เมื่อเข้าใจความต้องการของสาวรุ่นน้องแล้ว เขาจึงอาศัยจังหวะที่ทุกคนกำลังทำหน้าเหวอใส่กันและกัน ยื่นมือเข้าไปไกล่เกลี่ยและหาทางคลี่คลายสถานการณ์ทันที
“เอาเถอะๆ มัวแต่พูดอะไรกันก็ไม่รู้ ไหนๆ ก็จอดรถแล้ว ใครจะกินอะไรก็แยกย้ายไปซื้อเลยดีกว่า ไปถึงที่โน่นมันช่วงเที่ยงพอดี จะได้ไม่ต้องแวะกินอีก เดี๋ยวจะหาร้านอาหารลำบาก เราเข้าที่พักได้ช่วงเที่ยงใช่มั้ยพี่อรรถ”
“ฮื่อ ดีเหมือนกัน ไปถึงเอาของไปเก็บแล้วจะได้ไปต่อพิพิธภัณฑ์เลยไม่ต้องเสียเวลา”
เมื่อได้ข้อสรุปดังกล่าว ทุกคนจึงพากันแยกย้ายไปตามร้านอาหารที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ เพื่อหาซื้ออาหารที่ต้องการแล้วค่อยกลับมาพบกันที่รถอีกครั้ง
“ยังไงกันฮึณาณ่า” พาณาสน์ตั้งคำถามทันทีที่แยกตัวจากเพื่อนเข้ามาในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดสัญชาติเม็กซิกัน
หญิงสาวที่กำลังเงยหน้าดูรายการอาหารบนผนังหันมาทำหน้าไร้เดียงสา “อะไรยังไงเหรอคะ”
“ก็ที่ทำไปเนี่ย จะเอาอะไรกันแน่” แม้จะคิดว่ารู้ถึงความตั้งใจของอีกฝ่าย แต่เขาก็ยังอยากถามเพื่อความแน่ใจ
“ก็ณาณ่ากลัวว่าถ้าพี่โจหาวมากกว่านี้อีกสักห้าที จะท้องอืดท้องเฟ้อเสียก่อนนี่คะ”
ชายหนุ่มส่ายศีรษะกับคำตอบทีเล่นทีจริงนั้น แม้จะเป็นการยืนยันว่าเขาเข้าใจไม่ผิดก็เถอะ
“วันหลังไม่ต้องทำให้มันวุ่นวายขนาดนี้ก็ได้นะ”
“แหม แค่นี้เอ๊งงง” ณอันดาจีบปากลากเสียงสูง “ณาณ่ารู้ว่าเดี๋ยวพี่พัทก็จัดการได้สบายอยู่แล้วนี่คะ”
“แล้วถ้าเกิดพี่ไม่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ขึ้นมา ไม่กลายเป็นว่าเราหาเรื่องทะเลาะกับคนทั้งรถไปแล้วเหรอ”
อีกฝ่ายยิ้มแฉ่งราวกับทานตะวันยามเงยหน้าขึ้นรับแสงอาทิตย์อันเจิดจ้า มองคนข้างกายที่พูดแล้วก็หันไปสั่งอาหารจานโปรดของเธอกับพนักงานโดยไม่จำเป็นต้องถามความต้องการจากคนกินเพราะจำได้ขึ้นใจอยู่แล้ว
“ถ้าไม่มีพี่พัทก็ไม่ทำหรอกค่ะ ณาณ่ามั่นใจว่ายังไงพี่พัทก็ต้องเข้าใจและรู้ใจณาณ่าที่สุดอยู่แล้ว”
พูดจบเธอก็ได้รับรางวัลจาก ‘คนรู้ใจ’ เป็นกำปั้นทุบศีรษะอย่างหมั่นไส้เต็มกำลัง…แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นเคยว่าไม่จริง
ในที่สุดขบวนเดินทางก็ไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย แม้จะต้องเสียเวลาระหว่างทางไปบ้าง แต่เมื่อนำไปชดเชยกับเวลาที่เผื่อไว้สำหรับการรับประทานอาหารในเมืองตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ก็ทำให้สามารถเข้าที่พักได้เร็วขึ้นราวๆ ครึ่งชั่วโมง
‘จริงๆ ณาณ่าก็กะให้เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะค่ะ’
แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อ แต่เมื่อเห็นพ้องกันโดยมิต้องสื่อสารด้วยวาจาว่าการคัดค้านคงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด ทุกคนจึงปล่อยให้หญิงสาวปลาบปลื้มกับแผนการอันลึกล้ำที่เชื่อว่าตนเองคาดไว้ล่วงหน้าต่อไป
เนื่องจากเป็นช่วงกลางวันที่แสงแดดกำลังแผดกล้า คณะเดินทางจึงออกจากที่พักหลังจากเก็บสัมภาระเรียบร้อยเพื่อเริ่มจุดหมายแรกของการเยี่ยมเยือนที่ย่านพิพิธภัณฑ์คฤหาสน์โบราณหลากสไตล์หลายหลังที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งแต่ละแห่งนั้นมีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี แต่ได้รับการทำนุบำรุงอย่างดีจนสามารถคงสภาพที่ดูเหมือนใหม่และสะอาดสะอ้าน หากไม่คลายซึ่งมนตร์ขลังอันทำให้ผู้เข้าชมทึ่งและดื่มด่ำกับบรรยากาศได้เพียงแค่สัมผัสด้วยตา นอกจากนี้ยังมีไกด์ผู้นำชมภายในคฤหาสน์และเจ้าหน้าที่ในเครื่องแต่งกายแบบโบราณคอยต้อนรับเพื่อให้เข้าใจความเป็นอยู่ในยุคสมัยนั้นได้ง่ายขึ้น
“โอ๊ะ นั่นมีเจ้าสาวด้วย” เสียงอุทานของคนหนึ่งในกลุ่มดังขึ้น เรียกความสนใจของคนอื่นที่เพลิดเพลินกับการเก็บภาพบรรยากาศในมุมต่างๆ ให้มองตาม
“อ้อใช่ ที่นี่รับจัดงานแต่งงานด้วยนี่”