ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางมีความรู้สึกไวโดยธรรมชาติหรือเพราะขี้ระแวง จู่ๆ นางก็รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมา มักจะสัมผัสได้ว่ามีคนแอบมองนางอยู่ ราวกับว่ามีสายตาที่ไร้รูปคอยจ้องมองนางทั่วร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แววตาอันเร่าร้อนนั้นทำให้นางมิอาจซ่อนกายไว้ได้
นางรู้สึกตะลึงงัน ดวงตางดงามลืมขึ้นมาทันใดราวกับตื่นจากฝัน
ภายในห้องเงียบกริบ ม่านบนเตียงยังคงปิดบังร่างนางที่นั่งขัดสมาธิเดินพลังอยู่ในสภาพเดิม รอบกายไร้ผู้คน ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น มีเพียงหัวใจนางที่เต้นรัวด้วยความกระสับกระส่าย
นางไม่วางใจจึงเลิกผ้าม่านขึ้นเล็กน้อย มองตรวจสอบรอบด้านอย่างละเอียด
ประตูห้องก็ยังคงปิดอยู่ นางไม่รู้สึกถึงลมหายใจใดๆ จากรอบด้าน นางจึงค่อยถอนหายใจโล่งอก ปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก นางคิดมากไปตามคาด
“ใต้เท้า”
ซุ่ยเอ๋อร์เอ่ยประโยคหนึ่งดังมาจากด้านนอกทำให้เหมียวลั่วชิงที่เพิ่งวางใจลงแข็งเกร็งขึ้นมาโดยพลัน
“ไยจึงอยู่นอกห้อง ไม่คอยอยู่เฝ้าแม่นาง” สุ้มเสียงของหร่านเจียงแฝงไปด้วยการตำหนิ
“ใต้เท้าโปรดอภัยด้วยเจ้าค่ะ แม่นางอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว ไม่อยากให้พวกเราเฝ้าอยู่ในห้อง พวกเรากลัวว่าจะรบกวนนางเลยออกมาเฝ้าอยู่นอกห้อง”
ซุ่ยเอ๋อร์เอ่ยอย่างน่าสงสาร ดูจากท่าทางภายนอกที่เคารพนบนอบแต่ก็แฝงด้วยเจตนาฟ้องเช่นกัน
เหมียวลั่วชิงไม่สนใจที่ซุ่ยเอ๋อร์ฟ้องหร่านเจียงหรอก ทว่ากลับสนใจที่เขามาหาตน กลางวันแสกๆ แท้ๆ เขาไม่ได้อยู่ที่กองปราบฝ่ายเหนือหรือ ไยจึงกลับจวนมาแล้วเล่า
นางรีบจัดการความคิด สกัดจุดชี่ไห่ของตน ซ่อนกำลังภายในไว้ ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออกนางก็นอนตะแคง หันหลังออกด้านนอก หลับตาแสร้งทำเป็นหลับ
บุรุษผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้ด้วยฝีเท้าที่มั่นคง นางสัมผัสได้ว่าเรือนร่างของนางอยู่ในสายตาเขา หร่านเจียงกำลังจ้องนางอยู่
นางรู้สึกว่าขอบเตียงยวบลงไปเล็กน้อย เขานั่งลงข้างกายนาง ส่วนนางก็พยายามควบคุมลมหายใจรวมถึงชีพจรให้อ่อนและตื้นเข้าไว้เพื่อไม่ให้เขาสังเกตได้ว่านางตื่นอยู่
นางไม่รู้ว่าวันนี้พอนางตื่นขึ้นมาก็มีคนรายงานหร่านเจียงทันที และนี่ก็คือเหตุผลที่จู่ๆ เขาก็กลับจวนมาแล้วปรากฏตัวในห้องนาง
นางรู้แต่เพียงว่าพอตนเองฟื้นขึ้นมาก็เปลี่ยนจากฐานะสาวใช้กลายเป็นอนุภรรยาเสียแล้ว นางไม่อยากมีความสัมพันธ์ใดๆ กับเขาเลย แล้วยิ่งไม่อยากให้เขาแตะเนื้อต้องตัวนาง แต่ก็กลัวจะยั่วโทสะเขาหรือทำให้เขาระแวง
นางยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้าเขาอย่างไร ดังนั้นก่อนที่นางจะคิดหาทางออกว่าจะรับมือกับเขาเช่นไรดี นางก็ทำได้เพียงแสร้งนอนหลับ
โชคดีที่ร่างกายนางบาดเจ็บ เชื่อว่าในสถานการณ์เช่นนี้หร่านเจียงก็คงไม่ถึงกับรีบร้อนแตะต้องตัวนาง
ขณะที่นางปลอบใจตนเองเช่นนี้ จู่ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวบนหัวไหล่ ฝ่ามือใหญ่ของเขาส่งพลังความอบอุ่นผ่านเสื้อผ้าไปสู่ผิวพรรณของนาง
นางรู้สึกถึงมือข้างนั้นได้อย่างฉับไว มันค่อยๆ เคลื่อนจากหัวไหล่ไปตามเส้นเว้าโค้งของเรือนร่างที่นางนอนตะแคงอยู่ มือนั้นรุกล้ำเข้าไปในผ้าห่ม ลูบไล้จากหัวไหล่ไปยังสะเอว
ดวงหน้านางนอนหลับอย่างสงบ ทว่าหัวใจกลับเริ่มกระสับกระส่ายไปตามฝ่ามือใหญ่ที่วูบไหวอยู่ที่เอว
เขาคิดจะทำอะไร