ในเวลากลางวันนางจะเงียบไม่พูดไม่จา อย่างมากก็เรียกจิ่นเซียงสาวใช้ข้างกายมาสอบถามเรื่องราว ถ้ามีคนมานางก็จะแสร้งทำเป็นอ่อนแอต้องพักผ่อนเพื่อไม่ให้ใครพบเห็นความผิดปกติ
ยามค่ำคืนนางสกัดจุดหลับของสาวใช้แล้วย้ายร่างอีกฝ่ายขึ้นเตียง หลังจากปล่อยผ้าม่านลงมานางก็แอบหนีออกไป แสดงวิชาตัวเบาเหาะขึ้นไปบนหลังคา ทว่านางกลับคว้าไม่ถึงขอบหลังคา พลาดไปไม่กี่ชุ่น คล้ายกับวานรแขวนค้างอยู่ที่ชายคาแกว่งไปมา จากนั้นนางก็ใช้ทั้งสองมือปีนป่ายขึ้นไปจนสำเร็จ
ครั้นออกมานอกกำแพงสูงของจวนสกุลกวนนางก็ปิดบังร่องรอยมาตลอดทาง หลบหลีกพวกลาดตระเวนพวกเฝ้าประตูเมืองเข้าไปในอี้จวง
อี้จวงก็คือสถานที่ใช้จัดเก็บศพโดยเฉพาะ นางสืบข่าวมาแล้วว่าร่างเดิมของนางถูกเก็บไว้ที่นี่
ภายในเรือนมืดครึ้ม มีศพตั้งเรียงอยู่มากมาย นางค่อยๆ เดินคลำทางไปพลางจุดกลักไฟขึ้น ตรวจสอบทีละศพอย่างละเอียด
เมื่อเห็นศพของพี่น้องในหลายวันก่อน ดวงตานางก็แสดงความปวดใจออกมา
ศพของพี่น้องจากค่ายบนภูเขาห้าหกศพที่สละชีวิตนอนเรียงรายอยู่บนพื้น ทุกคนล้วนต่อสู้มากับนาง เนื่องจากเสียชีวิตมายังไม่เกินสามวันกอปรกับยามนี้เป็นฤดูเหมันต์ ดังนั้นศพจึงยังคงไม่เน่าเปื่อย ไม่ส่งกลิ่นเหม็น
กวนอวิ๋นซีหลับตาลง หลังจากสงบใจได้นางก็ลืมตาขึ้น ในสายตานางล้วนเป็นภาพที่สงบและเงียบงัน
นางเลิกเสื่อฟางขึ้นมา มองไปทีละศพ เมื่อนางหาศพตนเองพบก็ตะลึงงันไปในทันใด
นี่คือความรู้สึกที่ประหลาดนัก แทบไม่อยากเชื่อแต่ก็เศร้าใจอยู่บ้าง
นางมองดูตนเองนอนหลับตาอยู่ตรงนั้นอย่างสงบคล้ายว่าหลับไปกระนั้น เรื่องราวในอดีตราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ครั้นฟื้นขึ้นมาอีกคราทุกสิ่งล้วนแปรเปลี่ยน นางกลับกลายเป็นอีกคนหนึ่งไปแล้ว
กวนอวิ๋นซีมองร่างของตนที่นอนอยู่ตรงนั้นด้วยความหนาวยะเยือก หลังจากเงียบไปได้ชั่วครู่นางก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
ช่างเถิด เป็นเพียงศพเท่านั้น ถือเสียว่าเปลี่ยนเรือนที่พักแล้วกัน! ตอนนี้นางยังมีเรื่องสำคัญต้องจัดการ
เมื่อนางเลิกเสื่อฟางขึ้นทั้งหมดก็ต้องตกตะลึงอีกครา
เดิมทีนางเลิกเสื่อฟางเพียงเล็กน้อย เห็นเพียงดวงหน้ายังไม่เห็นเรือนร่าง ยามนี้จึงพบว่าร่างนางถูกห่อคลุมด้วยเสื้อกันลมสีดำ
นี่คือเสื้อกันลมของบุรุษ ปกเสื้อปักด้วยขนหมาป่าอย่างดีไว้โดยรอบ เนื้อผ้าชั้นดี แล้วยังปักลวดลายดอกกล้วยไม้ไว้ที่ปลายปกเสื้อ
น่าแปลก หลังจากที่นางตาย ใครกันที่ห่อร่างนางด้วยเสื้อกันลมชั้นดีเช่นนี้ ราวกับว่ากำลังแสดงถึงความเคารพและรักทะนุถนอมต่อผู้ตายกระนั้น
นางยื่นมือไปลูบเนื้อผ้าอย่างเบามือ เป็นเนื้อผ้าชั้นดีจริงๆ ช่างอบอุ่นเหลือเกิน มันห่อหุ้มร่างเดิมของนางไว้ ทว่าก็เผื่อแผ่ความอบอุ่นมายังหัวใจในร่างใหม่นี้ด้วย
นางยกมุมปาก ในใจคิดว่าหรือจะมีใครแอบหลงรักนางอยู่
นางเผลอยิ้มออกมาพลางส่ายหน้า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขอบคุณคนผู้นั้นที่ยังรักษาเกียรติไว้ยามที่นางตาย
นางคลำไปบนร่าง เพียงชั่วครู่ก็เจอสิ่งที่ตามหาพลันถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ของสิ่งนี้ยังอยู่ คืนนี้นับว่ามาไม่เสียเที่ยว
เหตุที่นางมาที่นี่ก็เพื่อจะเอาตราประทับหินอันนี้กลับไป
ตราประทับหินนี้ถูกแกะสลักขึ้นเป็นพิเศษและเป็นสิ่งของแทนตัวนาง นางเย็บติดด้านในกางเกงตรงช่วงเอว โชคดีที่ไม่มีใครพบเห็น ครั้นมีตราประทับหิน นางก็จะมีจุดเชื่อมโยงกับตนเองในชาติก่อนได้ สามารถจัดการเรื่องราวได้สะดวกขึ้น
นางห่อตราประทับหินไว้ในผ้าอย่างระมัดระวัง บรรจุลงในกล่อง จากนั้นก็ใส่ลงไปในถุงผ้าที่เอว
แสงไฟสั่นไหวเล็กน้อยคล้ายกับมีลมพัด นางตกตะลึงโดยพลันจึงหันหน้าไปทันที ทันใดนั้นก็เห็นเงาร่างสูงเพรียวยืนอยู่ที่หน้าประตู และแววตาเฉียบคมคู่นั้นกำลังจ้องมาที่นางอย่างเย็นเยียบ