“อ้าว! ประธานลี่ ดูสิคะ พวกเราปล่อยให้คุณเสิ่นเหงาอยู่ตรงนี้น่ะ” คุณจ้าวคนสวยลุกขึ้นตามพนักงานเสิร์ฟให้มารินเหล้าในแก้วทั้งสองใบ “คุณเสิ่นคะ ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนของตงเจิ้น งั้นก็เป็นเพื่อนของฉันจ้าวหลิงเฟยด้วย นานๆ ถึงจะมีโอกาส ฉันก็จะถือโอกาสนี้ยืมของคนอื่นมอบเป็นของขวัญ ยืมมื้ออาหารของประธานลี่ดื่มให้คุณแก้วหนึ่งนะคะ”
น้อยนักที่จะมีลูกน้องคนไหนเรียกขานเจ้านายแบบนี้ เสิ่นเสี่ยอี้ได้ยินก็รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ
กล่าวไปมือข้างหนึ่งของจ้าวหลิงเฟยก็ยกแก้วแก้วหนึ่งส่งมาให้ตรงหน้าเสิ่นเสี่ยอี้ “คุณเสิ่นคะ ฉันดื่มให้คุณค่ะ”
ประโยคนี้กล่าวยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงจันตงเจิ้นเอ่ยห้าม “หลิงเฟย เสี่ยอี้ดื่มเหล้าไม่เป็น อย่าไปทำให้เธอลำบากใจเลยนะ”
จ้าวหลิงเฟยไม่ทันกล่าวอะไรต่อก็ได้ยินคำพูดของเจ้านาย ทว่าเหล้าแก้วนี้ไม่ทันไรก็ต้องเก็บกลับมาแล้ว เธอกลอกดวงตาใสแป๋วได้รอบหนึ่งก็โยงบทสนทนากลับมาหาลี่เจ๋อเหลียง “ประธานลี่ คุณดูสิคะ
คุณเสิ่นของพวกคุณดื่มเหล้าไม่เป็นน่ะค่ะ โบราณว่าบุรุษต้องพะเน้าพะนอปกป้องหญิงสาว คุณจะดื่มแทนเธอใช่ไหมคะ”
เมื่อสักครู่นี้เธอดื่มให้ลี่เจ๋อเหลียง ขอเพียงแค่ดึงเหตุผลออกมาได้ ลี่เจ๋อเหลียงก็ต้องรับไว้อย่างไม่มีข้อแม้ ทว่าคราวนี้เขากลับหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “ผมว่าคนที่ปกป้องหญิงสาวเป็นประธานจันมากกว่า ผมแย่งมาแบบนี้จะไม่เป็นการดีเสียเปล่าๆ”
ลี่เจ๋อเหลียงไม่เพียงปฏิเสธจ้าวหลิงเฟยอย่างนุ่มนวล ซ้ำยังเตะบอลส่งต่อให้จันตงเจิ้นอีกด้วย
เคราะห์ดีที่ผู้ชายคนนี้เวลาพูดจาล้วนชัดถ้อยชัดคำ ไม่อย่างนั้นหากปล่อยให้คนอื่นๆ ฟังเป็นว่า ‘แย่งคนรัก’ ขึ้นมา เธออยู่ที่บริษัทจะทำงานอย่างไร เสิ่นเสี่ยอี้ยิ้มเย็นในใจ ได้สิ คุณลี่เจ๋อเหลียง ในเมื่อคุณกล้าเอาฉันมาล้อเล่นต่อหน้าคนเยอะแยะขนาดนี้
คิดไม่ถึงว่าจันตงเจิ้นเองก็เป็นคนตรงไปตรงมา เสิ่นเสี่ยอี้เห็นว่าแววตาของเขาเตรียมพร้อมจะดื่มแล้ว เธอรู้ว่าคำพูดเหล่านี้และเหล้าแก้วนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับจันตงเจิ้น แต่ถ้าหากเขาดื่มเหล้าแก้วนี้แทนเธอ ต่อไปลี่เจ๋อเหลียงอาจหัวเราะเยาะเธอไม่จบไม่สิ้นก็ได้
ฉะนั้นแล้วเธอจึงลุกขึ้นยืน นำแก้วที่มีน้ำส้มก่อนหน้านี้ยกขึ้นด้วยสองมือ “ไม่กล้าให้คุณลี่ดื่มแทนหรอกค่ะ ผู้จัดการจ้าวคะ ฉันดื่มเหล้าไม่ได้จริงๆ ทำได้แค่ใช้เครื่องดื่มอื่นมาแทนเหล้า ถือว่าเป็นการแสดงความจริงใจของฉันแล้วกันนะคะ” กล่าวจบเธอก็ดื่มน้ำส้มแก้วใหญ่อึกๆๆ ลงไป
“ประธานจันกับทนายเสิ่นของพวกเราไม่ได้เป็นคนบ้านเดียวกันแบบทั่วๆ ไปใช่ไหมล่ะ” ลี่เจ๋อเหลียงพิงเบาะพนักเก้าอี้พลางใช้นิ้วมือเย็นยะเยือกคีบบุหรี่ขึ้นสูบ จากนั้นก็ถามประหนึ่งว่าไม่ได้ใส่ใจ
“พวกเราสองคนโตมาด้วยกันน่ะ” จันตงเจิ้นกล่าว
“อ๋อ งั้นก็นับว่าเป็นเพื่อนรู้ใจในวัยเด็กล่ะนะ” ลี่เจ๋อเหลียงกล่าวอย่างมีนัยลึกซึ้ง
อาหารมื้อนี้ของพวกเขากินกันดึกดื่นกว่าจะจบลง
ลี่เจ๋อเหลียงจัดแจงคนให้ส่งจันตงเจิ้นและผู้ติดตามไปยังโรงแรม ครั้นมองส่งจนลับตาแล้วเขาก็จงใจทำทีว่าเห็นใจลูกน้อง แสร้งทำเป็นห่วงเป็นใยเสิ่นเสี่ยอี้เสียหน่อย กล่าวอย่างเป็นกันเองว่า “คุณเสิ่นตัวคนเดียวจะกลับยังไงครับ”
“ฉันจะเรียกแท็กซี่ค่ะ” เสิ่นเสี่ยอี้กล่าวอย่างรู้เท่าทัน
เขาพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าพึงพอใจกับคำตอบพอสมควร
ขณะเสิ่นเสี่ยอี้อยู่บนรถแท็กซี่ระหว่างทางกลับบ้านก็ได้รับสายโทรศัพท์จากจันตงเจิ้น
“ออกมาดื่มกาแฟกันไหมล่ะ”
“ไม่เอา”
“งั้นดื่มชากัน” จันตงเจิ้นเปลี่ยนข้อเสนอในทันที
“หนึ่งวันกินๆ ดื่มๆ จนค่ำมืด เมื่อกี้นี้ทำไมนายไม่พูดล่ะ ฉันกลับบ้านแล้วเนี่ย” เสิ่นเสี่ยอี้กล่าว
“ฉันอยากชวนเธอไปดื่มน้ำชาอย่างบริสุทธิ์ใจนี่นา” จันตงเจิ้นกล่าว
“นายนี่มันน่ารำคาญจริงเชียว” เสิ่นเสี่ยอี้พูดอย่างไม่สบอารมณ์
“เสี่ยอี้…” จันตงเจิ้นไม่ท้อถอยเลยสักนิด “ฉันไม่ได้เจอเธอมานานมากๆๆๆ แล้วนะ”
“เพ้อเจ้อ เพิ่งจะเจอกันเมื่อยี่สิบนาทีก่อนชัดๆ”
“…” จันตงเจิ้นไม่พูดอะไรอีก
“ฮัลโหล”
อีกฝั่งของโทรศัพท์ยังคงนิ่งเงียบ
“นายอย่าใจแคบนักจะได้ไหม” เสิ่นเสี่ยอี้เอ่ยออกมา
“…”
“ตงตง!” เธออดไม่ได้ที่จะเรียกชื่อเล่นของเขา
“…” เขายืนหยัดจนถึงที่สุด
“เอาล่ะๆ พวกเราไปดื่มชากัน”
เสิ่นเสี่ยอี้ยอมแพ้เขาจนได้
ผู้ชายคนนี้ชอบใช้จุดอ่อนของเธอ ใครให้เมื่อก่อนเธอเล่นบทฮ่องเต้เป็นประจำแล้วให้เขาเล่นเป็นฮองเฮาล่ะ นิสัยเสียเหล่านี้ล้วนติดมาจากเธอทั้งนั้น
พวกเขานัดพบกันที่บาร์กาแฟบนดาดฟ้าของโรงแรมที่จันตงเจิ้นเข้าพัก เสิ่นเสี่ยอี้มาถึงหน้าประตูก็เห็นเขานั่งรอเธออยู่บริเวณริมหน้าต่างติดกับด้านใน
จันตงเจิ้นไม่ได้ทำนิสัยเด็กๆ อย่างตอนที่คุยกับเธอทางโทรศัพท์แล้ว เขามองไปยังดวงไฟแวววาว สีหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรอยู่ ใบหน้าของเขางดงาม ผิวพรรณขาวผ่อง ดึงดูดให้คนที่อยู่ใกล้ๆ เหลียวมองซ้ำๆ มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้าไปชวนคุย “คุณคะ ตรงนี้มีคนนั่งหรือเปล่าคะ”
เขาโค้งดวงตายิ้มให้อย่างอ่อนโยน “ขอโทษครับ ผมรอคู่ควงของผมอยู่” กล่าวจบก็ชี้ไปยังเสิ่นเสี่ยอี้ที่เดินมาจากที่ไกลๆ