X
    Categories: Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้วWith Loveทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว เล่ม 3 บทที่ 70

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 70 อยากลงทุนก็ขอร้องฉันสิ

หลังจากบรรลุข้อตกลงในความร่วมมือเบื้องต้นแล้ว หนิงเหมิงก็เริ่มจัดเตรียมคนในฝ่ายโปรเจ็กต์เข้ามาตรวจสอบวิเคราะห์กิจการบริษัทฮุ่ยมีเดีย จากนั้นเธอก็เริ่มลงมือทำแผนแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างสมบูรณ์แบบด้วยตนเอง

สืออิงหยั่งเชิงความคิดของหนิงเหมิงเป็นการส่วนตัว ถามเธอว่าจะวางแผนใช้คอนเน็กชั่นจากประชุมสุดยอดทางการเงินสองครั้งก่อนหน้า ให้คนที่รู้จักในการประชุมมาเป็นแอลพีร่วมลงทุนไหม

หนิงเหมิงไม่ได้ลีลา แต่ก็ไม่ถือว่าบอกข้อมูลทั้งหมดแก่สืออิง คราวนี้เธออยากลองใช้วิธีอื่นในการดึงแอลพีดูบ้าง วิธีการรวมทรัพยากรทั้งหมดเข้าด้วยกัน

สืออิงแสดงท่าทีตั้งหน้าตั้งตาคอย ให้อิสระกับหนิงเหมิงเพื่อให้เธอแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่

ในเรื่องนี้หนิงเหมิงรู้สึกขอบคุณสืออิงอย่างมาก ไม่ว่าสืออิงจะมีแผนการอะไรก็ตาม จะใช้ประโยชน์คอนเน็กชั่นจากคนรอบตัวจนจะหมด เพียงเพราะสืออิงให้พื้นที่และอิสระเพียงพอ หนิงเหมิงรู้สึกว่าอิงสืออินเวสเมนต์ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เธอสร้างผลงานได้

เมื่อหนิงเหมิงพบว่าเธออาจกลายเป็นสะพานเชื่อมด้านเงินทุนระหว่างสืออิงกับลู่จี้หมิง เธอยังเคยคิดที่จะลาออกและเปลี่ยนงานอย่างจริงจัง แต่เมื่อคิดดูอีกที การใช้ประโยชน์แค่นี้กับพื้นที่และอิสระที่มากพอในการทำโปรเจ็กต์ เมื่อเทียบกันแล้วตาชั่งในใจเธอก็เอนเอียงไปทางเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์ต้องอดทนกับการดูถูกและภาระที่หนักอึ้ง

ที่อิงสืออินเวสเมนต์ เธอก้าวหน้าในหน้าที่การงานแบบก้าวกระโดด ทั้งหมดนี้เป็นเพราะสืออิงมอบอำนาจตัดสินใจให้เธอเต็มๆ หากเปลี่ยนเป็นบริษัทอื่นเธออาจจะไม่มีอิสระในการตัดสินใจได้เช่นนี้ ความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอาจจะล่าช้าไปกว่านี้ถึงสองสามเท่า

หลังจากชั่งน้ำหนักแล้ว หนิงเหมิงตระหนักถึงคุณค่าการให้อิสระในการทำงานเช่นนี้ ความรู้สึกที่ถูกใช้ประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ นั่นก็ค่อยๆ มลายหายไปต่อหน้าโอกาสที่ได้รับ

หนิงเหมิงเชื่อว่าด้วยการดูแลคอนเน็กชั่นที่ได้มาอย่างจริงใจของเธอในตอนนี้ ต้องการหาแอลพีมาลงทุนก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากอะไร จากมุมมองของการจัดการมีแอลพีที่ตรงเป้าหมายจำนวนหนึ่ง ให้ทุกฝ่ายได้ผลประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรองค์รวมอย่างมีคุณภาพและมากที่สุด นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด

