Little Man ชั่วโมงบินน้อยแต่มีรักเต็มร้อยให้คุณ
ทดลองอ่าน Little Man ชั่วโมงบินน้อยแต่มีรักเต็มร้อยให้คุณ เล่ม 3 บทที่ 63
รอบบริเวณเป็นภูเขาทั้งนั้น จะหนีก็ไม่มีที่ให้หนีไปไหนได้เลย
“ลงจากรถซะ” คนขับรถพูด
สายตาชูหนิงคมกริบเหมือนคมมีด จ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่เหี้ยมโหด
คนขับรถหนวดเฟิ้มไม่พอใจเป็นอย่างมาก พูดซ้ำอีกครั้งว่า “ลงจากรถเซ่!!”
ชูหนิงรู้สึกกลัวจริงๆ จะชิงทรัพย์หรือจะฆ่าแกง หรือว่ามีเจตนาชั่วร้ายอย่างอื่นนะ? เธอมองดูโทรศัพท์มือถือ…ไร้ซึ่งสัญญาณ สุดท้ายพลันตัดสินใจว่าจะเอาสายโซ่ที่อยู่บนกระเป๋าใช้เป็นอาวุธไปก่อน ถ้าเขากล้ามาแตะเธอก็จะอาศัยจังหวะรั้งคอเอาไว้ทำให้เขาคอหักตายก่อนเลยคอยดู!
คนขับรถหนวดเฟิ้มหมดความอดทน แล้วก็ระเบิดอารมณ์แผดเสียงคำราม “ยางรถระเบิดแล้ว!! ลงมาเข็นรถสิ!!”
ชูหนิงเป็นงง “เอ๋?”
คนขับรถหนวดเฟิ้มกลอกตาใส่อย่างเอือมระอาสุดๆ คล้ายกับกำลังพูดว่า ‘เธอเป็นอิหยังหว่า’
มีหินปลายแหลมเสียบอยู่ที่ล้อหลังด้านซ้าย คนขับรถขับผ่านเส้นทางนี้มาตลอดทั้งปี เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ในการขับขี่ ตอนที่ขับอยู่รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ และแน่นอนว่ายางรถรั่วอย่างที่คาดไว้จริงๆ
คนขับรถหนวดเฟิ้มตรวจสอบดูรอบหนึ่ง ก่อนจะบอกกับชูหนิงด้วยสำเนียงภาษาจีนกลางที่แปร่งๆ ว่า “ติดอยู่ในหลุม เปลี่ยนยางสำรองไม่ได้ ต้องเข็นมันไปที่พื้นราบก่อน”
เขาชี้นิ้วไปตรงที่ที่ห่างออกไปอีกห้าสิบเมตร
แล้วจะทำไงได้…เข็นไงล่ะ!
วันนี้เธอคิดว่าจะได้เจออิ๋งจิ่ง ก็เลยค่อนข้างแต่งตัวมาอย่างพิถีพิถัน อากาศไม่ได้ร้อนจึงใส่กระโปรงยาว รองเท้าก็เป็นแบบส้นสูงนิดหน่อย
ที่นี่สภาพพื้นที่เป็นแบบตะปุ่มตะป่ำ เต็มไปด้วยหลุมบ่อ ฮ่า สุดๆ ไปเลย!
ว่าแล้วก็ลองเข็นท้ายรถกับตาคนขับรถหนวดเฟิ้มดูก่อน อา ตายๆ ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด
ไม่รู้ว่าไม่ได้ล้างรถคันนี้มากี่ร้อยปีแล้ว เสื้อผ้าเธอถูไถจนเปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยฝุ่น
ชูหนิงไม่มีทางเลือก จำต้องถอดรองเท้าส้นสูง พับแขนเสื้อขึ้น ทั้งไม่ชอบที่กระโปรงยาวเกะกะก็เลยผูกมัดเป็นปมไว้ระดับน่องทันที
เธอเหยียบย่างลงไปในดินโคลน เท้าจมลงไปลึกมาก ในใจชูหนิงคือสติหลุดไปแล้ว คนขับรถหนวดเฟิ้มพูดปลุกขวัญเสียงดังสนั่น
“หนึ่ง สอง สาม สุดแรงเลย!!”
ชูหนิงออกแรงเต็มที่แล้ว แต่รถก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน
ทำซ้ำอยู่สี่ห้าครั้ง ขณะที่เธอหมดแรงแล้วจริงๆ และตัดสินใจที่จะแอบอู้นั้น…
รถก็ขยับแล้ว!
