ซาร่าห์ หลินไม่ได้สังเกตเห็นท่าทางพิลึกของถงเสี่ยวโยว จึงเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอให้ “คุณเป็นคนที่มีความสามารถขนาดนี้ แต่อยู่กับลู่ซิงเฉิงเขากลับมองไม่เห็น ซ้ำยังกดขี่คุณต่างๆ นานา ตอนนี้ฉันเป็น บ.ก. แล้ว อยากจะร่วมงานกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่มีความสามารถเช่นคุณ แล้วทางนิตยสารกับรายการสถานีถัดไป รันเวย์ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือระยะยาว รับรองว่าต่อไปจะไม่มีทางเกิดศูนย์ห้าตัวอีกแน่นอน”
บนสรุปนี้ฟังดูดีมากเลย ปีศาจร้ายถูกจัดการ ประชากรโลกจับมือและมีความรักให้แก่กัน แต่ทำไมถึงรู้สึกว่ามันแหม่งๆ ล่ะ
ดูเหมือนลู่เหยียนจือจะเห็นความลังเลของถงเสี่ยวโยว จึงขึ้นมาช่วยเธอจากสถานการณ์น่าอึดอัด “เรื่องเวลาพวกเรากลับไปดูตารางงานก่อน ตอนนี้คุณถงไม่ค่อยสบาย ผมจะไปส่งเธอก่อน”
ซาร่าห์ หลินพยักหน้าอย่างเกรงใจ พร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยนและเป็นกันเอง “แดลี่ ไปส่งคุณถงกับคุณลู่หน่อย”
ถงเสี่ยวโยวยังจำได้ถึงตอนที่ตัวเองทำงานเบ็ดเตล็ดอยู่ในแผนกออกแบบนั้น ทุกครั้งที่ไปกองบรรณาธิการก็จะต้องเจอกับการชักสีหน้า ซาร่าห์ หลินยังเคยใช้เธอขนคอลลาเจนสิบลังไปที่ห้องทำงาน แต่เธอคงจำไม่ได้แล้ว
แดลี่ขึ้นมากางร่มให้กับถงเสี่ยวโยวและลู่เหยียนจือ ทั้งสามคนเดินออกจากตึกไป พวกนักข่าวกรูกันเข้ามา พวกเขาจึงได้แต่เร่งฝีเท้าเดินไปที่รถที่จอดอยู่ข้างถนน
ไม่รู้ว่ารถของดาราคนไหนปาดหน้าไปอย่างรวดเร็ว รีดน้ำที่อยู่บนถนนขึ้นมา ถงเสี่ยวโยวตกใจ ลู่เหยียนจือรีบเอาตัวเองบังไว้ โอบเธอเข้ามาในอ้อมกอด
รถเบรกอย่างรวดเร็ว แล้วก็ตามมาด้วยเสียงปัง มีเสียงคนกรีดร้อง มีคนร้องด้วยความตกใจ
“พระเจ้า นั่นมันลู่ซิงเฉิง”
ท่ามกลางฝนตกหนัก รถสปอร์ตสีแดงโดนน้ำฝนชะล้างจนสว่างสะดุดตา แอ่งน้ำด้านหน้ารถมีคนนอนอยู่คนหนึ่ง เขาสวมเสี้อยืดกางเกงยีนง่ายๆ นอนเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าที่หล่อเหลาในตอนนี้นอกจากดูไม่ได้แล้วยังอนาถ
ผู้คนมุงรุมเข้ามา พวกนักข่าวรีบยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเป็นพัลวัน
“ถ่ายเร็ว ถ่ายเร็วเข้า”
“ทำไมลู่ซิงเฉิงถึงได้เป็นแบบนี้”
“ได้ยินว่าเขาล้มละลายด้วย ตอนนี้จนมาก ไม่เหลืออะไรเลย”
ถงเสี่ยวโยวไม่รู้ว่าด้วยระยะเวลาสั้นๆ ทำไมลู่ซิงเฉิงถึงได้กลายเป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงปรากฏตัวที่นี่ สิ่งเดียวที่เธอรู้ก็คือสายตาของเขาที่จ้องมองมาที่เธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
ถงเสี่ยวโยวกับแดลี่ส่งลู่ซิงเฉิงไปโรงพยาบาล กระดูกหัวเข่าขวาแตกแต่ไม่หนักมาก จึงเลือกที่จะรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป หมอได้เข้าเฝือกให้เขาเพื่อให้ข้อไม่ขยับเป็นเวลาสามสิบห้าวัน กระดูกจะได้สมานกันเอง
แดลี่เข็นผู้ป่วยออกจากห้องฉุกเฉิน ลู่ซิงเฉิงมีสีหน้าดำคล้ำไปตลอดทาง โคลนแข็งติดผิวขาวสะอาดของเขา แม้แต่มือเรียวยาวของเขาคู่นั้นก็ไม่อาจหลีกพ้น ซอกเล็บดำไปหมด ถงเสี่ยวโยวซื้อกระดาษทิชชูเปียกส่งให้แดลี่ช่วยเขาเช็ดทำความสะอาด ลู่ซิงเฉิงมองด้วยสายตาดูถูก หันหน้าไปอย่างยโส “ฉันไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้”
ซ่งปั้นเซียนกล่าวไว้ว่า ‘หนึ่งชีวิต สองชะตา สามเฟิงสุ่ย สี่บุญกรรม ห้าร่ำเรียน หกอย่าดึงดัน’ สภาพลู่ซิงเฉิงในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะถือมั่นเกินไป ขณะที่เขาหันหน้าไปนั้นคนไข้เตียงข้างๆ ก็เปิดม่านพลาสติกหนาๆ เดินเข้ามา เสียงเพียะดังขึ้น ม่านกว้างขนาดเท่าฝ่ามือสะบัดโดนหน้าของลู่ซิงเฉิงอย่างจัง
ลู่ซิงเฉิงนิ่งงันไปทันที ยอมให้แดลี่เข็นเข้าไปในห้องผู้ป่วยเพื่อเช็ดหน้า