หลังจากทบทวนเบื้องต้นดูแล้ว หนิงเหมิงได้คัดเลือกบุคคลในใจมาพิจารณา

คนแรกคืออวี๋ต้าอี้ แพลตฟอร์มถ่ายทอดสดออนไลน์ของเขาสามารถสร้างความร่วมมือซึ่งกันและกันแบบขั้นสูงกับบริษัทฮุ่ยมีเดีย อย่างไรก็ตามบริษัทจือจือเทคโนโลยีของอวี๋ต้าอี้กำลังเตรียมที่จะจดทะเบียนเอ็นอีอีคิว และเขาก็ลงทุนด้วยเงินของเขาเอง ดังนั้นยังไม่พิจารณาเขาเป็นแอลพีในตอนนี้ ความร่วมมือในอนาคตก็สามารถพูดคุยรายละเอียดกันได้

คนที่สองคือประธานเหลียง เขามีทรัพยากรด้านอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทที่ไม่ควรมองข้าม เขาสนใจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตและทุนหนา เขาคือแอลพีชั้นดีและสมบูรณ์แบบ แต่หนิงเหมิงไม่อยากเชิญคนใหญ่คนโตมาทำโปรเจ็กต์เล็กๆ ทำเหมือนกับว่าใช้ประโยชน์จากของที่มีค่ายิ่งได้น้อยนิด ในอนาคตเธอยังมีแผนงานใหญ่ การลงทุนในบริษัทฮุ่ยมีเดียเป็นการทดสอบเบื้องต้นสำหรับแผนใหญ่ของเธอ เธอใช้ประธานเหลียงคนสำคัญในจังหวะที่สำคัญ ดังนั้นในการคัดเลือกแอลพีครั้งนี้เธอจึงไม่ได้เชิญประธานเหลียงออกโรงมาเป็นหนึ่งในแอลพีครั้งนี้

คนต่อไปก็คือหนึ่งในประธานสี่คนที่มาประชุมการร่วมลงทุนก่อนหน้านี้ ประธานหวังคือผู้ที่มีทรัพยากรทางด้านอีคอมเมิร์ซ ระยะหลังประธานหวังมาที่ปักกิ่งหลายครั้ง มาชวนหนิงเหมิงไปดื่มน้ำชาด้วยถึงสองครั้ง เขายังคาใจอย่างมากที่ครั้งนั้นไม่สามารถลงทุนในแพลตฟอร์มถ่ายทอดสด เมื่อเห็นว่าธุรกิจถ่ายทอดสดกำลังเฟื่องฟูในตอนนี้ เขาทำได้แค่เสียดายไปพร้อมๆ กับรสชาติชาที่ขมขื่น เมื่อจิบชาก็ย้อนคิดไปว่าตอนแรกเปิดราคาเขาระวังตัวมากไป เสียดายโอกาสดีๆ เขาได้พูดกับหนิงเหมิงอย่างจริงใจมากกว่าหนึ่งครั้งว่าเขาหวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับหนิงเหมิงในอนาคต

ประธานหวังท่านนี้คือหนึ่งในบรรดาแอลพีที่หนิงเหมิงคิดไว้อยู่แล้ว หลังจากเธอส่งหนังสือโปรเจ็กต์ลงทุนให้ประธานหวังก็ได้รับคำตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่าเขายินดีเข้าร่วมโปรเจ็กต์นี้อย่างเต็มใจ

ตามการคาดการณ์ของหนิงเหมิง เธอวางแผนที่จะหาแอลพีทั้งหมดสามราย หนึ่งในแอลพีมีแล้ว ส่วนอีกสองแอลพีนั้น คนหนึ่งเธอเลือกประธานอู๋ซึ่งรู้จักเมื่อตอนพบกันในการประชุมที่เทียนจิน ทำอุตสาหกรรมมานาน เป็นผู้บริหารระดับสูง ในเวลาเดียวกันก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท หลังจากบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ราคาหุ้นก็พุ่งสูงขึ้น แน่นอนว่ามูลค่าทรัพย์สินของเขาในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ก็พุ่งเกินร้อยล้านทันที หลังจากเกษียณจากบริษัท เขานำหุ้นของตัวเองไปค้ำประกันกับธนาคาร นำเงินจากการใช้หุ้นค้ำประกันที่ธนาคารมาลงทุนในธุรกิจต่างๆ

