นางตกอยู่ในความมืดมน ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง แล้วก็ไม่กล้าจะทำอะไรด้วย ทำได้เพียงตัวแข็งทื่อเช่นนี้ จนกระทั่งมีเสียงหนึ่งดังมา
“ใต้เท้า ถึงแล้วขอรับ”
เสียงนี้…ทำให้หัวใจที่เดิมทีกำลังจะตายของเหมียวลั่วชิงราวกับได้รับหยดน้ำชุบชีวิต
นางจำได้ว่านี่เป็นเสียงของอี้ หัวใจของนางที่เดิมทีคล้ายจะหยุดเต้นก็กลับมาเต้นอีกครั้ง เส้นประสาทที่ด้านชาก็กลับมามีความรู้สึกอีกครั้งเช่นกัน
‘เรื่องราวต่อจากนี้ข้าจะจัดการเอง’
วาจาของอี้ที่เคยกล่าวไว้ผุดขึ้นมาในความคิด นางเกิดความหวังที่เกือบจะดับสูญไปอีกครั้ง
“ลงไป!” หร่านเจียงออกคำสั่งด้วยเสียงเข้ม
นางช้อนตาขึ้นมาเห็นสายตาร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงของเขาก็รีบลุกจากตัก คุกเข่าลงไปบนพื้นรถ ก้มหน้าลง ค้อมตัวลงต่ำคล้ายเป็นคนตัวเล็กอีกครั้ง
หร่านเจียงร้องฮึเสียงเย็น เปิดประตูและลงจากรถม้าไป
หลังจากนั้นนางที่กลับมาสงบนิ่งดังเดิมก็ลงจากรถม้าตามไปด้วย ขณะเดียวกันนางก็ช้อนตาขึ้นอย่างรวดเร็ว กวาดตามองบุรุษที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง
บุรุษผู้นั้นแต่งกายเป็นองครักษ์กำลังยืนอยู่ด้านข้างรถม้ารอให้นางลงไป แล้วขณะที่นางมองไปทางเขา แววตาของคนทั้งสองประสานกันเพียงแวบเดียว เหมียวลั่วชิงก็รู้ว่าเขาคืออี้ และสารที่เขาส่งผ่านมาทางแววตาสื่อว่า…เขาจะลอบสังหารหร่านเจียงเอง!
เหมียวลั่วชิงหลุบตาลง เมื่อมองจากภายนอกแล้วดูคล้ายนางเงียบสงบไร้คลื่นอารมณ์ใดๆ แต่หัวใจนางคล้ายกับตกลงไปในคลื่นยักษ์ที่สูงเสียดฟ้า
อี้ใช้สายตาบอกนางว่ายามที่เขาลงมือ นางต้องเข้ามาร่วมมือกับเขาเมื่อสบโอกาส
นางจะทำเช่นไรดี นางไม่กล้าสังหารหร่านเจียง แต่ถ้าไม่สังหารเขา อี้คงจะไม่ปล่อยนางแน่
นางดูท่าสงบเยือกเย็น แต่อันที่จริงนางเยื้องย่างแต่ละก้าวอย่างเลื่อนลอย ทั่วทั้งร่างราวกับวิญญาณหลุดลอย นางช้อนตามองหร่านเจียงที่เดินอยู่เบื้องหน้า แม้เขาจะหันหลังให้นาง นางก็ยังคงสงสัยอยู่ดีว่าบุรุษผู้นี้มีตาที่สามอยู่ด้านหลังคอยควบคุมทุกสิ่ง ทำให้ไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
หร่านเจียงมาถึงโรงเตี๊ยมเยวี่ยไหล พอเข้ามาด้านในเขาก็เดินไปนั่งตรงกลางห้องโถง ทั่วทั้งโรงเตี๊ยมเงียบกริบในทันใดเพราะท่วงท่าของเขา
“องครักษ์เสื้อแพรมาตรวจสอบคดี ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ห้ามไปที่ใดทั้งนั้น!” ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งประกาศขึ้นในห้องโถง
โรงเตี๊ยมทั้งด้านบนด้านล่าง ไม่ว่าจะเป็นหลงจู๊ เสี่ยวเอ้อร์ ชาวบ้านที่กินข้าวอยู่หรือหยุดพักผ่อนล้วนถูกเรียกตัวออกมายืนเรียงแถวทั้งหมด องครักษ์เสื้อแพรสอบสวนอย่างเข้มงวด เริ่มตรวจสอบตั้งแต่บรรพบุรุษแปดรุ่นของพวกเขา
องครักษ์เสื้อแพรตำแหน่งใหญ่โต ไม่มีใครกล้าคัดค้าน ทุกคนล้วนยืนรอพร้อมร่างกายที่สั่นเทิ้มด้วยความกลัว
เหมียวลั่วชิงยืนอยู่ข้างกายหร่านเจียง นางแอบเหลือบมองเขา ใบหน้าอันหล่อเหลาคล้ายยังคงแดงด้วยฤทธิ์ของยาปลุกกำหนัดที่หลงเหลืออยู่ ดวงตาคู่นั้นที่หรี่เพียงครึ่งคล้ายลอบอดกลั้นอารมณ์ไว้ คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย