“งั้นก็ดีค่ะ หยุดรถตอนนี้เลย ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ ขอบคุณคุณลี่ที่ให้ติดรถมานะคะ” ทันใดนั้นเธอก็คว้ากระเป๋าถือแล้วกล่าวขึ้นว่า “ผู้จัดการจี้คะ รบกวนคุณเข้าข้างทางแล้วหยุดรถทีค่ะ” ทันใดนั้นเธอก็เตรียมเปิดประตูรถ ทั้งร่างกายอยู่ในท่าที่จะฝืนลงจากรถ
ลี่เจ๋อเหลียงปฏิกิริยาตอบสนองว่องไว หมับเดียวก็ดึงมือของเธอกลับมาแล้วกุมไว้อย่างแน่นหนา
“คุณบ้าไปแล้ว?! ตรงนี้เป็นทางด่วนนะ” เขาเม้มริมฝีปากแน่น รู้สึกฉุนเฉียวอยู่บ้าง
“คุณจะให้ฉัน…” คำพูดของเสิ่นเสี่ยอี้ถูกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกะทันหันตัดบท
รถขนสินค้าด้านหน้าเปลี่ยนเลนกะทันหัน จี้อิงซงร้องในใจว่าแย่แล้ว เขารีบร้อนเหยียบเบรก รถหักพวงมาลัยกะทันหัน หน้ารถด้านหนึ่งครูดไปกับท้ายรถบรรทุกสินค้า ไถลด้วยความเร็วมุ่งเข้าหารั้วกั้นข้างทาง จี้อิงซงหมุนพวงมาลัยรถด้วยความเร็วสูง ตอนที่หน้ารถเฉียดเข้ากับรั้วกั้น ตัวรถก็หยุดลงเสียก่อน
ขณะเดียวกันนั้นเองรถที่มาจากด้านหลังหักหลบไม่ทัน ทันใดนั้นก็ชนเข้ามาจากฝั่งของเสิ่นเสี่ยอี้
ลี่เจ๋อเหลียงตัดสินใจกดตัวเสิ่นเสี่ยอี้เอาไว้ในอ้อมแขน ปกป้องเอาไว้อย่างมั่นคง
เกิดเป็นเสียงโครมดังสนั่น รถที่อยู่ด้านหลังชนเข้ามาจากด้านข้าง เบนต์ลี่ย์สั่นสะเทือน ท่ามกลางแรงชนรถไถลไปด้านหน้าระยะหนึ่งถึงได้หยุดลง
จี้อิงซงรีบร้อนถีบประตูรถ ลงจากรถแล้วตะโกนว่า “คุณลี่!”
ด้านข้างของตัวรถบุบเข้าไปบ้าง เขาลองออกแรงดึงประตูรถ ทว่าประตูติดเสียได้ เขาจึงอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อเปิดประตู ลี่เจ๋อเหลียงที่อยู่ในรถรีบร้อนดันศีรษะของเสิ่นเสี่ยอี้ขึ้นมา ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับแรงกระแทกจนสลบไปแล้ว ทั้งตัวราวกับถอดกระดูกนอนอยู่ในอ้อมกอดของลี่เจ๋อเหลียง
“เสี่ยอี้…เสี่ยอี้…” เขาเรียกเธอซ้ำๆ อยู่หลายรอบ
จี้อิงซงเปิดประตูออก ห่าฝนสาดเข้ามาข้างใน ทันใดนั้นก็ตกลงมาใส่ตัวคนทั้งสองจนเปียกชื้น หยาดฝนหยดกระทบหน้าผากของเธอ ก่อนไหลตามไรผมลงไป ปิดบังม่านตาของเสิ่นเสี่ยอี้
ลี่เจ๋อเหลียงอดไม่ได้ที่จะใช้มือเช็ดน้ำฝนบนใบหน้าเธอ แต่ไม่คิดว่าเพียงเช็ดลงไปก็กลับพาเลือดไหลออกมามากมาย เลือดและน้ำฝนพลันรวมเข้าด้วยกัน ไหลลงไปยังคางในทันที
“เสี่ยอี้…” เขาเช็ดให้เธออีกครั้งอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่ยิ่งเช็ดเลือดกลับยิ่งเพิ่มขึ้นทุกที ชั่วขณะนั้นเองใบหน้าและลำคอของเสิ่นเสี่ยอี้ก็เต็มไปด้วยเลือด มองดูน่าสยดสยอง
“คุณลี่!” จี้อิงซงกล่าวอย่างรีบร้อน “อย่าขยับครับ คุณมีเลือดออก!” กล่าวไปก็คิดหาอะไรมาพันห้ามเลือดให้ก่อน
ลี่เจ๋อเหลียงได้ยินก็พลันตกตะลึง ก้มหน้าลงมองคนในอ้อมแขนอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เสิ่นเสี่ยอี้ในเวลานี้แม้ว่าจะสลบไปกะทันหัน ทว่าใบหน้าก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ มองแวบหนึ่งก็ราวกับเพียงหลับไปเท่านั้น อีกทั้งไม่เห็นแผลบนศีรษะของเธอสักนิด ริมฝีปากของเธอเผยอออกเล็กน้อย ฟันยื่นออกมาข้างหน้าสองซี่ ปีกจมูกขยุกขยิก ถือว่าลมหายใจมั่นคง
หลังตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าบนร่างกายของเธอไม่ได้มีบาดแผลหรือเลือดออกตรงไหน ใจที่ห่วงกังวลของเขาถึงได้ตกลงสู่พื้น เขาพลันรู้สึกเจ็บมือขึ้นมาเบาๆ จึงยื่นมือออกมามอง มือของเขามีเลือดออกไม่หยุดจริงๆ ด้วย
ลี่เจ๋อเหลียงหัวเราะเยาะตนเองในใจ เขาสงบลงได้ในที่สุด จากนั้นจึงขยับตัวเธอไปไว้ที่เบาะคนขับ หาของแห้งๆ มาบังตัวเธอไว้แล้วปิดประตูรถ
จี้อิงซงโทรศัพท์ออกไปหลายสาย หลังจากนั้นก็ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนด้วยกันกับลี่เจ๋อเหลียง รอให้คนมาจัดการ
เจ้าของและผู้โดยสารรถคันหลังเองก็กางร่มเดินลงมา จี้อิงซงเป็นคนรับมือพาออกไป ลี่เจ๋อเหลียงพินิจดูที่เกิดเหตุ เคราะห์ยังดีที่ปัญหาไม่ได้หนักหนาเท่าไรนัก เขามองเสิ่นเสี่ยอี้ที่อยู่ข้างในผ่านกระจกด้วยแววตาลึกซึ้ง