เหตุผลที่หนิงเหมิงพิจารณาให้ประธานอู๋เข้าร่วมเป็นหนึ่งในแอลพีนั้นง่ายมาก เขาเป็นคนที่มีเงินทุน หากมีโปรเจ็กต์ไหนที่เขาสนใจ เมื่อพูดว่าจะลงทุนเงินก็มาทันทีและไม่ต้องมีขั้นตอนยุ่งยากอะไร ประสิทธิภาพสูงมากและเขามีเงินเหลืออยู่ในมือ ถ้าครั้งนี้ร่วมมือกันได้ดีก็เป็นการวางรากฐานในการหาแหล่งเงินลงทุนในครั้งต่อไป

เป็นโชคดีของหนิงเหมิงหลังจากนำแผนธุรกิจส่งให้ประธานอู๋ คุณลุงอู๋ที่มีงานอดิเรกที่ทันสมัย ได้ดูซีรี่ส์ของบริษัทฮุ่ยมีเดียเพียงไม่กี่ตอนก็แสดงออกถึงความชื่นชมซีรี่ส์ที่มีอารมณ์ขันและเป็นเรื่องที่ให้ผู้ชมได้ขบคิด ดังนั้นเขาจึงมีความเต็มใจอยากร่วมลงทุนกับบริษัทฮุ่ยมีเดีย แอลพีคนที่สองก็เป็นผลสำเร็จ

ตอนนี้ยังขาดแอลพีคนที่สาม

พิจารณาถึงแอลพีคนที่สาม หนิงเหมิงคิดถึงคนที่สนิทสนมรู้จักกันอย่างดี

เธอได้พบกับเขาแล้วครั้งหนึ่งก่อนเทศกาลวันชาติจีน คุณถังเจิ้งวั่ง

ครั้งนั้นถังเจิ้งวั่งตั้งใจรีบเดินทางจากกวางตงมาถึงปักกิ่งเพื่อมาพบกับเฉียนเฟยผู้รับค้ำประกันการออกหลักทรัพย์คนสวยที่หนิงเหมิงแนะนำให้รู้จัก การพบกันครั้งนั้นบทบาทของหนิงเหมิงที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมทางเท่านั้น

ปีที่แล้วถังเจิ้งวั่งได้อาศัยเงินหมุนซึ่งเป็นกองทุนก้อนโตที่ลู่จี้หมิงและเจิงอวี่หังให้ยืมทำให้เขาผ่านสถานการณ์คับขันมาได้ ผ่านมากว่าหนึ่งปีเศษธุรกิจด้านเครื่องแต่งกายของถังเจิ้งวั่งเจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกวัน เสียงตอบรับก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงคราวที่โอกาสการลงทุนมาถึง ถังเจิ้งวั่งก็นึกถึงเส้นทางการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

เขาสอบถามลู่จี้หมิงว่าการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง

ลู่จี้หมิงส่งเขาไปหาหนิงเหมิงในทันที ‘เรื่องนี้คุณถามหนิงเหมิงได้ ตอนนี้เธอเก่งมาก รู้จักผู้รับค้ำประกันการออกหลักทรัพย์ที่เก่งกาจอยู่คนหนึ่ง’

ถังเจิ้งวั่งถามลู่จี้หมิงว่าผู้รับค้ำประกันการออกหลักทรัพย์คืออะไร

ลู่จี้หมิงตอบว่า ‘ผู้รับค้ำประกันการออกหลักทรัพย์คือตัวแทนรับประกันและแนะนำ พูดให้เข้าใจง่ายๆ แบบชาวบ้านก็คือเป็นตัวแทนในการดูแลให้บริษัทคุณจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้’

