ทดลองอ่าน โจรหญิงอย่ามาเย้า บทที่ 5-บทที่ 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน โจรหญิงอย่ามาเย้า บทที่ 5-บทที่ 6

หน้าที่แล้ว1 of 10

บทที่ 5

กวนอวิ๋นซีตะลึงงัน ช้อนตามองฉู่เหิงจือ

เขาไม่ได้มองมาที่นาง ยังคงพูดไปยิ้มไปกับไฉหลาง ทว่าราวกับฝ่ามือเขามีตา กำจอกนั้นไว้แน่น

นางนิ่งอึ้งไป จู่ๆ ก็กระจ่างแจ้ง กระซิบกับเขาด้วยเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน “ท่านวางใจ ข้าคอแข็งมาก ไม่มีทางเมาหรอก”

นางนึกว่าฉู่เหิงจือห้ามนางไว้เพราะกลัวว่านางจะเมา

จะต้องรู้ว่าตอนที่นางยังเป็นหัวหน้าใหญ่นั้น สุราแรงที่ใช้เผาดาบนางสามารถดื่มสามไหได้โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน แม้แต่สุราหูจงเซียนของอาสยงนางก็ยังดื่มจนหมดไหได้โดยไม่เมา

“ห้ามดื่ม” เขาออกคำสั่งด้วยเสียงเรียบ ยังคงเอ่ยประโยคนี้

กวนอวิ๋นซีกะพริบตาปริบๆ ในใจคิดว่าบุรุษผู้นี้ไม่วางใจนางจริงๆ หรือ

ทว่านางจะยอมเชื่อฟังเขาหรือ ชาติก่อนมีเพียงนางที่สามารถห้ามผู้อื่นได้ จะมีใครกล้ามาห้ามนางดื่มบ้าง

กว่านางจะมาถึงค่ายบนภูเขาได้ไม่ง่ายเลย ที่นี่คืออาณาเขตของนาง เหล่าพี่น้องล้วนเป็นสหาย ราวกับได้ย้อนไปสู่อดีต ถ้านางไม่ได้ดื่มสักสองสามจอกนางจะยอมได้อย่างไร

นางตัดสินใจจะพิสูจน์ให้เขาเห็นว่านางดื่มได้และไม่มีทางเมา

นางเมินเฉยต่อคำสั่งของใครบางคน ออกแรงเล็กน้อยจะแกะมือของเขาออก ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ยอมขยับสักนิด ดูราวกับไม่ได้ออกแรงแต่แข็งแกร่งราวฝ่ามือเหล็ก แกะนิ้วไม่ออกสักนิ้ว ไม่ยอมขยับเลยแม้แต่น้อย

นี่คือการที่คนแข็งแกร่งรังแกคนที่อ่อนแอกว่า รังแกนางที่วรยุทธ์สู้เขาไม่ได้ ในขณะที่นางกำลังหงุดหงิดก็มีบ่าวยกไหสุราเดินผ่านมาพอดี นางรีบยื่นมือไปคว้ามาทันที

นางเพิ่งจะขยับ มือที่แต่เดิมกำจอกไว้ก็อ้อมมาใช้แขนหนีบคอนางแทน ดึงนางไปทางด้านหลัง ทำให้มือเรียวยาวของนางพลาดจากไหสุราไหนั้นพอดี นางเบิกตามอง ‘พี่น้องสุรา’ ที่ตกอยู่ในอ้อมกอดของผู้อื่นแล้ว

ไฟโทสะของกวนอวิ๋นซีพุ่งพรวด ช้อนตาขึ้นมอง ฉู่เหิงจือใช้แขนหนีบคอนางไว้ ห้ามไม่ให้นางดื่ม ส่วนเขากลับดื่มสุรากับไฉหลางอย่างมีความสุข

นางลองยื่นมือไปดึงแขนของเขาแต่ก็ยังไม่หลุด เขาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยตัวนางไป

บุรุษผู้นี้ประสาทไปแล้ว! ไม่มีอะไรทำก็มายุ่มย่ามว่านางจะดื่มสุราหรือไม่ ไม่แน่นางอาจจะคอแข็งกว่าเขาก็เป็นได้! ยังกล้ามาห้ามนางอีก!

ในเมื่อเอาแขนไม่ออก ดังนั้นนางจึงไปจักจี้ที่รักแร้และเอวของเขา ดูซิว่าเขาจะทนได้นานสักเพียงใด

หน้าผากของฉู่เหิงจือกระตุก เขาใช้การดื่มสุรามาปิดปาก ก้มหน้าเอ่ยกับนาง “ทำตัวดีๆ หน่อย นอกเสียจากว่าอยากให้ข้าสกัดจุดเจ้า”

เขาสัมผัสได้ว่าร่างนางแข็งทื่อไป มือก็ไม่มากวนเขาอีก เขาเม้มริมฝีปากยิ้ม ชนจอกกับคนอื่นต่อไปราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไฉหลางกรอกสุราไปอึกใหญ่ เช็ดคราบสุราออกจากมุมปาก ครั้นเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามใช้แขนหนีบคอน้องเฟยอิงแล้วนางก็พิงเขาอย่างว่าง่าย ท่าทางใกล้ชิดเช่นนี้เห็นแล้วอดตาร้อนผ่าวไม่ได้

เหล่าบุรุษกำลังเสพสุรากันได้ที่ แสดงท่าทีออกไปตามใจ มีอยู่ไม่น้อยที่คอยโอบกอดสตรี ด้วยเหตุนี้ไฉหลางจึงอดเอ่ยปากถามไม่ได้

