ทดลองอ่าน Crush รักอีกครั้งก็ยังเป็นเธอ บทที่ 1 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Crush รักอีกครั้งก็ยังเป็นเธอ

ทดลองอ่าน Crush รักอีกครั้งก็ยังเป็นเธอ บทที่ 1

หน้าที่แล้ว1 of 5

บทที่ 1 พบกันในลิฟต์

(1)

ห้าโมงครึ่งเป็นเวลาที่เหล่านักศึกษากรูกันออกมาจากห้องเรียนและห้องสมุดเพื่อเข้าไปยังโรงอาหารและห้องกดน้ำร้อนพอดี ซังอู๋เยียนกินมื้อเช้ามาตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว อยู่ในระหว่างทางเดินไปเรียนด้วยตนเอง หลังจากนั้นสิบนาทีเธอก็ได้ยินวิทยุกระจายเสียงของมหาวิทยาลัยเริ่มออกอากาศ

เมื่อท่วงทำนองที่คุ้นหูจบลง เสียงของสวี่เชี่ยนก็ดังขึ้น สวัสดียามบ่ายค่ะ ฉันคือสวี่เชี่ยน ถึงเวลาของเพลงยอดนิยมในทุกๆ วันพุธกันอีกแล้วนะคะ เพลงแรกเป็นเพลงใหม่ที่ถูกแนะนำเข้ามา จากนั้นก็ตามด้วยชาร์ตเพลงของอาทิตย์นี้

ห้องกระจายเสียงของมหาวิทยาลัยมักสร้างสีสันอยู่ตลอดเวลา มีรายการครบครันเสียยิ่งกว่าตอนที่ซังอู๋เยียนเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ เสียอีก แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ได้ไปที่ห้องกระจายเสียงนานมากแล้ว

เธอรอเฉิงอินอยู่ที่ใต้อาคารเรียนที่สี่ในสวนดอกไม้เล็กๆ ไม่กี่นาทีก็เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มเริงร่า

“เป็นอะไรไปน่ะ หน้างงเชียว” เฉิงอินเอ่ยถาม

“เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงของสวี่เชี่ยนเข้าแล้วน่ะสิ”

“ฉันว่าเคลิบเคลิ้มไปกับความหึงหวงของตัวเองล่ะสิไม่ว่า”

“เปล่านะ!” ซังอู๋เยียนยืนกรานปฏิเสธ

“ยังจะบอกว่าเปล่าอยู่อีก เธอนี่…” เฉิงอินกล่าวไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ ก็ถูกซังอู๋เยียนตัดบท

“ชู่…” เธอทำสัญญาณมือให้เงียบเสียง เบนหน้าตะแคงหูอย่างใจจดใจจ่อ สักครู่ใหญ่ๆ ก็ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

เฉิงอินเงียบเสียงลง ผ่านไปสักครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยถามเบาๆ “เป็นอะไรไป”

ซังอู๋เยียนกล่าว “เธอฟังเพลงนี้สิ”

วิทยุกระจายเสียงกำลังเปิดเพลงเพลงหนึ่ง เป็นเสียงแผ่วเบาอ้อยส้อยของนักร้องชายที่ร้องเพลงบรรยายความรู้สึกราวกับว่าผสมผสานเข้ากับจิตใจคนได้

 

ฉันหลงทางอยู่ในทุ่งหญ้า

ลมพัดต้นหญ้าเอนราบ

มีคนเคยร้องเพลงไว้ว่าผืนฟ้าดั่งกระโจม

 

ตอนกลางคืน ซังอู๋เยียนกับเฉิงอินพูดคุยกัน

“แล้วมันคือเพลงอะไรกันแน่ล่ะ เพราะซะขนาดนั้น”

“ดูเหมือนจะเป็นนักร้องใหม่นะ”

“อยากรู้จังเลย” ซังอู๋เยียนทอดถอนใจ

“เธอโทรไปถามสวี่เชี่ยนก็รู้แล้วนี่” เฉิงอินเสนอความคิดเห็นแรก

“ตีให้ตายฉันก็ไม่โทรไปหรอกน่า”

“ค้นเอาจากอินเตอร์เน็ตสิ จริงด้วย คืนนี้กินอะไรกันดีล่ะ”

ซังอู๋เยียนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าที่บ้านไม่มีข้าวสารแล้ว เมื่อเทียบกับการหาว่าเพลงนั้นชื่อเพลงอะไร เรื่องหลังเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า

เมื่อตอนเริ่มเรียนในปีนี้ ซังอู๋เยียนกับเฉิงอินเพื่อนยากก็ย้ายออกมาเช่าห้องข้างนอกด้วยกันและก็จุดไฟทำกับข้าวเอง ใกล้จะปิดเทอมแล้ว มหาวิทยาลัยไม่ได้เข้มงวดสักเท่าไร อีกทั้งตอนนี้เธอก็ทำงานพาร์ตไทม์อยู่ที่สถานีวิทยุ เกรงว่าบางครั้งถ้ากลับช้าจะกลับไปที่หอก็ไม่สะดวก