ถังเจิ้งวั่งตอบขอบคุณประธานลู่

ลู่จี้หมิงบอกว่าไม่ต้องเกรงใจ เรื่องเล็กน้อย

ดังนั้นถังเจิ้งวั่งจึงติดต่อหนิงเหมิงในทันที

อีกด้านหนึ่งหนิงเหมิงรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำในเรื่องเล็กน้อยของลู่จี้หมิงที่เริ่มหางานให้กับเธอ นี่คือการยอมรับรูปแบบหนึ่งเหรอ

หนิงเหมิงเป็นผู้เบิกทางการควบรวมทรัพยากรอย่างรวดเร็ว เธอค้นพบว่าบริษัทเครื่องแต่งกายของถังเจิ้งวั่งที่จริงแล้วสามารถนำมาบูรณาการกับบริษัทที่มีอยู่ในมือได้เป็นอย่างดี วิน-วินด้วยกันทั้งคู่

ก่อนเทศกาลวันหยุด เธอไม่มีเวลาที่จะขยายแนวคิดนี้ เนื่องจากเวลาอันน้อยนิดก่อนวันหยุดยาวเธอได้ใช้ไปกับถังเจิ้งวั่งและเฉียนเฟยเพื่อพูดคุยกันถึงวิธีที่จะเริ่มต้นสู่เส้นทางการจดทะเบียนบริษัท

ตอนนี้ถือโอกาสที่ถังเจิ้งวั่งมาถึงปักกิ่งหลังเทศกาลวันหยุดและเขายังไม่กลับ หนิงเหมิงรีบนัดเขาออกมาพบเจอคุยกันเป็นการส่วนตัว

ถังเจิ้งวั่งคิดถึงความอบอุ่นและการดูแลเอาใจใส่ที่มากล้นที่หนิงเหมิงส่งมาให้ครอบครัวของเขาขณะที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เขาไม่ลังเลหรือรีรอที่จะไปตามนัดของหนิงเหมิงเลย

ทั้งสองคนนัดเจอกันที่ร้านน้ำชายูนนานเมฆาสีรุ้งบนถนนจินหรง หลังจากพบเจอกัน ทักทายกันสักพัก หนิงเหมิงก็เริ่มเข้าสู่หัวข้อสนทนา เธอถามถังเจิ้งวั่งว่างบประมาณในการโฆษณาของบริษัทเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากจ่ายเงินไปแล้วเห็นผลลัพธ์ชัดเจนรึเปล่า

ถังเจิ้งวั่งพูดตามจริงว่า “ค่าโฆษณาของปีที่แล้วสูงมาก ผมจ้างดาราดังมาโปรโมตสินค้า แต่พูดตามตรงนะ ผมรู้สึกว่าดาราก็ไม่ได้ช่วยให้ยอดขายเสื้อผ้าเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ลูกน้องผมที่รับผิดชอบการตลาดวิเคราะห์กันพบว่าเหตุผลหลักคือตอนนี้ดาราเปลี่ยนหน้ากันเร็วมาก ครึ่งปีแรกยังโด่งดังอยู่ ครึ่งปีหลังพอไม่มีละครหรือหนังแสดงก็เรียกได้ว่าตกกระป๋องไปเลย”

หนิงเหมิงพยักหน้า “เป็นอย่างนี้นี่เอง และถ้าดาราถูกขุดเรื่องไม่ดีออกมา เช่นเล่นยาหรือนอกใจ ยิ่งจะส่งผลต่อชื่อเสียงของแบรนด์ ดังนั้นถ้าพูดในระดับหนึ่ง การใช้ดาราก็มีความเสี่ยงเช่นกัน” นิ่งไปสักพักหนิงเหมิงก็ถามถังเจิ้งวั่งอีกครั้ง “คุณเคยคิดบ้างไหมว่าต่อไปจะวางแผนใช้จ่ายค่าโฆษณาอย่างไร”

ถังเจิ้งวั่งเอามือลูบหน้าและส่ายหัว “ยังคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ออกเลย ไม่งั้นแล้วคงต้องใช้แผนการเดิม ทุ่มเงินไปจ้างดารา”

หนิงเหมิงยิ้มออกมา “ประธานถัง ฉันพอมีทรัพยากรบางอย่างอยู่ในมือตอนนี้ คุณอาจจะใช้ได้ สนใจจะลองฟังดูไหมคะ”

ถังเจิ้งวั่งรับคำทันที “สนใจสิ สนใจ คุณลองว่ามาสิ!”