“พี่เถี่ยซั่น นางเป็นสตรีของท่านหรือ”

ฉู่เหิงจือไม่ตอบ แต่กวนอวิ๋นซีกลับตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ใช่ พวกเราเป็นเพียงสหายกัน”

ฉู่เหิงจือดื่มสุราของตนอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์

ไฉหลางได้ยินดังนั้นก็ดีใจจนออกนอกหน้าแล้วเหลือบมองฉู่เหิงจือแวบหนึ่ง เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้โต้แย้งก็วางใจ เพียงคิดว่าพวกเขาเป็นจอมยุทธ์ที่ไม่คิดเล็กคิดน้อย ทำตัวตามสบายจนเคยชิน ในเมื่อเป็นเพียงสหาย นี่ก็แสดงว่าเขามีโอกาส

ฉู่เหิงจือเพ่งพินิจรอยยิ้มของไฉหลางด้วยแววตาลึกล้ำสุดหยั่ง ส่วนกวนอวิ๋นซีรู้ตั้งนานแล้วว่าฉู่เหิงจือไม่ได้สนใจนาง ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนก็ต่างถอนหมั้นแล้ว นางเองก็เป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อย แน่นอนว่านางย่อมไม่คิดมาก

ไฉหลางเริ่มวางแผนอย่างกระตือรือร้น เขาไม่ใช่คนขี้อาย ซ้ำโฉมงามยังเป็นคนปราดเปรียวอีกด้วย จึงหัวเราะฮ่าๆ “น้องเล็ก ไยไม่ดื่มเล่า มานั่งตรงนี้ ดื่มกับพี่สามจอกหนึ่ง!” ไฉหลางเอ่ยพลางตบที่นั่งด้านข้าง แสดงออกให้นางมานั่งด้วย

แน่นอนว่ากวนอวิ๋นซีอยากไปดื่มสักจอก ทว่ายามนี้นางโดนบางคนหนีบคอไว้เป็นการข่มขู่

ไฉหลางขมวดคิ้ว ชี้ไปที่มือฉู่เหิงจือ

“พี่เถี่ยซั่น อย่ากอดคอน้องเล็กเช่นนั้นเลย นางลุกไม่ขึ้นแล้ว”

ฉู่เหิงจือกลับยิ้มน้อยๆ “หัวหน้าสามปรักปรำข้าแล้ว หากนางอยากดื่มจริงใครก็ขวางนางไม่ได้ หากนางไม่อยากดื่ม เอาดาบมาบังคับก็ไม่มีประโยชน์” จากนั้นก็หันมาถามยิ้มๆ “น้องอิง เจ้าอยากไปดื่มสุราหรือไม่”

กวนอวิ๋นซีอยากตอบว่าอยาก แต่เมื่อสบตาของฉู่เหิงจือที่ซ่อนดาบไว้ภายใต้รอยยิ้มหัวใจก็กระตุกทีหนึ่ง พอนึกได้ว่าตัวนางเองยังคงต้องพึ่งคุณชายจากตระกูลเสนาบดีให้ไปจัดการเรื่องราวต่างๆ นางก็ไม่อาจล่วงเกินเขาได้ จึงเผยรอยยิ้มลำบากใจ

“พี่เถี่ยซั่น ข้าคอไม่แข็ง ท่านช่วยข้าดื่มคารวะหัวหน้าสามจอกหนึ่งแล้วกัน!”

ฉู่เหิงจือส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “เอาใจเจ้าไม่ถูกเลย ได้! หัวหน้าสาม ข้าขอคารวะท่านแทนน้องอิงแล้วกัน ได้โปรดอย่ารังเกียจเลย”

“ไม่เลย ท่านพูดอะไรเช่นนั้นเล่า น้องอิงดื่มไม่ได้ก็อย่าดื่มเลย” ไฉหลางเอ่ยยิ้มๆ แล้วก็เปลี่ยนเป็นเรียกนางว่าน้องอิง

แม้ไฉหลางจะเรียกนางมานั่งใกล้ๆ ไม่สำเร็จ ทว่าเขาคิดในใจว่าวันหน้ายังอีกยาวไกล ค่อยหาโอกาสใกล้ชิดนางแล้วกัน

ฉู่เหิงจือเพียงยิ้มน้อยๆ ดื่มสุราจอกแล้วจอกเล่ากับเขาอย่างสุขุม ฝ่ายตรงข้ามดื่มมากเท่าใด เขาก็ดื่มมากเท่านั้น ฝ่ายตรงข้ามดื่มหนึ่งไห เขาก็ดื่มหนึ่งไห

เขาเหลือบมองดวงหน้าสตรีในอ้อมกอดที่ยังคงดื้อดึง ลมหายใจเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้นาง เอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าแฝงไปด้วยการปลอบโยนอย่างล่อใจ

“ตอนออกไปจากที่นี่ เอาสุราหูจงเซียนไปด้วยสองไห”

สตรีในอ้อมกอดสบตากับเขาทันที แววตาอันงดงามเป็นประกายแวววาวในทันใด มันสะท้อนเข้ามาในดวงตาของเขา

ครั้นเห็นโทสะของนางเลือนหายไป ฉู่เหิงจือก็ยกมุมปากขึ้น

หน้าที่แล้ว1 of 10

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ทดลองอ่าน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com