจากคุกเข่านานเกินไป ตอนลุกขึ้นยืนใหม่ๆ จึงทรงตัวไม่อยู่ หญิงสกุลจวงรีบยกมือขึ้นประคองเขาไว้แล้วตะโกนเรียกคนให้ออกมาช่วยกันพยุง
หลิวเซี่ยงรออยู่นอกตำหนักมาครึ่งวันแล้ว เขามองผ่านช่องว่างระหว่างบานประตูที่หับไว้หมิ่นๆ เข้าไปเห็นแต่แรกว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการคุกเข่าอยู่หน้าบันได ไหนเลยจะกล้าเข้าไปข้างใน ได้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ เดินกลับไปกลับมาอยู่ข้างนอกระหว่างรอด้วยความร้อนใจ กระทั่งในที่สุดก็มีคนออกมาจากในเรือนเสียที พอเห็นภาพนั้นหลิวเซี่ยงใจหายวาบ ครั้นจะวิ่งเข้าไปหาเจ้านาย ขันทีกับนางกำนัลจำนวนหนึ่งก็กรูออกมาจากหลังประตูบานนั้นเสียก่อน ต่างกุลีกุจอช่วยกันประคองและนวดเข่าให้อ๋องผู้สำเร็จราชการ
เขาพลันชะงักเท้า แล้วถอยกลับไปที่เดิม
ซู่เซิ่นฮุยหลับตายืนนิ่งอยู่สักพัก จนอาการเหน็บชาเริ่มทุเลาลงทีละน้อย จึงก้มหน้าลงผงกศีรษะให้หญิงสกุลจวง ก่อนจะดันกลุ่มคนที่ช่วยประคองออกห่าง ก้าวเท้าขึ้นบันไดเดินเข้าไปข้างใน
หญิงสกุลจวงตามมาติดๆ เพื่อนำทาง แล้วรับน้ำชาจากนางกำนัลสูงวัยคนหนึ่งมาส่งให้เขาดื่มก่อน ทว่าซู่เซิ่นฮุยไม่รับ กลับเดินเข้าเรือนทันที
ประตูเปิดอยู่ แสงอาทิตย์อัสดงสีทองอร่ามส่องผ่านหน้าต่างทิศตะวันตกเข้ามาข้างในเป็นแนวทแยง จวงไท่เฟยนั่งอยู่บนตั่งเตี้ย ชายหนุ่มเดินเข้าไปตรงหน้ามารดา คุกเข่าลงอีกครั้งแล้วโขกศีรษะอย่างนอบน้อม ก่อนจะพูดเสียงแผ่วว่า “ลูกอกตัญญู ลูกผิดเองที่สร้างความขุ่นเคืองให้เสด็จแม่อีกแล้ว ขอเสด็จแม่โปรดอย่าได้กริ้ว”
จวงไท่เฟยเหลือบมองบุตรชาย แล้วย้อนถามเนิบๆ “เจ้ามีความผิดอันใด”
ซู่เซิ่นฮุยค่อยๆ เงยหน้าขึ้นสบประสานสายตากับผู้เป็นมารดาที่มองมาจากบนตั่ง
เขาจะไม่รู้เหตุผลที่นางไม่ยอมให้เขาเข้าพบได้อย่างไร หลังนางจากไปในวันนั้น เขากับเจียงหานหยวนอยู่ที่ตำหนักแปรพระราชฐานต่อหลายวัน ภายหลังเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคนบ้าง ต่อให้มารดาไม่ล่วงรู้ทุกอย่างโดยละเอียด ย่อมต้องมีระแคะระคายบ้างไม่มากก็น้อย
นางทำโทษเขาแทนเจียงหานหยวน
นับแต่ความสัมพันธ์แตกหักในคืนฝนกระหน่ำคืนนั้นจนถึงวันนี้ ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเขาก็ทำตัวเหมือนปกติทุกประการ สะสางงานแต่ละอย่างที่ตนเองควรทำในฐานะอ๋องผู้สำเร็จราชการ ยุ่งตัวเป็นเกลียว ทำงานออกมาได้อย่างมีระเบียบแบบแผน ทว่าหัวใจแสนจะอัดอั้น เหมือนมีเส้นเอ็นขึงรั้งไว้จนตึงแน่น เขาคิดว่าตนเองสามารถควบคุมเส้นเอ็นดังกล่าวได้อยู่มือ จวบจนวันที่ได้รับรายงานจากเจียงจู่วั่ง มันก็ขาดผึงลงทันที
ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับ และเขาก็ยินดีรับไว้
ความขมขื่นและความเจ็บปวดที่กำลังโบยตีเขานี้ตรงใจเขาพอดี เพราะเหมือนสามารถปลดปล่อยหัวใจให้เป็นอิสระจากความรู้สึกที่พันธนาการอยู่ได้
แต่เมื่อได้ยินมารดาตั้งคำถามว่า ‘เจ้ามีความผิดอันใด’ ความคิดของเขากลับว่างเปล่า ไม่รู้ว่าควรตอบกลับไปอย่างไรดี
หลังคืนฝนตกคืนนั้น ความเดือดดาล ความผิดหวัง หรืออาจมีความกลัดกลุ้มใจอันไร้ทางออกและความคั่งแค้นที่เขาไม่มีวันยอมรับปะปนอยู่ด้วย ความรู้สึกต่างๆ นานาเหล่านั้นหมดความสำคัญลงโดยสิ้นเชิงในพริบตาที่ได้อ่านฎีกาของเจียงจู่วั่ง ในอกเหลือเพียงความเสียใจและความห่วงใย เขานึกเสียใจว่าคืนนั้นตนเองไม่น่าขาดสติชั่ววูบแล้วลองใจนาง รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีวันได้ผลลัพธ์ดังที่หวัง แต่ก็ยังจะทำอีก
หากคืนนั้นเขากดข่มอารมณ์เอาไว้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น บอกนางไปตรงๆ ว่าฐานะที่แท้จริงของภิกษุรูปนั้นน่าสงสัยอย่างไร ตอนนี้แม้ต้องอยู่ไกลกันสุดหล้า แต่อย่างน้อยๆ นางก็ยังเป็นของเขา…
เดิมทีเขาควรมั่นคงในความตั้งใจเมื่อแรกที่สู่ขอนาง ตอนนั้นเขาใช้เรือนฝานจื่อเป็นเรือนหอ เพื่อรักษาพื้นที่สุดท้ายที่สามารถอยู่คนเดียวลำพังเอาไว้ หากสถานการณ์อำนวยไปเรื่อยๆ และนางเองไม่มีความเห็นเป็นอื่น เขาก็สามารถใช้ชีวิตร่วมกับนางอย่างปรองดองและให้เกียรติต่อไป
ทว่าเรื่องกลายเป็นเช่นนี้เสียแล้ว ถ้าจะถามว่าใครผิดก็ต้องบอกว่าผิดที่คืนนั้นเขาดันลองใจนางอย่างห้ามตนเองไม่อยู่ ผิดที่เขาลุ่มหลงนางเข้าเต็มเปา ผิดที่เขาใส่ใจนางเกินไป ปรารถนาให้นางชอบเขามากกว่าที่เป็นอยู่ หัวใจมีแต่เขาเหมือนอย่างที่หัวใจเขามีแต่นาง และมีเพียงเขาคนเดียว ไม่ใช่หลับฝันคิดถึงคนอื่นทั้งที่นอนร่วมเตียงกับเขา
แต่ตอนนี้เขากลับไม่อาจว่าร้ายนางให้มารดาฟังว่านางทรมานเขาซ้ำๆ อย่างไรบ้าง นางออกเรือนกับเขา แต่ยังฝันถึงชายอื่น และเพราะใครคนนั้น นางตอบสนองรุนแรงใส่เขาถึงขั้นคุกเข่าให้และตัดผมตนเอง
เขามีสิทธิ์อะไรมาเรียกร้องให้นางเป็นอย่างที่ต้องการ เพียงเพราะในตอนแรกเขาแต่งงานกับนางเพื่อต้าเว่ยน่ะหรือ