“คืออย่างนี้ ฉันมีทรัพยากรบางอย่างอยู่ในมือ รวมถึงแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดทางอินเตอร์เน็ต อีคอมเมิร์ซ และบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ ส่วนของภาพยนตร์และโทรทัศน์กับอีคอมเมิร์ซฉันคงไม่พูดอะไรมาก คุณคงเข้าใจดีอยู่แล้ว คุณรู้จักการไลฟ์สดใช่ไหมคะ มันเป็นที่นิยมมากในตอนนี้และมันจะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยในอนาคต สตรีมเมอร์ดังๆ มีแฟนคลับเป็นแสนเป็นล้านติดตามการถ่ายทอดสดของพวกเขาทุกวัน พวกเขาเรียกให้แฟนคลับใช้เงินได้มากกว่าดารา ฉันคิดว่าบริษัทของคุณสามารถบูรณาการเข้ากับทรัพยากรที่ฉันมีอยู่ได้ ตัวอย่างเช่น ให้สตรีมเมอร์ใส่เสื้อผ้าของบริษัทคุณ โฆษณาแบบสามมิติให้คุณสดๆ ได้เลย แล้วร่วมกับอีคอมเมิร์ซเพื่อขายออนไลน์

ส่วนบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์นั้นกำลังจะถ่ายทำละครออนไลน์กับภาพยนตร์ออนไลน์เจ๋งๆ สองสามเรื่อง ฉันมั่นใจในคุณภาพละครของพวกเขา ต้องมีสักเรื่องสองเรื่องที่จะดังเป็นพลุแตก คุณคิดดูนะถ้าให้นักแสดงสวมชุดของบริษัทคุณ เมื่อละครดังฮิตติดกระแสขึ้นมา เสื้อผ้าของคุณ บริษัทของคุณ รวมถึงคุณที่เป็นเจ้านายใหญ่ก็จะดังระเบิดตามไปด้วย และเมื่อละครออกอากาศทางอินเตอร์เน็ต ลิงก์ซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ของตัวเอกก็จะปรากฏบนหน้าจอ สามารถคลิกสั่งซื้อได้โดยตรง กดเข้าไปที่หน้าร้านค้าออนไลน์ได้เลย”

หลังจากที่แนะนำการจัดการทรัพยากรองค์รวมแล้ว หนิงเหมิงได้สรุปความว่า “หลังจากการจัดการทรัพยากรองค์รวมสองรูปแบบนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นผลดีต่อยอดขายกับบริษัทเครื่องแต่งกายของคุณซึ่งจะดีกว่าการจ้างดารามาโปรโมตอย่างมาก คุณคิดว่ายังไงคะ”

ถังเจิ้งวั่งฟังไปก็ถูมือไปด้วย “ฟังดูแล้วมันไม่เลวเลยจริงๆ! งั้น ผอ. หนิง คุณคิดว่าผมจะสามารถเข้าร่วมเป็นทีมของทรัพยากรองค์รวมของคุณได้ยังไงบ้าง”

หนิงเหมิงแอบปรบมือให้ตัวเองในใจเบาๆ เธอเปลี่ยนลำดับเนื้อหาของการเจรจาธุรกิจแบบฉับพลันแต่ได้รับผลสำเร็จที่ดีเยี่ยมจนน่าให้รางวัลกับตัวเอง