ตาคนขับรถหนวดเฟิ้มเป็นคนถึก ส่งเสียงฮึ่ยๆ พยายามเข็นต่อไปให้เสร็จในรวดเดียว
ชูหนิงไม่ทันจะรู้ตัวก็ล้มไปข้างหน้าพร้อมกับรถที่เคลื่อนไป หล่นลงไปกองกับพื้นทั้งตัว
ดินโคลนที่เปรอะเปื้อนเหมือนกับก้อนอึทำให้สภาพเธอกลายเป็นช็อกโกแลต
ตายแล้ว!!
ในละแวกใกล้เคียงหมู่บ้านทิเบต
ณ ที่ราบสูงแห่งหนึ่งมีการคุ้มกันที่แน่นหนา ทางซ้ายเป็นพื้นที่ทดลอง ทางขวาเป็นห้องปฏิบัติการ กำแพงขาวเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสสร้างด้วยก้อนอิฐ บนหลังคามีเสาธงตั้งตรงหนึ่งเสา
ธงชาติจีนโบกพลิ้วปลิวไสว
สองทุ่มสิบนาที เสียงเชียร์และเสียงปรบมือดังแว่วมาจากห้องทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของชั้นสาม เป็นงานฉลองความพึงพอใจที่มีต่อผลลัพธ์ของความขยันบากบั่นศึกษาค้นคว้าอย่างหนักในหลายวันนี้ จนสามารถพิชิตจุดเชื่อมต่อบางจุดของการศึกษาวิจัยอิสระด้วยตนเองได้สำเร็จ ทุกคนดีใจกันหมด
อิ๋งจิ่งวิ่งตะบึงออกมาจากห้องปฏิบัติการ เป็นคนแรกที่ขึ้นไปฝ่ายธุรการเพื่อเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองกลับมา
ผู้รับผิดชอบของฝ่ายธุรการแซ่เหริน อายุสามสิบกว่าปี เป็นคนที่ทำงานคล่องแคล่วขยันขันแข็งในฐานวิจัย เห็นใครก็ยิ้มตาหยีให้ทุกคน
“โอ้ เสี่ยวจิ่ง คนแรกเลยนะ นี่ มือถืออยู่ตรงนี้”
อิ๋งจิ่งเหมือนกับได้ถือทองคำ “ขอบคุณครับๆ!”
พี่เหรินพูดหยอก “ติดต่อแฟนเหรอ”
อิ๋งจิ่งพยักหน้าราวกับเป็นไก่จิกข้าวสาร และเปิดโทรศัพท์มือถืออย่างว่องไว
ระหว่างที่รอก็ได้ยินพี่เหรินหัวเราะพูดจาปลงๆ “เฮ้อ มาที่ฐานวิจัยก็แบบนี้แหละนะ ในองค์กรมีกฎเกณฑ์ ระเบียบวินัยเคร่งครัดชัดเจน แล้วสิ่งที่พวกเธอทำก็ยังเป็นเรื่องที่พิเศษมากด้วย พัฒนาก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ละระดับล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นกฎระเบียบเหล่านี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เลย เป็นคนผู้น้อยก็รับภาระมากหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ ที่ผมได้มาศึกษาก็เป็นเกียรติมากแล้วครับ” อิ๋งจิ่งเอ่ยคำพูดอย่างสุภาพ และทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ โทรศัพท์มือถือเปิดเครื่องช้า เขาจิ้มที่หน้าจอตลอดเวลา
“ทางกรมสนใจการแข่งขันของพวกนายมากเลย นายเจ๋งมากนะ เจ้าหนูเสี่ยวจิ่ง อนาคตสดใสรุ่งโรจน์แน่นอน”
“คุณชมกันเกินไปแล้วล่ะครับ พวกคุณต่างหากที่เป็นบุคคลเสาหลัก”
โทรศัพท์มือถือเปิดเครื่องแล้ว เครื่องสั่นจนมือชาอยู่ชั่วขณะ ข้อความแจ้งเตือนเข้ามาสารพัด ทั้งข้อความที่ไม่ได้อ่าน โทรศัพท์ที่ไม่ได้รับสาย ของชูหนิงสี่สาย ฉีอวี้สามสาย อิ๋งจิ่งรีบโทรกลับไปที่เบอร์ของชูหนิง
“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
เขาโทรหาฉีอวี้อีกครั้งอย่างไม่มีลังเล
ฉีอวี้แทบจะรับสายในไม่กี่วินาที “เสี่ยวจิ่ง! นายเจอกับพี่หนิงหรือยัง!”
