เป็นเพราะตื่นเต้นจนเกินไป ถงเสี่ยวโยวจึงนอนไม่หลับทั้งคืน จนกระทั่งฟ้าสว่างรำไรถึงได้หลับไป ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ถึงตื่นขึ้นมา เมื่อเปิดตาขึ้นก็เห็นซ่งหรูหรูนั่งอยู่ที่หัวเตียงจ้องมองตัวเธอเขม็ง ทำเอาเธอตกใจจนต้องกระโดดขึ้นมา “ซ่งหรูหรู เธอทำเอาคนตกใจตายเลย”
“ฉันไม่เข้าใจ” ซ่งหรูหรูทึ้งหัวตัวเองอย่างเจ็บปวด “ฉันไปขอคำชี้แนะจากอาจารย์ คำนวณอยู่สามวันสามคืน วันเดือนปีเกิดของแกทำไมอยู่ๆ ถึงเปลี่ยนชะตาได้”
“ไม่ใช่ว่าสามสิบปีก็เปลี่ยนทีหรอกเหรอ” ถงเสี่ยวโยวเอ่ยขึ้น “จะว่าไปกว่าฉันจะเปลี่ยนโชคชะตาได้ เธอก็ยังไม่อยากจะเชื่อ นี่เธอยังเป็นคนอยู่อีกไหม”
“ก็เพราะฉันเป็นคนถึงไม่เข้าใจไง” ซ่งหรูหรูนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว ตอนนี้ขอบตาที่ดำคล้ำก็ใหญ่กว่าดวงตาเสียอีก “เธอรอก่อน ฉันจะต้องหาคำตอบให้ได้ วิทยาศาสตร์จะกลายเป็นเรื่องหลอกลวงครึ่งหนึ่ง”
“เธอเผยแพร่เรื่องงมงาย ยังจะกล้าพูดว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องหลอกลวงครึ่งหนึ่งเหรอ”
“แน่นอน” ซ่งหรูหรูยกไอแพดโปรขนาดใหญ่ฟาดไปที่ถงเสี่ยวโยว เกือบจะฟาดจนเธอหมดสติ “เธอดูสิ นี่มันวิทยาศาสตร์ไหม”
ถงเสี่ยวโยวเลื่อนหน้าจอดู ภาพบนหน้าจอคือหน้าแรกของข่าวบันเทิง ด้านซ้ายเป็นข่าวที่เธอเข้าไปทำงานกับเวย์ ด้านขวาเป็นภาพเวินซีกอดจูบกับมู่หยาง ภาพทั้งสองคนชัดเจนอย่างที่สุด แม้แต่แววตาก็ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน นี่คือคู่รักที่กำลังตกหลุมรักกัน
ซ่งหรูหรูอธิบายว่า “นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดตรงทางเดินในงานเลี้ยงฉลองประจำปี วันนั้นเวินซียังเป็นแฟนของลู่ซิงเฉิงนะ เธอว่าทำไมนักข่าวถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ สามารถไปดึงภาพจากกล้องวงจรปิดมาเขียนข่าวได้”
ถงเสี่ยวโยวกลืนน้ำลายลงคอ “แล้ว…แล้วลู่ซิงเฉิงล่ะ”
ซ่งหรูหรูยื่นมือไปเลื่อนหน้าจอแทนเธอ “อ้อ อยู่ตรงนี้เอง”
หน้าถัดไปเป็นรูปลู่ซิงเฉิงสวมหมวกสีเขียว บทความใต้ภาพล้วนแล้วแต่เป็นการประชดประชันแดกดันลู่ซิงเฉิง จากเขาที่ยโสโอหังจนถึงวันนี้ถูกสวมเขาโดยไม่รู้ตัว แม้จะเห็นอยู่ว่าเขาเป็นผู้ถูกทำร้าย แต่ข้อความทั้งหมดแสดงออกมาว่า ‘สมน้ำหน้า’
“ได้ยินว่าเช้านี้ลู่ซิงเฉิงจัดงานแถลงข่าว ใครจะไปรู้ว่าก่อนงานแถลงข่าวพวกนักข่าวจะขุดคุ้ยข่าวนี้ออกมา ตอนที่ลู่ซิงเฉิงถูกยิงคำถามใส่ก็ควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ถึงกับทำร้ายนักข่าวไปคนนึง…” ซ่งหรูหรูถอนหายใจ “อีกสักพักข่าวนี้ก็คงจะมีหน้าต่างที่ไว้กดส่งต่อแล้วล่ะ”
“นี่…” ถงเสี่ยวโยวปากสั่น พูดอะไรไม่ออก
“คิดถึงตอนที่ถูกเขาทรมานขนาดนั้น ก็ถือว่าได้แก้แค้นแล้วล่ะ” ซ่งหรูหรูพอใจกับเรื่องนี้มาก “เพียงแต่ไม่ค่อยถูกต้องตามดวงสักเท่าไหร่ ถือว่าเป็นการท้าทายฉันอย่างมาก”
“ฉันทำเองนั่นแหละ” ถงเสี่ยวโยวตะโกนออกมาอย่างห้ามใจไว้ไม่อยู่ ทำเอาซ่งหรูหรูตกใจจนตกจากเตียงลงมาที่พื้น
“หา?”
ถงเสี่ยวโยวร้อนรนจนพูดไม่รู้เรื่อง “เวินซีกับมู่หยาง ที่จริงฉันรู้ว่าพวกเขา…” ในวันงานเลี้ยงฉลองประจำปีเธอบังเอิญเห็นข้อความที่เวินซีส่งมาให้มู่หยางโดยไม่ได้ตั้งใจ เวินซีนัดมู่หยางให้ไปที่ทางเดินหลังงานจบ เพราะข้อความนี้วันนั้นเธอถึงได้ใจลอยไม่มีสติ แล้วสุดท้ายก็ทำถ้วยหลุดมือจนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมา
“เธอบอกว่าเธอรู้เรื่องมู่หยางกับเวินซีมาก่อนหน้านี้แล้ว ถ้าลู่ซิงเฉิงรู้แล้วบอกเลิกกับเวินซีก่อน ข่าววันนี้ก็จะไม่เป็นแบบนี้” ซ่งหรูหรูสมแล้วที่เรียนปรัชญามา สามารถจัดการความคิดได้ในระยะเวลาอันสั้น
ถงเสี่ยวโยวพยักหน้า “แต่ฉันไม่ได้บอกเขา หลายครั้งที่ฉันคิดจะบอกเขา แต่…” เธออธิบายไปครึ่งหนึ่งแล้วก็หยุดชะงัก ไม่ว่าเธออยากจะบอกไปสักกี่ครั้งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด บางทีจิตใต้สำนึกเธออาจจะอยากให้ลู่ซิงเฉิงซวยบ้าง อยากจะเห็นเขาผิดพลาด เห็นท่าทางดูไม่ได้ของเขา เธอไม่มีเหตุผลที่จะแก้ตัว
เธอก็เหมือนกับคนที่เกลียดชังลู่ซิงเฉิง อยากจะเห็นเขาตกลงจากสวรรค์จนร่างแตกละเอียด ไม่อาจฟื้นตัวกลับมาได้อีก