เดิมทีเดียวเธอตั้งใจจะบอกกับถังเจิ้งวั่งตรงๆ ว่าเธอกำลังจะลงทุนกับบริษัทมีเดียบริษัทหนึ่ง จากนั้นก็พูดหว่านล้อมให้ถังเจิ้งวั่งนำเงินที่จะไปจ้างดาราเปลี่ยนมาเป็นหนึ่งในแอลพีของเธอ ทุกคนร่วมลงทุนในบริษัทมีเดียร่วมกัน เธอจะอธิบายข้อดีให้ถังเจิ้งวั่งฟังอย่างละเอียดถึงการลงทุนว่าเขาสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ของเธอได้อย่างเต็มที่ ทรัพยากรพวกนี้มีผลดีต่อการทำโฆษณามากกว่าการใช้ดาราในการโปรโมตอย่างมาก นอกจากนั้นเขาก็ยังได้รับกำไรก้อนโตจากการร่วมลงทุนเมื่อเวลาร่วมทุนสิ้นสุด

ทว่าหากพูดเช่นนี้ท้ายที่สุดยังคงอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่เธอขอร้องให้ถังเจิ้งวั่งมาร่วมเป็นแอลพี

แต่วิธีที่เหนือชั้นไปกว่านั้นคือเธอทำให้ถังเจิ้งวั่งเป็นฝ่ายขอร้องให้เธอหยิบยื่นโอกาสให้เขาและพาเขาเข้าร่วมทีมทรัพยากรองค์รวม

ดังนั้นพอถึงเวลาที่จะอธิบาย เธอจึงได้ปรับเปลี่ยนลำดับขั้นตอนเนื้อหาในการเจรจาทันที เธอได้เน้นย้ำถึงข้อดีของการร่วมใช้ทรัพยากรองค์รวม หลอกล่อกระตุ้นให้ถังเจิ้งวั่งอยากจะพูดออกมาว่า ‘งั้น ผอ. หนิง คุณคิดว่าผมจะสามารถเข้าร่วมเป็นทีมของทรัพยากรองค์รวมของคุณได้ยังไงบ้าง’

หนิงเหมิงบอกกับถังเจิ้งวั่งว่าเขาสามารถประหยัดค่าโฆษณาและเปลี่ยนเงินให้เป็นเงินลงทุน ซึ่งจะลงทุนในบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ในรูปแบบของแอลพี เมื่อมูลค่าบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์สูงขึ้นก็ถอนการลงทุน คุณก็สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนได้ไม่น้อย และเมื่อเขาใช้รูปแบบแอลพีผูกกับบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ไว้ เขาสามารถใช้ทรัพยากรของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้อย่างสมเหตุสมผลมากขึ้น สำหรับบริษัทถ่ายทอดสดผ่านอินเตอร์เน็ตก็พูดไม่ยาก เพราะเธอเป็นหนึ่งในกรรมการของบริษัท และเธอมีสิทธิ์มีเสียงระดับหนึ่ง สามารถช่วยเขาติดต่อเรื่องความร่วมมือได้โดยตรง ด้านอีคอมเมิร์ซจะเป็นแอลพีอีกบริษัทหนึ่งที่ลงทุนในบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ เมื่อทุกคนเป็นแอลพีของบริษัทเดียวกันความสัมพันธ์ก็จะใกล้ชิดกันมากขึ้นทันที หากเธอเชื่อมต่อกับมันอีกหน่อยก็ย่อมเกิดความร่วมมือด้านทรัพยากรอย่างแน่นอน

หนิงเหมิงกลัวว่าถังเจิ้งวั่งจะไม่เข้าใจว่าแอลพีคืออะไร จึงตั้งใจอธิบายอย่างละเอียดให้ฟังหนึ่งรอบ เมื่ออธิบายเสร็จ หนิงเหมิงก็ถามเขา

“คุณเห็นว่าวิธีการทำทรัพยากรองค์รวมเป็นอย่างไรบ้าง”

ถังเจิ้งวั่งแสดงท่าทีออกมาในทันใด “ผมยินดี!”

