เมื่อเข้าใจต้นสายปลายเหตุที่ลึกลงไปอีกชั้น ความกล้าหาญที่เกิดจากอารมณ์พลุ่งพล่านในใจเมื่อครู่ก็หายวับ
ต่อให้ตามไปอธิบายเรื่องตนเองกับเวินวันให้นางฟังถึงที่ หรือต่อให้โลกนี้ไม่มีหญิงที่ชื่อเวินวันอยู่เลยก็ตาม จะช่วยเขาให้หลุดพ้นจากความทรมานใจตอนนี้ได้หรือ
นางมองเห็นทุกอย่างกระจะตา อ่านเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่งตั้งแต่แรกแต่งงานกันแล้ว ขณะที่เขาไม่ทันเฉลียวใจแม้แต่น้อย ดูท่าสารพัดวิธีที่เขาพยายามเอาใจนางเพื่อรักษาชีวิตคู่ให้ราบรื่นคงเป็นปาหี่โง่เง่าในสายตานางเท่านั้น นางเคยแยแสเรื่องระหว่างเขากับเวินวันด้วยหรือ…ก็ไม่เคย ชายในใจนางไม่ใช่เขาแต่แรกอยู่แล้ว ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงเพราะเขาและนางมีปณิธานต้องตรงกัน นางถึงได้ออกเรือนมาอย่างเยือกเย็น ยอมทำให้เขาสมปรารถนาเพราะยึดความถูกต้องเป็นที่ตั้ง ด้วยนิสัยอิสรเสรีอย่างนาง วันข้างหน้าเมื่อเป้าหมายกลายเป็นจริงย่อมไม่มีความจำเป็นต้องรักษาความเป็นสามีภรรยานี้ต่อไปอีก
สู้ไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยยังดีเสียกว่า! รู้แล้วจะได้อะไรขึ้นมา นอกจากรู้สึกอับอาย กระอักกระอ่วน และหดหู่อย่างที่สุด
แต่ถ้าจะให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้นแล้วทนข่มอารมณ์ต่อไป เขาก็ไม่เต็มใจ…ไม่เต็มใจเอามากๆ ด้วย
ตกลงจะไปหรือไม่ไปดีนะ
ครึ่งคืนหลังซู่เซิ่นฮุยหมดไปกับความละล้าละลังตัดสินใจไม่ขาด โอนเอนไปมาระหว่างตัวเลือกสองทางนี้ เขานั่งอยู่ในห้องหนังสือ กระทั่งเทียนไขบนโต๊ะไหม้จนหมดแล้วก็ยังไม่ยอมลุก สุดท้ายมาสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตูเรียก เมื่อลืมตาขึ้นถึงได้รู้ว่าตนเองเอนหลังพิงพนักเก้าอี้หลับไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ
ตอนนี้นกกากำลังร้องเจื้อยแจ้วอยู่ข้างนอก ท้องฟ้าสว่างโร่
เขาค่อยๆ หยัดตัวขึ้นนั่งตรง ความกลัดกลุ้มต่างๆ นานาเมื่อคืนผุดกลับขึ้นมาในหัวใจอีกครั้ง ชายหนุ่มนวดหน้าผากบวมคัดของตนพลางร้องเรียกข้ารับใช้
จางเป่าเปิดประตูชะโงกหน้าเข้ามามองเขาพลางรายงาน “ท่านอ๋อง แม่ทัพหลิวให้กระหม่อมมาทูลถามพ่ะย่ะค่ะว่าท่านอ๋องประสงค์จะออกเดินทางตามกำหนดเดิมหรือจะให้เลื่อนออกไป…”
ซู่เซิ่นฮุยนึกออกโดยพลัน เขาลุกเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก
ทหารตั้งขบวนชูธงเป็นระเบียบอยู่ตรงเชิงเขา บริเวณนั้นเนืองแน่นไปด้วยฝูงชน นอกจากผู้ติดตามในขบวนของเขา ยังมีขุนนางท้องที่ ชนชั้นสูง คหบดี และบัณฑิตแถบอาคเนย์มากมายที่มารอส่งเพื่อเจอหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย
คนเหล่านี้บริจาคเงินและทองคำให้ราชสำนักอย่างเต็มอกเต็มใจ รวมเป็นจำนวนมหาศาล
ซู่เซิ่นฮุยหลับตาลง พยายามระงับความปั่นป่วนว้าวุ่นในใจอย่างสุดความสามารถ พอหันมาอีกทีก็เห็นฎีกากับจดหมายของฮ่องเต้น้อยที่ส่งมาเมื่อวานยังวางอยู่บนโต๊ะ
เขาเดินกลับไปหยิบฎีกามาอ่านก่อนเป็นอันดับแรก ทุกฉบับเกี่ยวกับการศึกที่แปดดินแดนทั้งนั้น เสียนอ๋องและที่ปรึกษาราชการคนอื่นช่วยตอบแทนฮ่องเต้น้อยแล้วส่งให้เขาดูอีกที ชายหนุ่มเปิดดูคร่าวๆ ก็วางลง ก่อนจะหยิบจดหมายของหลานชายมาดึงออกจากซอง แววตาพลันไหววาบเมื่อได้อ่าน หัวคิ้วขมวดมุ่น
ซู่เซิ่นฮุยสิ้นลังเล ตั้งสติสะกดอารมณ์ความรู้สึกพลุ่งพล่านของตนอย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้าขึ้นมาสั่ง “เปลี่ยนเสื้อผ้า! ออกเดินทางกลับเมืองหลวงทันทีตามแผนการเดิม!”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 28 ส.ค. 67