นักเรียนที่เรียนไปถึงระดับสูงทุกคนจะมีโอกาสยื่นขอฝึกงาน และหนึ่งในการฝึกงานนั้นรวมการอยู่ช่วยสอนที่สถาบันเอาไว้ด้วย ดังนั้นถ้าอยากจะอยู่เคียงข้างกับเทพบุตร…การเป็นผู้ช่วยสอนที่สถาบันก็เป็นโอกาสสุดท้าย และเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของฉันด้วย
เดือนมีนาคมฉันจึงตรงไปยังฝ่ายกิจการนักเรียนเพื่อยื่นคำขอ เดือนเมษายนทำแบบทดสอบ หลังจากนั้นก็รอการแจ้งผลกลับมา
ช่วงเวลาแห่งการรอคอยช่างแสนยาวนาน เพราะว่าโจแอนนาที่รับผิดชอบการช่วยสอนในฝ่ายกิจการนักเรียนกับเชฟปากกว้างที่เป็นคนจัดระเบียบการฝึกงานของนักเรียนต่างผลัดกันไปพักร้อน
ชาวฝรั่งเศสไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำ ขอเพียงไม่มีธุระก็มักจะออกไปขุดเส้นลวดกัน พวกเขาเรียกมันว่าการดื่มด่ำกับชีวิต
แต่นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่ฉันคุ้นชินแล้ว การเร่งให้คนฝรั่งเศสทำอะไรสักอย่างมีแต่จะเพิ่มความอึดอัดใจให้ตัวเอง ดังนั้นในเวลานี้นอกจากรอคอย…ฉันก็ทำได้เพียงแค่รอคอยเท่านั้น
รอจนกระทั่งพวกเขากลับมาก็ปลายเดือนพฤษภาคมแล้ว ฉันยังไม่มั่นใจนักว่าควรจะกลับบ้านหรืออยู่ที่นี่ต่อดี และถ้าหากยังไม่ซื้อตั๋วเครื่องบินตอนนี้ราคาก็จะขึ้นอีกเป็นเท่าตัว!
แต่ใครจะสนใจล่ะว่าตั๋วเครื่องบินของฉันจะราคาขึ้นเป็นเท่าตัวหรือเปล่า แถมใกล้จะเข้าสู่สัปดาห์แห่งการสอบแล้ว ดังนั้นมาตั้งใจเตรียมตัวสอบกันเถอะ
เอาล่ะ…ไว้สอบเสร็จแล้วค่อยถามใหม่อีกที
จนกระทั่งวันหนึ่งของช่วงต้นเดือนมิถุนายน หลังฉันสอบดึงน้ำตาลซึ่งเป็นการสอบอย่างสุดท้ายเสร็จสิ้นก็นั่งบื้ออยู่บนเก้าอี้หวายในสวนดอกไม้ที่ชั้นล่าง พอเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็เห็นข้อความถามถึงวันกลับบ้านเป็นกุรุสจากพี่เจี๋ย รวมถึงแจ้งเตือนอีเมลใหม่หนึ่งฉบับ
พอจิ้มนิ้วลงบนไอคอนรูปไปรษณีย์สีฟ้าก็พบว่าโจแอนนาเป็นคนส่งอีเมลมา และในนั้นมีเพียงประโยคที่เขียนไว้ว่า
‘Pourriez-vous venir signer le contrat d’assistant, s’il vous plaît?’
(คุณสามารถเซ็นสัญญาผู้ช่วยได้หรือไม่)
สวรรค์ยังใส่ใจฉันอยู่ เขาบอกให้ฉันอยู่ต่อล่ะ!
จากนั้นฉันก็อยู่ที่นี่ต่อไป เย่!
ไม่ว่าจะเวลาไหน มิสเตอร์เอ็มโอเอฟของฉันก็ไม่เคยขาดแคลนแฟนคลับ โดยเฉพาะแฟนคลับสาวๆ
ฉะนั้นแล้ว ต่อให้ฉันจะเป็นผู้ช่วยสอนได้สำเร็จ และตั้งแต่นี้ไปก็จะใกล้ชิดทำความสนิทสนมกับเขา แต่เพื่อที่จะดึงดูดสายตาของมิสเตอร์เอ็มโอเอฟและเพื่อที่จะได้รับความโปรดปรานจากเขา ฉันเองก็ต้องลำบากลำบนไม่น้อยทีเดียว
ฉันยอมรับว่าตัวเองไม่ร่าเริงและทันสมัยมากพอ อีกทั้งยังไม่ได้สวยพริ้งสะดุดตาขนาดนั้นด้วย เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจพึ่งพารูปลักษณ์ ฉันก็ทำได้แค่ใช้ปฏิภาณไหวพริบเข้าสู้ เพราะถึงอย่างไรตัวฉันที่มีทักษะเพียงน้อยนิดก็ไม่อยู่ในสายตาของมิสเตอร์เอ็มโอเอฟอยู่แล้ว สุดท้ายจึงทำได้เพียงเช็ดหยาดเหงื่อที่มาจากความขยันหมั่นเพียรเท่านั้น
สองเดือนกว่าๆ ไม่อยากเป็นเพียงผู้ช่วยสอนที่เขาจำชื่อไม่ได้
สองเดือนกว่าๆ อยากให้เขาจดจำฉันได้
สองเดือนกว่าๆ ถ้าเขาเองก็ชอบฉันเหมือนกัน มันจะดีสักแค่ไหนกันนะ…
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 15 มี.ค. 65 เวลา 12.00 น.