อาการตื่นเต้นของเขาทำให้หนิงเหมิงสงสัยว่าตัวเองกำลังขอเขาแต่งงานใช่รึเปล่า

“ผมเข้าใจแล้ว อันที่จริงก็เหมือนกับว่าผมนำเอาค่าโฆษณาของครึ่งปีหลังเปลี่ยนไปใช้ในรูปแบบใหม่ คือมอบให้คุณไปลงทุน คุณเอาไปลงทุนกับบริษัทมีเดีย จากนั้นผมก็จำหน่ายผ่านช่องทางไลฟ์สดและช่องทางออนไลน์เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย เมื่อก่อนค่าโฆษณาจ่ายแล้วก็จ่ายไป หากแต่การใช้งบโฆษณาในครั้งนี้น่าจะทำกำไรทบต้นทบดอกคืนมาได้ เรื่องดีแบบนี้คุณว่าผมจะไม่ยินดีได้ยังไง”

หนิงเหมิงอยากจะปรบมือให้กับถังเจิ้งวั่งจริงๆ ความกระตือรือร้นของเขาเหมือนเป็นหน้าม้าให้เธอ

ทั้งสองใช้น้ำชาแทนเหล้า ตกลงร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน ก่อนแยกจากกันถังเจิ้งวั่งยังเรียกให้บริกรช่วยถ่ายรูปคู่กับหนิงเหมิงเก็บไว้เป็นที่ระลึก

 

คืนนั้นหนิงเหมิงเห็นรูปคู่ที่ถังเจิ้งวั่งโพสต์เข้าไปในโมเมนต์* แล้วยังใส่แคปชั่นว่า

 

ไม่ได้มีบ่อยๆ ที่อายุจะห้าสิบแล้วยังมีช่วงเวลาเช่นวันนี้ที่ฉันได้พูดคุยกับเพื่อนรุ่นเยาว์อย่างมีความสุข จากไปสามวัน เมื่อมองดูใหม่ เพื่อนรุ่นเยาว์ได้เปลี่ยนจากเลขาฯ หนิงไปเป็น ผอ. หนิงที่แสนสวยในตอนนี้ มีความสามารถ เพียบพร้อมด้วยแผนกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ! วันนี้ได้รับประโยชน์อย่างมาก ในใจของตาเฒ่าอย่างฉันตอนนี้สุขใจอิ่มเอมใจเป็นอย่างมาก

 

หนิงเหมิงอ่านถึงประโยคสุดท้ายที่ถังเจิ้งวั่งเรียกตัวเองว่าตาเฒ่าก็เกือบจะพ่นหัวเราะออกมา เธอทั้งยิ้มและกดไลค์ไปพร้อมๆ กัน

ขณะลู่จี้หมิงเลื่อนส่องดูในโมเมนต์กลุ่มเพื่อนที่รู้จัก เขาเห็นโพสต์และแคปชั่นของถังเจิ้งวั่ง ใบหน้าของหนิงเหมิงในรูปถ่ายนั้นยิ่งดูทั้งเล็กทั้งขาวและสวยขึ้นเมื่ออยู่คู่กับใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยชีวิตของถังเจิ้งวั่ง ไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจลู่จี้หมิงใช้นิ้วกดรูปภาพแล้วเซฟเก็บไว้แถมยังทำโมเสกเบลอบนหน้าของถังเจิ้งวั่งอีกด้วย ทำให้คล้ายกับว่าเป็นรูปเดี่ยวของหนิงเหมิง

ต่อจากนั้นเขาก็โทรไปหลอกถามถังเจิ้งวั่งว่าเมื่อตอนกลางวันที่ไปดื่มชากับหนิงเหมิงพูดคุยกันเรื่องอะไร

หลังจากที่ได้ฟังถึงเรื่องทรัพยากรองค์รวมของหนิงเหมิง ลู่จี้หมิงมีอาการตกใจเล็กน้อย อันที่จริงแล้วเขามองข้ามความสามารถของหนิงเหมิงและก็ยังดูถูกรูปแบบการทำงานของเธอมาตลอด เรื่องทุกเรื่องที่เธอทำ การลงทุนทุกโปรเจ็กต์ที่เธอตัดสินใจ พิจารณาแล้วในขณะนั้นดูเหมือนจะไม่เข้าท่า แต่ท้ายที่สุดเมื่อพิจารณาภาพรวมแล้วทุกขั้นตอนทุกรายละเอียดมันแทนกันไม่ได้ แผนการในใจเธอไม่ได้มองเพียงหมากตัวเดียวในกระดาน แต่เธอกลับอ่านเกมทะลุหมดแล้วทั้งกระดาน