บ่ายวันศุกร์ซังอู๋เยียนไม่มีเรียนก็เลยไปที่สถานีวิทยุ ตอนกลางคืนเป็นเวลาออกอากาศของหัวหน้าสถานีวิทยุเนี่ยซี หลังจากซังอู๋เยียนเข้ามาในสถานีก็ทำแต่งานจุกจิกทั้งนั้น เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ช่วยของเนี่ยซีเพิ่งจะลาออกไป พอดีว่าไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม หัวหน้าแผนกเห็นว่าซังอู๋เยียนเป็นคนหัวใช้ได้ ก็เลยให้เธอเข้ามาทำแทนเป็นการชั่วคราว

เนี่ยซีค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองนี้ แล้วก็เป็นมิตรกับคนอื่นๆ ธรรมดาแล้วเป็นคนทำอะไรๆ ด้วยตัวเอง ซ้ำยังปฏิบัติกับคนอื่นเป็นอย่างดี ซังอู๋เยียนเรียกว่า ‘พี่ซี’ เหมือนๆ กับบรรดารุ่นน้องในสถานี

ซังอู๋เยียนหอบจดหมายกองโตมาจากลุงที่เฝ้าประตูอยู่ชั้นหนึ่ง ทั้งหมดเป็นจดหมายที่ผู้ฟังส่งมาให้เนี่ยซี เธอเปิดออกดูทีละฉบับแทนเนี่ยซี ที่ควรตอบกลับก็ตอบกลับไป ที่ควรจะส่งต่อก็ส่งต่อไป แต่ดูเหมือนว่าทุกๆ ครั้งซังอู๋เยียนเห็นเนื้อหาที่เธออ่านแล้วก็อดขำไม่ได้

เธออ่านจดหมายให้คนอื่นๆ ในสถานีฟัง ทุกคนต่างก็ขำออกมากันหมด

เนี่ยซีมักจะส่ายหน้าพลางกล่าวว่า “อู๋เยียน เธอนี่เป็นสาวน้อยที่ทำให้ใครต่อใครมีความสุขจริงๆ นะ”

ซังอู๋เยียนจัดการกับของกองโตเสร็จสรรพก็ไปกินมื้อเย็นที่โรงอาหาร ส่วนเนี่ยซีมาเตรียมตัวที่ห้องทำงานอยู่ก่อนแล้ว

“พี่ซี มาเร็วขนาดนี้เลยเหรอคะ”

เนี่ยซีขยิบตาให้เธอ ปรับเสียงให้เบาลงแล้วเอ่ยว่า “อยากใช้เพลงใหม่ๆ สักสองสามเพลงน่ะจ้ะ เลยลองเอามาประกอบกันเพื่อดูผลลัพธ์น่ะ”

“ค่ะ” ซังอู๋เยียนส่งสายตาให้ ‘คุณทำต่อไปเถอะ’ แล้วเตรียมตัวไปยังห้องข้างๆ

หลังจากหันหลังกลับไป ซังอู๋เยียนก็ได้ยินเนี่ยซีเปลี่ยนเพลง ทำนองของอินโทรแรกเริ่มฟังคุ้นหู ทันใดนั้นเธอก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าเป็นเพลงที่เธอได้ฟังเมื่อวันก่อนนี่เอง

เธอรีบร้อนหันกลับไป แล้วถามด้วยเสียงอันดังลั่น “พี่ซี นี่เพลงอะไรเหรอคะ”

เนี่ยซีกำลังจดจ่ออยู่กับการเขียนอะไรบางอย่าง บวกกับเสียงดนตรีดังขึ้นมาอีกครั้ง จึงไม่ได้ยินว่าซังอู๋เยียนถามอะไรไปชั่วขณะ

“พี่ซี เพลงที่เปิดอยู่ตอนนี้ชื่อเพลงอะไรเหรอคะ” ซังอู๋เยียนถามอีกครั้ง

“เธอหมายถึงเพลงที่เปิดตอนนี้น่ะเหรอ” พี่ซีถาม “ชื่อเพลงเปลือกหอยลิเบียจ้ะ”

“เพราะจังเลยค่ะ” ซังอู๋เยียนกล่าวพลางทอดถอนใจ

“เยี่ยมไปเลยนะ ถึงจะเป็นนักร้องใหม่ แต่พี่ว่าคงจะขายดิบขายดีเชียวล่ะ”

“ดีจริงๆ นั่นแหละค่ะ แค่ฟังก็เคลิ้มแล้ว”

พอเนี่ยซีเห็นท่าทีของเธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “อู๋เยียน ที่นี่มีซีดีสำรองอยู่อีกแผ่น ถ้าเธออยากได้ พี่จะให้เธอยืม”

