หากไม่ใช่เพราะเขาเดินทางผ่านมาแล้วบังเอิญพบเรื่องนี้เข้านางอาจจะตายไปแล้วก็ได้ นี่เกรงว่านางจะจงใจกระโดดทะเลสาบริมถนนที่เขาเดินทางผ่าน
ครั้นใคร่ครวญถึงจุดนี้ดวงตาเขาก็ดำมืด รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
หากนางจงใจกระโดดน้ำตอนที่เขาเดินทางผ่าน บังคับให้เขาต้องช่วยชีวิต ชาวบ้านมากมายต่างก็ต้องรับรู้เรื่องนี้ เรียกได้ว่าสตรีนางนี้แผนสูงนัก
เดิมทีการถอนหมั้นนั้นเป็นความตั้งใจของท่านแม่ เขาก็ไม่ได้มีความเห็นขัดแย้งแต่อย่างใด การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ต้องให้บิดามารดาเป็นผู้ตัดสินใจ ในเมื่อการหมั้นหมายเป็นเรื่องเมื่อสิบปีที่แล้ว ท่านปู่และผู้อาวุโสอีกฝ่ายหมั้นหมายกันเพียงลมปาก สำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะสู่ขอหรือถอนหมั้นล้วนต้องให้บิดามารดาเป็นผู้จัดการ
บัดนี้บุตรสาวของสกุลกวนกลับมากระโดดน้ำเช่นนี้ เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก มีคนล่วงรู้ไม่มาก ยามนี้เกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว สตรีกระโดดน้ำเพราะถูกถอนหมั้นจะเป็นผลเสียต่อชื่อเสียงสกุลฉู่ แล้วยังจะทำให้ท่านพ่อโดนศัตรูในราชสำนักโจมตีและเล่นงานจุดอ่อนได้ จะทำอะไรก็ยากลำบากยิ่ง
คิดมาถึงตรงนี้ฉู่เหิงจือก็พลันแสดงสีหน้าบึ้งตึง
เรื่องการถอนหมั้น แม้ฝ่ายเขาจะทำไม่ถูกอยู่ก่อน ทว่าในเมื่อสองตระกูลไม่ได้หมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการกอปรกับผ่านมาหลายปีแล้ว บิดามารดาใคร่ครวญถึงเกียรติของฝ่ายสตรี เดิมทีคิดว่าจะจัดการอย่างเงียบๆ ไม่ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต เพียงส่งคนไปแจ้งเท่านั้น ใครจะคิดว่าบุตรสาวสกุลกวนจะมากระโดดน้ำ
นี่เท่ากับบีบบังคับให้สกุลฉู่ยอมรับการหมั้นหมายครั้งนี้ แม้เดิมทีฉู่เหิงจือจะไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อกวนอวิ๋นซี ทว่ายามนี้เขากลับเกิดความรังเกียจนางขึ้นมา
ครั้นเห็นนางค่อยๆ ลืมตาขึ้น เริ่มได้สติ สีหน้าเขาก็มืดครึ้มโดยพลัน
“ฟื้นแล้วหรือ”
เมื่อเห็นว่านางจู่ๆ ก็เบิกตาจ้องมองเขา เขาก็ร้องฮึเสียงเย็น เอ่ยด้วยเสียงเข้มว่า “บิดามารดาเป็นผู้มอบร่างกาย เรือนผม ผิวพรรณให้แก่เจ้า…”
เขายังกล่าวไม่ทันจบเสียง ‘ผัวะ’ ก็ดังขึ้น กำปั้นหนึ่งชกมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว โจมตีเขาจนทำอะไรไม่ถูก แม้เขาจะมีวรยุทธ์สูงส่งแต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าสตรีอ่อนแอที่เพิ่งฟื้นมาจากประตูผีจู่ๆ จะมาชกหน้าเขาได้ พลังของกำปั้นนี้ไม่เบาเลยทีเดียว
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนตะลึงงัน จิ่นเซียงยิ่งตื่นตระหนกจนไม่กล้าขยับ จ้องไปที่ดวงหน้างดงามอ่อนโยนซึ่งค่อยๆ มีเลือดไหลออกมา สีหน้าที่เคยสุภาพเรียบร้อยมาตลอดกลับค่อยๆ เปลี่ยนเป็นดุร้าย
ฉู่เหิงจือคาดไม่ถึงเลยว่าเขาที่เป็นถึงคุณชายผู้สูงศักดิ์จะถูกสตรีนางหนึ่งชกเข้า นี่นางกล้าเนรคุณหรือ คิดจะต่อต้านกันชัดๆ
“เจ้ากล้าชกข้า?”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทว่ากลับเต็มไปด้วยความอันตรายราวกับพายุฝนที่กำลังตั้งเค้า ดวงตาคู่นั้นคล้ายพายุที่กำลังรวมตัวกันราวกับเทพเจ้าแห่งความตายกำลังจับจ้องอยู่
กวนอวิ๋นซีชี้หน้าเขาด้วยไฟโทสะพุ่งพรวด