สัปดาห์ต่อมาลู่เหยียนจือให้เธออยู่ที่โกดังเพื่อทำความคุ้นเคยกับผ้า ในวันที่เงียบสงบมีเพียงแค่คนกับสิ่งทอ เธอมีความรู้สึกที่สงบนิ่งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โยนเรื่องการทำงานหลายปีที่ผ่านมาและเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตทิ้งไป กรอบความคิดมีความว่างเปล่าและสงบนิ่ง นอกจากเรื่องกรอบความคิดแล้ว ทางด้านข่าวสารถงเสี่ยวโยวก็แทบจะตัดขาดกับโลกภายนอก อยู่ในสภาวะเก็บตัว
สัปดาห์ต่อมาเป็นงานเดินแฟชั่นโชว์ประจำซีซั่นของเวย์ เสื้อผ้าสำเร็จรูปชุดคอลเล็กชั่นยูของถงเสี่ยวโยวก็เตรียมจะเปิดตัวเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน แคตวอล์กกลางลานใหญ่ทั้งหรูหราและดึงดูดสายตา เหมือนเป็นงานแสดงแฟชั่นที่ให้ประชาชนทุกคนได้ชื่นชม
หากพูดว่าที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้และเป็นที่สนใจนั้นเป็นความฝันที่ไม่น่าเป็นจริง ในตอนนี้ถงเสี่ยวโยวกลับยิ่งได้รับรู้ถึงคำที่เรียกว่าท่ามกลางสายตาคนนับล้านจริงๆ มีชื่อเสียงขึ้นมาชั่วข้ามคืน เสื้อผ้ายูคอลเล็กชั่นได้ถูกสวมไปเดินบนแคตวอล์ก ทำเอาทั้งงานคึกคักขึ้นมา
ความคึกคักนี้ทำเอากบที่อยู่แต่ในน้ำอุ่นอย่างถงเสี่ยวโยวถูกโยนเข้าไปในน้ำเดือด ผิวพองจนถลอกไปหมด เมื่อการเดินแบบชุดของยูคอลเล็กชั่นจบ นักข่าวด้านล่างเวทีก็เปลี่ยนมุมกล้องไปยังม้ามืดที่สวรรค์ส่งลงมา
“ดีไซเนอร์ถง การเดินแบบครั้งนี้เป็นการเดินแบบผลงานเสื้อผ้าของคุณเป็นครั้งแรก อยากทราบว่าตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง”
“ดีไซเนอร์ถง ได้ยินว่าตอนที่คุณอยู่ที่ชิก คุณถูก บ.ก. ลู่ซิงเฉิงกลั่นแกล้ง แล้วต่อไปคุณยังสามารถร่วมงานกับชิกได้อีกไหม”
“ดีไซเนอร์ถง คอลเล็กชั่นใหม่ของคุณจะออกมาเมื่อไหร่ จะเข้าร่วมสี่งานใหญ่แฟชั่นวีกไหม”
แสงแฟลชสว่างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไมโครโฟนยื่นเข้ามาถึงปาก ถงเสี่ยวโยวรู้สึกเหมือนถูกรถถังทับแบน การที่ได้รับความสนใจมากขนาดนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย ต้องมีชีวิตท่ามกลางสายตาของผู้คน ทุกวันต้องเหมือนกับแสดงละคร ทันใดนั้นเธอก็คิดขึ้นมาว่าหากหน้างานมีฝนตกลงมาก็คงจะดีมาก พวกนักข่าวก็คงจะสลายไปหมด
ความคิดในหัวเพิ่งเกิดขึ้น ท้องฟ้าก็เกิดเสียงฟ้าผ่าดัง
เสียงฟ้าร้องดังสนั่น ถงเสี่ยวโยวถึงกับมึนงง
นี่…นี่ไม่ใช่แค่เรื่องเปลี่ยนโชคชะตาเท่านั้นแล้ว นี่มันเป็นการฝืนลิขิตฟ้าเลย
หลังเสียงฟ้าผ่าก็มีฝนตกหนักลงมาทันที เม็ดฝนขนาดใหญ่ตกลงมาที่พื้น ไฟบนแคตวอล์กที่เปิดกลางแจ้งเซ็นทรัลสแควร์ดับหมด งานเดินแฟชั่นโชว์ต้องหยุดชั่วคราว กลุ่มดีไซเนอร์ นางแบบนายแบบ และดาราต่างพากันออกจากบริเวณนั้นไปหลบในตึกใกล้ๆ นักข่าวโดนผู้ชมผลักจนต้องกระจายตัวออกไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่อาจจะรวมตัวกันได้
ถงเสี่ยวโยวเดินเข้าไปในห้องด้วยอาการมึนงง ตอนที่ลู่เหยียนจือเดินมาข้างๆ เธอก็ยังไม่ได้สติกลับมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาเอ่ยถาม
ถงเสี่ยวโยวกลืนน้ำลายลงคอ ตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจ “ไม่มีอะไรค่ะ เมื่อครู่รู้สึกมึนนิดหน่อย”
“งั้นเดี๋ยวผมส่งคุณกลับก่อน” ลู่เหยียนจือกวักมือเรียกให้ผู้ช่วยไปขับรถมา ด้านหลังของเขามีคนเดินออกมาสองคน เป็นคนที่ถงเสี่ยวโยวคุ้นเคย คนหนึ่งก็คือแดลี่ อีกคนหนึ่งก็คือซาร่าห์ หลิน หัวหน้ากอง บ.ก. ของชิก ได้ยินว่า ซาร่าห์ หลิน มาเป็น บ.ก. คนใหม่ ลู่เหยียนจือแนะนำเธอ “ชิกอยากจะขอสัมภาษณ์คุณลงนิตยสารฉบับหน้า บ.ก. หลินตั้งใจจะมานัดเวลากับคุณโดยเฉพาะ”
“คะ?”
คนที่กดชิกลงไปคือลู่เริ่นไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงให้เธอไปสัมภาษณ์ล่ะ งั้นก็แปลว่าเป้าหมายของพวกเขาคือลู่ซิงเฉิงอย่างนั้นเหรอ ทั้งหมดนี้เพื่อบีบให้ลู่ซิงเฉิงออกไป