มีดวงตามากมายเช่นนี้คอยจับจ้องนาง นางจะสืบข่าวของอี้ได้อย่างไร
นางทำลายแผนการของอี้ หากเรื่องนี้รู้ไปถึงทางสำนัก นางจะต้องรับผลกรรมที่ตามมาแน่
“ข้าอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด” เหมียวลั่วชิงเอ่ยเสียงเรียบ
ครั้นพวกแม่บ้านและสาวใช้ได้ฟังแล้วก็รีบพยักหน้าตอบรับ
หลังจากรอให้คนพวกนั้นออกจากห้องไป หรุ่ยเอ๋อร์ก็แอบก่นด่าอย่างโกรธเคือง
“วิเศษวิโสอะไรนักหนา ดูท่าทางของนางสิ แค่กลายเป็นอี๋เหนียงก็ทำเป็นวางท่าดูถูกคน”
พอซุ่ยเอ๋อร์ได้ฟังก็รีบเตือนอีกฝ่ายทันควัน “เบาๆ หน่อย ยามนี้นางได้ดั่งฝันแล้ว ทับอยู่บนหัวพวกเรานะ”
“หึ เป็นอี๋เหนียงแล้วอย่างไร ไม่ใช่ภรรยาหลวงสักหน่อย อี๋เหนียงก็เป็นสาวใช้เช่นกัน เพียงแต่สูงกว่าพวกเรานิดหน่อยเท่านั้นเอง รอให้ความรู้สึกสดใหม่ของใต้เท้าหมดไปก่อนเถอะ ดูซิว่านางจะยังกำเริบได้หรือไม่”
ครั้นซุ่ยเอ๋อร์ได้ฟังก็ยิ้มเย็นพลางเอ่ยว่า “ที่เจ้าพูดก็ถูก ก็ลองดูจุดจบของพวกอี๋เหนียงในเรือนฝ่ายในสิ มีใครเป็นที่โปรดปรานไปได้ตลอดบ้าง แม้แต่เชี่ยนเหนียงที่งดงามที่สุดก็ยังถูกใต้เท้าทิ้งไว้ที่เรือนฝ่ายในเลยมิใช่หรือ”
หรุ่ยเอ๋อร์ได้ฟังมาถึงจุดนี้ก็ยินดีปรีดา “นั่นสิ แม้ว่าพวกเราจะเป็นแค่สาวใช้ แต่ก็ได้พบหน้าใต้เท้าทุกวัน ดีกว่าสตรีที่โดดเดี่ยวเดียวดายพวกนั้นเป็นไหนๆ”
สตรีทั้งสองนางแอบหัวเราะซุบซิบนินทา อันที่จริงปกติแล้วพวกนางทั้งสองคนก็คอยปะทะคารมกันอย่างดุเดือด ทว่ายามนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับเหมียวลั่วชิงที่ได้เลื่อนตำแหน่งแล้วพวกนางก็ยืนอยู่ฝั่งเดียวกันโดยปริยาย
แม้พวกนางจะกระซิบกระซาบ แต่กลับไม่รู้เลยว่าเหมียวลั่วชิงได้ยินทุกคำไม่มีตกหล่น
เหมียวลั่วชิงพลันยิ้มเย็น นางรู้ตั้งนานแล้วว่าสาวใช้สองคนนี้ไม่ได้หวังดีกับนางดังเช่นที่แสดงออก ยามอยู่ต่อหน้านางก็ทำเป็นเสแสร้ง พอลับหลังก็ซุบซิบนินทา
เหมียวลั่วชิงไม่ใส่ใจพวกนาง สาวใช้สองคนนี้หน้าไม่ตรงกับใจ ถ้าหากมีโอกาสก็คงหลอกใช้ได้ แต่คนที่ทำให้นางปวดหัวคือพวกแม่บ้าน พ่อบ้าน และบ่าวไพร่ในเรือนต่างหากเล่า เพราะคนเหล่านี้จะคอยตรวจตรานางไม่ให้คลาดสายตา แล้วพวกเขาก็ยังมีพื้นฐานวรยุทธ์ด้วย
จากเสียงฝีเท้าอันเงียบเชียบ ลมหายใจยาวและมั่นคงของพวกเขา จึงรู้ว่าพวกเขาฝึกวรยุทธ์มา นอกจากจะตั้งใจปกปิด อย่างเช่นตัวนางเอง เพื่อไม่ให้คนอื่นสังเกตได้ว่านางมีวรยุทธ์ นางจึงแอบสกัดจุดชี่ไห่เพื่อกีดขวางกำลังภายใน ให้ลมหายใจและเส้นลมปราณของตนอยู่ในสภาพอ่อนแอ
มีเพียงยามกลางดึกที่ไร้ซึ่งผู้คนเท่านั้นนางถึงจะค่อยๆ เปิดจุดชี่ไห่ออกแล้วนั่งสมาธิเดินพลังสักครึ่งชั่วยามเพื่อขยายเส้นเอ็นทั่วร่าง
นางสั่งให้ทุกคนออกไปจากห้องแล้วปล่อยผ้าม่านเตียงลง ซ่อนตัวอยู่ด้านใน ค่อยๆ นั่งสมาธิ หลังจากหายใจเข้าออกลึกๆ นางก็เปิดจุดชี่ไห่ เริ่มเดินพลังรักษาอาการบาดเจ็บอย่างไร้สุ้มเสียง
นางนึกว่าเมื่อให้ทุกคนออกไปแล้วนางก็จะนั่งสมาธิเดินพลังอย่างสบายใจได้ แต่นางกลับไม่รู้ว่ามีคนเล็ดลอดจากการฟังของนาง เข้าใกล้นางอย่างเงียบกริบ ค่อยๆ เอามือแหวกผ้าม่านออก เห็นร่างอันทรงเสน่ห์ได้โดยง่าย
เหมียวลั่วชิงกำลังเดินพลังอยู่ หมุนเวียนลมปราณภายในไปรอบหนึ่ง เพ่งสมาธิ หลับตาผ่อนคลายอย่างสงบราวกับพระโพธิสัตว์กวนอินกำลังนั่งสมาธิ งดงามราวเทพธิดา