อิ๋งจิ่งงุนงง “นายพูดอะไรน่ะ”
“เวร!” น้อยนักที่จะเห็นฉีอวี้แสดงอารมณ์รุนแรงขนาดนี้ ร้อนรนยิ่งกว่ามดบนกระทะร้อน* “เดิมทีฉันนัดกับพี่หนิงไว้ก่อนหน้าที่จะมาแล้วนะ ตอนหลังเลื่อนกำหนดการเดินทางของฉันมาล่วงหน้าก่อน เพื่อให้ฉันมาฟังการอบรมที่เฉิงตู บ้าเอ๊ย ฉันไม่ได้รับสายพี่หนิง พอโทรไปอีกก็โทรไม่ติด!”
อิ๋งจิ่งพลันหนักใจทันที ความกลัวแผ่ซ่าน “นายรู้ไหมว่าเที่ยวบินของเธอรอบกี่โมง”
“ฉันค้นหารอบเที่ยวบินแล้ว ไม่มีตอนค่ำนะ น่าจะถึงตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว”
ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง
อิ๋งจิ่งเงียบไปเล็กน้อย ไม่เอ่ยคำพูดจา
หลังจากผ่านไปสามวินาที เขาพลันหันหลังกลับ วิ่งออกไปข้างนอกทันที
เด็กหนุ่มออกแรงวิ่งเต็มเหนี่ยวแบบไม่คิดชีวิต ทำเอาพี่เหรินที่อยู่ข้างหลังตกใจ เห็นสภาพเขาผิดปกติก็คิดในใจ แย่ละ คงจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่
“เสี่ยวจิ่ง! เสี่ยวจิ่ง!” พี่เหรินตามเขาไป “ถ้ามีปัญหาบอกกับฉันสิ”
เสียงที่สุขุมนี้เรียกสติอิ๋งจิ่งกลับมาได้นิดหน่อย
ในเขตพื้นที่ราบสูง ตอนกลางคืนยังจะต้องใส่เสื้อคลุมตัวนอกที่หนาๆ แต่ในตอนนี้เขาเหงื่อออกท่วมเต็มหลัง จับมือของพี่เหรินเอาไว้และพูดจาติดขัดเสียงสั่นเครือ
“เพื่อนผมคนหนึ่งมาจากปักกิ่งเพื่อมาหาผม ถึงที่คังติ้งเมื่อตอนกลางวัน ตอนนี้ผมยังติดต่อเธอไม่ได้เลยครับ”
พี่เหรินเองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน ครั้นคิดใคร่ครวญอย่างละเอียดก็แอบรู้สึกว่าคงแย่แล้วล่ะ
ระยะทางห่างไกล ทั้งสถานที่ก็สูงชัน จะไม่เป็นการทรมาทรกรรมเธอเหรอ
เขากดไหล่ของอิ๋งจิ่งและพูดปลอบใจ “นายอย่าลุกลี้ลุกลน อย่าตื่นตระหนก ฉันจะส่งรถขับย้อนสวนทางกลับไปหาเดี๋ยวนี้เลย ไม่แน่ว่ารถอาจจะเสียอยู่ระหว่างทางนะ แล้วก็บางทีเพื่อนของนายอาจจะยังไม่ได้มา อาจพักผ่อนอยู่ที่ตัวอำเภอก็ได้”
ขณะเตรียมจะดำเนินการ โทรศัพท์ของพี่เหรินก็ดังขึ้น เขาฟังเพียงไม่กี่คำตาก็พลันเป็นประกาย มองมาทางอิ๋งจิ่ง
“มีคนมาหานายที่ประตูทางเข้า”
ยังไม่ทันจะพูดจบ อิ๋งจิ่งก็วิ่งทะยานออกไปแล้ว
พี่เหรินตะลึงตาค้างพูดไม่ออก “โอ้โห! เจ้าหนูคนนี้เคยฝึกวิชาฝีเท้าย่องจรดคลื่น** สินะ”
* อาชาดีไม่หวนกลับไปกินหญ้าเดิม เปรียบเปรยถึงคนที่ได้ตัดสินใจสิ่งใดแล้ว ย่อมไม่มีทางหวนกลับไปจมอยู่ในสิ่งเดิม หรือหนทางเดิมๆ ที่เคยประสบ
* มดบนกระทะร้อน เปรียบเปรยถึงภาวะอารมณ์ที่ร้อนรนใจมาก กระสับกระส่ายจนอยู่ไม่ติดที่
** ฝีเท้าย่องจรดคลื่น ท่าวิชากังฟูที่เคลื่อนไหวขยับฝีเท้าว่องไวปานใช้ปลายเท้าจรดลงเบาๆ บนคลื่นผิวน้ำ
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 22 พ.ย. 65 เวลา 12.00 น.