เขารู้จักกับณอันดามาตั้งแต่เด็กเพราะบิดามารดาเป็นเพื่อนสนิทกัน หญิงสาวเป็นลูกสาวคนเล็กของนักธุรกิจใหญ่เจ้าของกิจการโรงแรมและบริษัทท่องเที่ยวที่มีเครือข่ายกว้างขวาง ในขณะที่ครอบครัวเขาประกอบธุรกิจด้านการก่อสร้าง ออกแบบและตกแต่ง เท่าที่พอจะนึกได้จากความทรงจำวัยเยาว์อันรางเลือน เด็กหญิงในวันแรกเจอดูนุ่มนิ่ม บอบบางไม่ต่างอะไรกับขนมสายไหมสีหวานฟูนุ่มในมือ ดวงตากลมสุกใสสีน้ำตาลอ่อนเจือไปด้วยแววขัดเขิน และขาดความมั่นใจอย่างเด่นชัด ร่างเล็กพยายามซุกซ่อนตัวอยู่หลังผู้ปกครองหรือไม่ก็พี่ชายพี่สาวอยู่ตลอดเวลาที่มีคนแปลกหน้าร่วมอยู่ด้วย
แต่แล้ววันหนึ่งภาพเด็กหญิงน่าทะนุถนอมนั้นกลับจางหายไปโดยที่คนรอบข้างก็ไม่รู้ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ หากกว่าจะรู้ตัวกันอีกทีก็มีสาวน้อยสดใสแต่แสนแสบเข้ามาแทนที่แล้ว ยิ่งฐานะของครอบครัวที่เข้าข่ายร่ำรวย ประกอบกับความเป็นน้องน้อยของบ้านทำให้เจ้าหล่อนได้รับการประคบประหงมตามใจมากกว่าปกติ เธอจึงเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่ร่าเริงแจ่มใส…มากไปนิด เปิดเผยจริงใจ…จนขวางหูขวางตาบางคนในบางครั้ง ดื้อดึง…อย่างหน้าชื่นตาบานและไม่มีใครคัดค้านได้ และสั่งสมความเป็นตัวของตัวเองแบบไม่ค่อยแคร์สายตาคนอื่น มีความมั่นใจในตัวเองระดับเกินพิกัด รวมทั้งความเอาแต่ใจตามประสาลูกคุณหนูผู้แสนสบายมาตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตามด้วยพื้นฐานนิสัยและการอบรมเลี้ยงดูอย่างดีก็ทำให้ณอันดามีความน่ารักอยู่ในตัวไม่น้อย ไม่ต้องถามหาคนอื่นไกล ก็พ่อแม่เขานี่แหละที่รักและให้ความเอ็นดูเจ้าหล่อนเสียเหลือเกิน อันที่จริงพวกท่านก็สนิทสนมและรักใคร่ทั้งสามพี่น้อง อันได้แก่ณัฐกฤต ณิชวรรณ และณอันดาในฐานะลูกของเพื่อน หากกับน้องนุชสุดท้องนี้แทบจะเรียกได้ว่าโปรดปรานไม่ต่างอะไรกับลูกของตัวเองอย่างเขาเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแม้จะมีครอบครัว ญาติพี่น้อง และผองเพื่อนรายล้อมอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง บุคคลที่มีอิทธิพลและเป็นคนที่สาวน้อย ‘ติด’ และยอมลงให้มากที่สุดกลับกลายเป็นพี่ชายร่วมโลกอย่างเขา จะด้วยจิตวิทยาทฤษฎีใดหรือเวทมนตร์คาถาบทไหนก็แล้วแต่ เด็กสาวที่ได้รับคำนิยามว่าแสบเซี้ยวเปรี้ยวซ่าและบ้าสุดๆ กลับเชื่อฟังเขาเป็นอย่างดี บ่อยครั้งที่เวลาใครอยากให้เธอทำอะไรสักอย่าง จะต้องมาขอให้เขาช่วยเจรจาให้ จนมารดาเธอถึงกับออกปากอยากยกลูกสาวคนนี้ให้อยู่ในความดูแลของเขาไปเสียเลย
