ถงเสี่ยวโยวนั่งรอที่หลังเวทีอยู่นานแล้วก็สังเกตการณ์อยู่นานแล้วด้วยเช่นกัน ผู้ที่อยู่ในงานทักทายกันง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ ‘ได้ยินชื่อเสียงมานาน’ ก็จะเป็น ‘ไม่ได้เจอกันนาน’ เธออยากจะไปขอลายเซ็น ทั้งอยากเข้าไปทำความรู้จัก แต่ว่า…
เธอหันหน้าไปทางข้างๆ ก็เห็นมือถือที่มู่หยางทิ้งเอาไว้ ตอนนี้หลังเวทีมีเพียงเธอคนเดียว จะหยิบขึ้นมาก็ไม่ค่อยดี จะทิ้งไว้ก็ไม่ค่อยเหมาะ สุดท้ายก็ได้แต่ให้มือถือนี้ผูกมัดเอาไว้ไปไหนไม่ได้
“โอลิมปิก”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยลอยมา อาวุธลับตัวฉกาจที่ถูกส่งมาก็ลุกขึ้นยืนทันที “บ.ก.”
ลู่ซิงเฉิงกวาดสายตาไปหลังเวทีด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ พลังของเทพแห่งความโชคร้ายก็ไม่เท่าไหร่ หลังเวทียังดูปกติไม่มีอะไรเสียหาย
“เธอนั่งอยู่ตรงนี้ตลอดเพื่ออะไร” แดลี่ร้องถามถงเสี่ยวโยว “ก่อนหน้านี้ไม่ใช่รอว่าจะไปขอลายเซ็นขอถ่ายรูปคู่หรือไง”
ถงเสี่ยวโยวชี้ไปที่มือถือของมู่หยางอย่างน่าสงสาร “ฉันเฝ้ามือถืออยู่ค่ะ”
แดลี่หรี่ตามอง “นี่มันมือถือของมู่หยางไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ” เธอพยักหน้า “เขาออกไปแล้ว เพราะงั้นฉันจึงได้นั่งรออยู่ตรงนี้ตลอด”
ลู่ซิงเฉิงขมวดคิ้ว “โอลิมปิก ฉันไม่ได้ส่งเธอมาเพื่อให้เธอมานั่งเฝ้าโทรศัพท์นะ”
ถงเสี่ยวโยวก็ได้แต่เบะปาก เธอรู้แล้วว่าตัวเองจะมายิงคลื่นแสงความซวย แต่มู่หยางออกไปแล้ว เหลือเธอเพียงคนเดียว เธอก็ยิงคลื่นวนไปรอบตัว คนที่รับคลื่นก็มีแต่ตัวเธอเอง “บ.ก. คะ คุณกับมู่หยางมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน ทำไมเขาถึงได้เกลียดคุณนัก คุณก็เกลียดเขามาก”
ลู่ซิงเฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อย “ฉันก็เกลียดเธอ เธอก็เกลียดฉัน เธอว่าเพราะอะไรล่ะ”
ถงเสี่ยวโยวนิ่งงันไป เธอทำเพื่อรักษางาน พยายามเก็บความไม่พอใจที่มีต่อลู่ซิงเฉิงไว้อย่างมิดชิด แต่ก็ยังถูกเขารู้จนได้ ถูกต้อง เมื่อก่อนเธอวางลู่ซิงเฉิงไว้เหมือนเป็นตำนานที่ชื่นชม แต่ตอนนี้ความรู้สึกของเธอที่มีต่อลู่ซิงเฉิงก็คือชื่นชมและเกลียดชังคู่กันอยู่ ความรู้สึกเกลียดนี่มันพิเศษมาก เพราะความร้ายกาจของลู่ซิงเฉิงช่างเปิดเผย แต่ต่อให้ความร้ายกาจของเขาทำให้คนและเทพต่างเกลียดก็ยังให้ความรู้สึกเปิดเผย
และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเขาไม่ได้สนใจอะไรเรื่องพวกนี้ “พวกเธอเป็นสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป นอกจากทำอะไรฉันไม่ได้แล้วก็ยังต้องทำตามที่ฉันต้องการ คนที่เกลียดฉันมีตั้งมากมาย ต่อให้เข้าคิวก็ยังไม่มีทางถึงเธอได้”
การเกลียดคนที่อ่อนแอนั้นง่ายดายและสบายมาก แต่การเกลียดผู้ที่แข็งแกร่งนั้นลำบากมากนัก ความรู้สึกที่ออกมาจากใจมันชัดเจนจนไม่อาจจะเถียงได้ จึงได้แต่ยอมรับกับตัวเองอย่างเงียบๆ ว่าไม่ว่าจะมีความไม่พอใจมากขนาดไหน สุดท้ายก็ได้แต่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง
จู่ๆ มือถือของมู่หยางก็ดังขึ้น ถงเสี่ยวโยวคว้ามือถือขึ้นมาแล้วถือโอกาสหนีไป “ฉัน…จะเอามือถือไปให้เขา”
ถงเสี่ยวโยวหนีไปอย่างร้อนรน ลู่ซิงเฉิงออกจากหลังเวทีไปอย่างมีความสุข ทว่าเดินไปสองก้าวก็หยุดชะงัก จู่ๆ ก็มีคนทะลักเข้ามาในงานเลี้ยง แต่เขากลับไม่ใช่ศูนย์กลางของงาน
แดลี่มองดูด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ลู่เหยียนจือมาแล้ว เขายังหล่อเหมือนเดิมเลย”
ลู่ซิงเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ใบหน้าอันหล่อเหลามีความน่ากลัวแทรกขึ้นมา “อ้อ งั้นเหรอ งั้นคุณก็ไปดูสิ”
อย่างไรก็ตามแดลี่มีประสบการณ์มาก เขาสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่ปกติ “ถ้าไปแล้วยังกลับมาได้ไหม”
“แน่นอน” ลู่ซิงเฉิงยิ้ม “กลับไปแผนกทำความสะอาด”
แดลี่นิ่งเงียบ ศัตรูของ บ.ก. เยอะแยะเหลือเกิน เป็นผู้ช่วยเขานี่ช่างลำบากจริงๆ