ชลชาติยื่นโทรศัพท์ให้ทุกคนดู พิรุณรักษ์รีบคว้ามาดูก่อนใครและภาพที่เห็นก็ทำให้เธอตาค้างไปเลย ชายหนุ่มนอนคว่ำอยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มผืนบางๆ ปกปิดอยู่ แม้จะเห็นเพียงแค่เสี้ยวใบหน้าก็ดูรู้ว่าเป็นพุฒแบบไม่ต้องสงสัย ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือภาพสะท้อนเงาในกระจกตรงหัวเตียงเป็นภาพของเจนิเฟอร์หญิงสาวผู้เป็นภรรยาของสตีเว่นซึ่งกำลังเป็นข่าวอยู่นั่นเอง
“ไหนๆ เอามาดูบ้าง” ฐิติวรดาแย่งกลับมาและสะกิดให้พีรวิทย์ซึ่งนั่งอยู่ข้างกันดูด้วย “ครั้งก่อนมีแค่ข่าว แต่คราวนี้มาเป็นภาพเลย ผิดหวังชะมัด ฉันปลื้มเขามากเลยอะ เสียดาย”
“หล่อนเป็นแฟนกีฬาฟุตบอลเหมือนกันเหรอคะแม่คุณ” ชลชาติดึงโทรศัพท์กลับมา
“ดูไม่เป็นหรอก แต่ปลื้มที่เขาหล่ออะ”
“แต่คนนี้เขามีข่าวเรื่องผู้หญิงมาตลอดอยู่แล้วนะ” พีรวิทย์แสดงความเห็น
“เรื่องผู้หญิงก็พอทนอยู่หรอก แต่นี่มันเมียเพื่อนนะพี่แพท ศีลธรรมต่ำเกินไป ไม่สมกับเกิดในชาติตระกูลที่สูงส่งเลย”
“อย่าไปว่าเขาขนาดนั้นเลยน่า” พิรุณรักษ์อดที่จะปกป้องเขาไม่ได้ ถึงอย่างไรพุฒก็เป็นเพื่อนเธอ
แม้ว่าความจริงแล้วเขาถูกด่าแค่นี้ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ กลับไปแม่จะดึงให้หูขาดเลย
“นี่ยังน้อยไปนะฝน สักวันแกจะรู้ว่าผู้ชายที่บังคับให้กินผักตั้งแต่เดตแรก ยังน่ากลัวน้อยกว่าผู้ชายแบบนายพุฒนี่ร้อยเท่า เจอเมื่อไหร่ หลีกให้ไกลเลย”
หลีกให้ไกลอะไรกันเล่า ตลอดทั้งเดือนนี้เธอกับพุฒต้องเจอหน้ากันทุกวัน หายใจใช้อากาศร่วมกันในห้องแคบๆ แต่ถามว่าเธอต้องกลัวผู้ชายแบบพุฒด้วยหรือไม่ ตอบได้เลยว่าไม่จำเป็น เพราะว่าดูจากผู้หญิงที่เขาคั่วด้วยแต่ละคนแล้ว เธอไม่ได้เสี้ยวของมาตรฐานสเป็กหมอนั่นเลยสักนิด
“กลับตรงเวลาดีนี่”
เจ้าของเสียงทุ้มกล่าวทักทาย พุฒนั่งชันเข่าอยู่บนโซฟา ในมือถือกล่องป็อปคอร์น สองตาไม่ได้มองเธอเลยสักนิดเพราะกำลังจับจ้องภาพจากจอโทรทัศน์เบื้องหน้าอย่างสนอกสนใจ
“ส่วนแก…ก็สบายดีมากเลยนะ”
“ทำไมน้ำเสียงฟังดูประชดแบบนั้นวะ”
พิรุณรักษ์กังวลเรื่องที่พุฒกำลังเผชิญ และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าเขาดูสบายอกสบายใจเสียเหลือเกิน หรือว่านี่จะเป็นกลไกการป้องกันตัวของเขา
แสดงออกต่อสิ่งที่เป็นทุกข์ด้วยวิธีวางเฉยต่อมันไปเสียเลย
แต่จะอะไรก็ช่าง เธอคงทำแบบเขาไม่ได้ หญิงสาวไม่ตอบอะไรแต่เดินมานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับเขา มองภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอทีวี
“นั่งดูหนังสบายใจเฉย ได้ดูข่าวตัวเองบ้างหรือเปล่า”
พุฒกลอกตามามองหน้าเพื่อนครู่หนึ่งแล้วเลื่อนกลับไปดูหนังดังเดิม “แกต้องเข้าใจฉันนะ ฉันไม่ได้นั่งดูหนังสบายใจแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้วมั้ง”
“แต่ว่าข่าวแกตอนนี้มันไปกันใหญ่แล้วนะ ไม่ไปแก้ปัญหาอะไรก่อนเหรอ”
“แก้ดิ แต่ดูหนังจบก่อน”
“ไอ้พุฒ! นี่มันเรื่องใหญ่นะ”
“ตอนนี้ใครจะตายก็ช่างเถอะ ฉันจะดูหนัง แกไปทำของกินมาแกล้มเบียร์หน่อยไป” พุฒโบกมือไล่