บทที่ 9
หลังจากพักผ่อนตอนกลางวันแล้ว หลิวไทเฮาท่องบทสวดที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งจนจบก็เกือบถึงยามเซินการปฏิบัติธรรมในวันนี้เป็นอันเสร็จสิ้น พอหยุดพักผ่อนอีกพักหนึ่งก็เตรียมตัวออกเดินทางกลับเข้าเมือง
เมื่อวัดฮู่กั๋วตีระฆังทำวัตรเย็น พระกลด ขบวนเกียรติยศ และทหารรักษาพระองค์ก็เข้าประจำที่ ตั้งแถวอยู่สองฝั่งของบันไดขึ้นเขาจากซุ้มประตูทางเข้าไปถึงเชิงเขา เจ้าอาวาสยังนำหมู่ภิกษุออกมาส่งเสด็จหลิวไทเฮาลงเขา
หลังวุ่นวายมาทั้งวัน ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เหล่านายหญิงตราตั้งในขบวนเสด็จล้วนอยากลงเขาไปนั่งรถม้ากลับเข้าเมืองโดยเร็วใจแทบขาด ไม่มีใครส่งเสียงพูด มีเพียงเสียงอาภรณ์หรูหราเสียดสีกันดังสวบสาบๆ แผ่วเบาตามการเคลื่อนกายลงบันได
จากเชิงเขาถึงประตูทางเข้าสร้างบันไดจำนวนหนึ่งร้อยแปดขั้นตามความเชื่อทางคติพุทธเรื่องหนึ่งร้อยแปดมรรคาแห่งการพ้นทุกข์ บันไดหนึ่งขั้นเปรียบได้ดั่งวิถีในการหลุดพ้นตัณหาหนึ่งประการ
มู่ฝูหลันก้าวลงบันไดหินนอกประตูทางเข้าตามคนอื่นๆ ไปทีละขั้นจนถึงขั้นสุดท้ายแล้วย่ำเท้าลงบนพื้นราบเบื้องล่าง
ผู้ดูแลสืบเท้าเข้ามาพานางเดินไปถึงข้างรถม้าประจำตัวนาง ขณะกำลังจะก้าวขึ้นไปทันใดนั้นความรู้สึกแปลกประหลาดที่บังเกิดขึ้นตอนเพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้ก็เข้าเกาะกุมกลางใจอีกครา
ประหนึ่งว่าในห้วงอันลี้ลับมีพลังบางอย่างดลใจให้นางเหลียวหลังกลับไป
นางหันหน้ามองไปทางซุ้มประตูวัดที่ถูกตนเองทิ้งไว้เบื้องหลัง
แสงสนธยาอาบย้อมผืนป่าเขาลดหลั่นเป็นชั้นๆ ประตูวัดตรงสุดปลายบันไดหนึ่งร้อยแปดขั้นละม้ายทาทาบด้วยสีทองอมแดง
ฝูงวิหคคืนรังยามอาทิตย์อัสดงที่ตกใจกับเสียงระฆังทำวัตรเย็นกำลังกระพือปีกโผบินวนเวียนอยู่เหนือหลังคาซุ้มประตู
ณ เสี้ยวเวลาที่เหลียวหลังกลับไปนั่นเอง สายตาของมู่ฝูหลันพลันนิ่งขึงไป
ท่ามกลางแสงโพล้เพล้นางมองเห็นร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นหลังซุ้มประตูที่เปิดอ้ากว้าง
นั่นเป็นเด็กชายผู้หนึ่งในวัยราวสองสามขวบ ดูเหมือนความวุ่นวายที่นอกประตูจะดึงดูดให้เขาออกมายืนอยู่มุมหนึ่งข้างธรณีประตูอย่างเงียบๆ
ชั่วขณะที่เงาร่างเล็กๆ นั่นสะท้อนเข้าคลองจักษุ หัวใจของมู่ฝูหลันเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างกระแทกเต็มแรงคราหนึ่งจนปริแตกกะทันหัน
นางคล้ายจะมองเห็นซีเอ๋อร์ของนาง! ซีเอ๋อร์ที่อยู่เคียงข้างนางทุกเช้าค่ำในเรือนเก่าที่เยือกเย็นวังเวงหลังนั้นในอำเภอเซี่ยตอนยังเป็นเด็ก
ข้าต้องตาฝาดไปแน่ๆ!
นางเพียรเบิกตากว้างๆ อยากมองให้ชัดขึ้นอีกสักนิด
ภิกษุรูปหนึ่งกลับออกมาจูงมือเด็กชายพาเข้าไปข้างใน
เด็กชายผู้นั้นถูกพากลับเข้าไปแล้ว แต่ราวกับเขารับรู้อะไรได้กระนั้น ตอนหมุนกายหันกลับมา เขาก็ชะเง้อมองมาทางมู่ฝูหลันแวบหนึ่ง
ร่างเล็กๆ ร่างนั้นหายลับไปหลังประตูอย่างรวดเร็วจนมองไม่เห็น
ดวงตาของมู่ฝูหลันเบิกกว้างมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นางขยับตัวไม่ได้ กระทั่งจะหายใจก็หายใจไม่ออก