แม้กระทั่งชื่อเล่นที่เขาแกล้งเปลี่ยนจาก ‘ณาณ่า’ เป็น ‘หนูณา’ เพื่อเย้าแหย่แม่หนูที่วิ่งพล่านตามติดเขาตลอดเวลาก็ยังกลายเป็นชื่อสำคัญที่เจ้าตัวภาคภูมิและปลาบปลื้มใจมากจนสงวนไว้สำหรับครอบครัวและคนที่สนิทสนมเป็นพิเศษอย่างเขาเท่านั้น เรียกว่าถ้าใครที่อยู่นอกเหนือกลุ่มยกเว้นดังกล่าวเกิดอยากลองของเรียกขานเธอด้วยชื่อนี้บ้าง ก็จะได้รับการตอบกลับอย่างแสนประทับใจจนไม่คิดหาญกล้าอีกเลย
และเมื่อเวลาผ่านไปความสนิทสนมเหล่านี้จึงก่อให้เกิดความคิดพิลึกพิลั่นระหว่างสองมารดา…ความคิดที่พบเจอได้บ่อยๆ ตามหนังสือนิยายและละครน้ำเน่าหลังข่าว ซึ่งทำให้บรรดาเพื่อนสนิทของเขาที่รู้เรื่องนี้เข้าถึงกับหัวเราะก๊ากต่อหน้าต่อตาอย่างปราศจากความเกรงใจโดยสิ้นเชิง
‘ไม่ขำนะเอ็ง’ พาณาสน์ตาขวางใส่เพื่อนที่มีความสุขอยู่บนความกระอักกระอ่วนของเขา อันที่จริงเขาไม่ได้รังเกียจอะไรเธอ หากก็ไม่มีความรู้สึกพิเศษที่นอกเหนือไปจากความสนิทสนม ผูกพัน และเอ็นดูเสมือนน้องสาวที่เขาไม่มีเท่านั้น
‘เอาน่า ตามใจคุณแม่หน่อย ถือซะว่าเป็นงานอดิเรกของคนรุ่นเถ้าแก่เนี้ยที่มีลูกชายหล่อลูกสาวสวย’
พอบ่นกับมารดาตรงๆ ก็ได้รับคำตอบที่เหมือนจะให้ความหวังว่า
‘แม่ไม่ได้บังคับ แค่สนับสนุนและบอกให้พัทรู้ว่าแม่ชอบหนูณา แต่สุดท้ายคนที่ตัดสินใจเลือกก็คือเรา จะเอายังไงก็บอก ไม่มีใครว่าอะไรสักหน่อย’
ฟังแล้วก็เกือบจะโล่งใจขึ้นได้ ถ้าไม่มีประโยคตบท้ายตามมา
‘แต่จนกว่าพัทจะหาแฟนถูกใจได้ แม่ขอล็อกหนูณาไว้ในตำแหน่งว่าที่สะใภ้ก่อนแล้วกัน’
ส่วนเจ้าของตำแหน่งว่าที่สะใภ้นั้นก็มิได้คัดค้านอะไร จริงๆ ต้องบอกว่าปลาบปลื้มและเต็มใจรับตำแหน่งเป็นที่ยิ่งเสียด้วย เจ้าตัวถึงกับพนมมือกราบที่ตักคุณสายพิณอย่างนอบน้อมสวยงามพร้อมคำพูดที่ทำให้เขาถอนใจเฮือก
‘ต้องขอบคุณคุณป้าพิณมากๆ ค่ะที่ไว้วางใจยกพี่พัทให้ณาณ่า ณาณ่าสัญญาว่าจะดูแลพี่พัทอย่างดีที่สุดค่ะ’
…เอาเข้าไป!