ซังอู๋เยียนได้ฟังก็พยักหน้าหงึกๆ

พอเลิกงานแล้วกลับไปถึงบ้านซังอู๋เยียนก็คว้าเอาซีดีออกมาจากกระเป๋าถือแล้วใส่ลงในเครื่องเล่นซีดี เพลงเพลงนั้นเป็นชื่อเดียวกับชื่อคอนเซ็ปต์อัลบั้มทั้งหมด และยังถูกจัดไว้เป็นเพลงแรก

เธอฟังไปหลายรอบในรวดเดียว ถึงคิดขึ้นได้ว่าจะหาเนื้อเพลงที่แนบมากับซีดี

ด้านหน้าแผ่นพับใบเล็กๆ เป็นภาพนักร้องใหม่หน้าตาหล่อเหลาคนนั้น เขาเป็นหนุ่มน้อยที่โดดเด่น เป็นดาวรุ่งที่ได้รับความนิยมที่สุดในเวลานี้ ภาพด้านข้างอันหล่อเหลาของเขาสะท้อนออกมาภายใต้แสงขมุกขมัว

ซังอู๋เยียนเปิดหน้าแรกออกดูก็เห็นเป็นภาพวาดทิวทัศน์ ไม่ใช่ภาพเหมือนของชายหนุ่มคนนั้น ภาพวาดนั้นช่างงดงามเหลือเกิน เป็นภาพทะเลทรายที่มีแสงสีทองของอาทิตย์ยามอัสดงส่องลงบนเส้นขอบฟ้า และกักเก็บแสงเจิดจรัสกระจ่างตาของดวงดาวหลายดวงที่กะพริบอยู่ใกล้ๆ กับดวงอาทิตย์จนหมดสิ้น ห่างออกไปไม่ไกลมีเปลือกหอยอันหนึ่งที่ราวกับถูกย้อมด้วยแสงสุกสกาวภายใต้แสงอาทิตย์ยามตกดิน

ฝั่งภาพประกอบเป็นเนื้อเพลงของเพลง ‘เปลือกหอยลิเบีย’

 

ฉันหลงทางอยู่ในทุ่งหญ้า

ลมพัดต้นหญ้าเอนราบ

มีคนเคยร้องเพลงไว้ว่าผืนฟ้าดั่งกระโจม

ท้องฟ้าจ๋าท้องฟ้า

ดาวไถโปรดชี้ทางให้ฉันที

ฉันหลงทางอยู่ในทะเลทราย

ทรายสีเหลืองสุดลูกหูลูกตา

คนโบราณเคยเรียกมันว่าเกลียวคลื่นทะเลทราย

เกลียวคลื่นหนอเกลียวคลื่น

เธอจะแผดเผาฉันจนเหี่ยวแห้งเลยหรือไม่

 

ส่วนตัวฉันก็หลงทางอยู่ในใจของเธอ

ที่รักของฉัน

เธอยินดีที่จะเป่าเปลือกหอยลิเบียให้ดังขึ้นเพื่อฉันหรือไม่

เป็นแตรสัญญาณให้กับฉัน

 

ฉันหลงทางอยู่ในเมือง

ตึกรามสลับซับซ้อน

ที่รักได้โปรดบอกฉันว่าบ้านของเธออยู่ที่ใด

บ้านของฉันหนอบ้านของฉัน

แบ่งแยกทะเลแดงอ้อมลิเบียไป

 

สูดดมบารากู่ขวดหนึ่ง

ผูกผ้าโพกศีรษะที่ด้านหนึ่ง

ดวงตาสีดำขลับ

กล่าวถึงความรู้สึกอันอบอุ่น

เปลือกหอยลิเบียของฉัน

ดวงดาวพุ่งตกโปรยปราย

 

เนื้อเพลงเข้าใจไม่ยากเลยสักนิด ค่อนข้างจะมีกลิ่นอายแบบโบราณ แตกต่างจากสไตล์เพลงที่เป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์ของดนตรีอาหรับ ท่วงทำนองเพลงแบบนี้กับเนื้อร้องแบบนี้เมื่อผสมผสานเข้าด้วยกัน ก็ราวกับว่ามีเจ้าชายอาหรับกำลังเล่นเปียโนร้องเพลงเพื่อหญิงที่รักสุดหัวใจอยู่ในทะเลทรายจริงๆ

ซังอู๋เยียนเห็นชื่อคนทำเพลงด้านหลังโดยไม่ได้ตั้งใจ ตัวหนังสือสี่ตัวที่สั้นและเรียบง่ายเรียงกันอยู่ด้านหน้าสุด

 

คำร้อง : อีจิน

หน้าที่แล้ว1 of 5

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Crush รักอีกครั้งก็ยังเป็นเธอ

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com