ถงเสี่ยวโยวถือโทรศัพท์มือถือมู่หยางวิ่งไปทั่วงาน ที่จริงเธอก็แค่ต้องการหาเหตุผลในการหนีจากลู่ซิงเฉิง โดนคนรู้ความในใจเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก โดนคนรู้ถึงความเกลียดชังก็ทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะเธอที่มีฐานะต่ำต้อย แม้กระทั่งความเกลียดชังก็ดูจะเป็นเรื่องน่าขบขัน
เสียงเรียกมือถือหยุดลง ถงเสี่ยวโยวจึงค่อยๆ ลดความรีบร้อนและกดดัน ถัดมาก็มีเสียงข้อความของวีแชตดังขึ้น เธอก้มหน้าลงมองหน้าจอมือถือโดยอัตโนมัติ
ข้อความบนหน้าจอมือถือทำให้สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที เสียงวิ้งดังขึ้นในสมองแล้วก็ระเบิดขึ้นมา ด้วยเกรงว่าจะมีคนมาเห็นเข้าถงเสี่ยวโยวจึงรีบยัดโทรศัพท์มือถือเข้าไปในกระเป๋าอย่างรีบร้อน แต่กลับลืมว่าวันนี้ตัวเองใส่เดรสจึงไม่มีที่ที่จะยัดโทรศัพท์มือถือลงไป ยิ่งรีบร้อนก็ยิ่งสับสน เดินกลับหลังอย่างโงนเงน ไปชนเข้ากับอกแข็งๆ ของคนที่อยู่ทางด้านหลัง
คนคนนั้นยื่นมือมาพยุงแขนของเธออย่างสุภาพ แต่ก็ไม่ได้ใช้มือสัมผัสกับเธอ
“ระวัง” เสียงของเขาช่างน่าฟัง ทั้งมั่นคงและผ่อนคลาย
“ขอโทษด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ” ถงเสี่ยวโยวพยักหน้าหงึกๆ พร้อมกับเอามือถือของมู่หยางไปซ่อนไว้ทางด้านหลัง
คนคนนั้นอยู่ในชุดกางเกงผ้าต่อที่เป็นเอกลักษณ์ เสื้อสีเทาก็เป็นการออกแบบที่เรียบง่ายและดูสะอาดตา ลักษณะเข้ากับใบหน้าที่งามสง่าของเขาเป็นอย่างดี
แตกต่างกับความหล่อเหลาอย่างอวดๆ ของลู่ซิงเฉิง แล้วก็ไม่เหมือนความร้ายๆ ของมู่หยาง ใบหน้าเขาดูเรียบง่าย ตาชั้นเดียว จมูกโด่ง โครงหน้าไม่เข้ม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนโยนนุ่มละมุน มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้คนรู้สึกหลงใหลได้
นี่เธอมาชนเข้ากับลู่เหยียนจือ
คืนนี้หัวใจของถงเสี่ยวโยวถูกกระตุ้นมากเกินไปแล้ว นี่หัวใจเกือบจะหยุดเต้น
ลู่เหยียนจือเป็นไอดอลของดีไซเนอร์มากมาย เขาโด่งดังตั้งแต่อายุยังน้อย ได้รับการขนานนามว่าเป็นดีไซเนอร์มือทอง ได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย อายุยี่สิบก็สามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองที่ชื่อ ‘เหยียนเก๋อ’ ทั้งยังมีอิทธิพลกับโลกไม่น้อยและยอดขายก็ไม่ด้อย หลายครั้งที่ถงเสี่ยวโยวอดหลับอดนอนเพื่อจะดูแฟชั่นวีกของทั้งปารีสและนิวยอร์กที่กลายเป็นงานเดินแฟชั่นของ ‘เหยียนเก๋อ’
ประโยคทักทายที่เรียนรู้มานานในที่สุดก็ได้พูดออกไป “ได้ยินชื่อเสียงคุณมานานแล้ว”
ลู่เหยียนจือยิ้มน้อยๆ “ผมก็ได้ยินชื่อเสียงคุณมานานแล้ว”
ถงเสี่ยวโยวถึงกับตะลึง ไอดอลของเธอพูดกับเธอว่า ‘ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว’ Excuse me?
ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาเรียกเขา ลู่เหยียนจือใช้สองนิ้วปาดไปที่หว่างคิ้วของเธออย่างเท่ๆ แล้วก็หันหลังจากไป
ถงเสี่ยวโยวรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ จนกระทั่งลู่เหยียนจือเดินไปไกลแล้วเธอถึงได้สติกลับมา จะตามไปก็ไม่ทันแล้ว เมื่อกี้ถึงกับลืมที่จะขอลายเซ็นเขา
“อย่าตื่นเต้นไป ที่บอกได้ยินชื่อเสียงมานานก็เพราะว่าลู่เหยียนจือเห็นเธอในการแข่งขันสถานีถัดไป รันเวย์” เมื่อเทียบกับลู่เหยียนจือแล้ว น้ำเสียงของมู่หยางทั้งร้ายกาจและสารเลว และทำให้เธอตกใจจนหัวใจเต้นแรง ไม่รู้เลยว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่
ถงเสี่ยวโยวรู้สึกผิด หันหลังกลับไปก้มหน้ายืนนิ่ง ส่งมือถือให้กับมู่หยางแล้วก็พูดติดอ่างออกมา “มือ…มือถือของคุณดัง ฉัน…ฉันเลยเอามาให้คุณ”
หลายครั้งแล้วที่มู่หยางยิงกระสุนแล้วเหมือนจมลงใต้ทะเลลึก รู้สึกไม่สะใจ เขารับมือถือมาโดยไม่คิดจะดู เร่งเธอด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีนัก “พิธีมอบรางวัลกำลังจะเริ่มแล้ว ยังจะมาโอ้เอ้อีก”