ก่อนหน้านี้เขาอาจจะเป็นคนที่ฉุดรั้งเธอไว้จริงๆ

ด้วยความตกใจของเขา ไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจให้ลู่จี้หมิงไปหาสืออิงในวันรุ่งขึ้น

หลังจากทักทายกันไม่กี่คำเขาก็ถามสืออิง “พวกคุณกำลังทำโปรเจ็กต์ลงทุนกับบริษัทมีเดียใช่หรือเปล่า”

สืออิงตอบกลับเขาอย่างเรียบๆ ว่า “โปรเจ็กต์นี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินงาน เพียงแต่นี่เป็นโปรเจ็กต์ของหนิงเหมิง เธอเป็นผู้รับผิดชอบเต็มในโปรเจ็กต์นี้ รายละเอียดของโปรเจ็กต์นี้ฉันยังไม่เข้าใจทั้งหมด คุณก็รู้ว่าโปรเจ็กต์ที่อยู่ในมือลูกน้อง ฉันจะไม่ก้าวก่ายมากนัก ถ้าคุณสนใจโปรเจ็กต์นี้ล่ะก็ ต้องไปคุยกับหนิงเหมิงโดยตรง”

ก่อนจะเดินออกจากห้องของสืออิง ลู่จี้หมิงไม่แน่ใจว่าตัวเองมองผิดไปรึเปล่า ดูเหมือนเขาจะมองเห็นประกายแห่งความสุขในดวงตาของสืออิงแวบผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็ว

เหมือนกับเมื่อก่อนเขาเฉยเมยโปรเจ็กต์ที่เธอหามา จากคำพูดของสืออิงเมื่อครู่ เหมือนกับเธอเอาคืนได้ยกหนึ่ง

ลู่จี้หมิงหันหลังเดินตรงไปหาหนิงเหมิง เขายังแสดงออกด้วยท่าทีเช่นเดิม “คุณจะลงทุนกับบริษัทมีเดียเหรอ”

หนิงเหมิงถามขึ้นทันที “คุณรู้ได้ยังไง” เธอคุยกับสืออิงมาก่อน สืออิงไม่มีเหตุผลที่จะบอกลู่จี้หมิงถึงโปรเจ็กต์ที่เกิดขึ้นนี้

ในหัวของเธอฉุกคิดขึ้นมาได้แวบหนึ่ง

จริงสิ โมเมนต์ของถังเจิ้งวั่ง

หนิงเหมิงถามลู่จี้หมิง “คุณติดต่อกับประธานถังแล้ว?”

ลู่จี้หมิงเงยหน้าขึ้น เลิกคิ้วคล้ายจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “ปฏิกิริยาคุณเร็วมากนะ!”

“ใช่ค่ะ ฉันจะลงทุนกับบริษัทมีเดีย ทำไมเหรอ”

ลู่จี้หมิงถามซักไซ้ “บริษัทมีเดียมีมากมาย ทำไมถึงต้องลงทุนในบริษัทนี้ด้วย มีอีกหลายบริษัทที่มีคุณสมบัติดีกว่านี้เป็นร้อยเท่า!” เขาพูดอย่างจงใจกระตุ้นให้หนิงเหมิงแจงเหตุผลการลงทุนออกมา

หนิงเหมิงก็ตอบโต้ข้อสงสัยของเขาตามที่เขาคิด “ผู้ที่มีคุณสมบัติดีกว่าร้อยเท่าก็มีอยู่แล้ว ซ้ำยังกะล่อน บริษัทนี้มีขนาดกำลังพอเหมาะ พนักงานก็มีความสามารถ คนหนึ่งทำงานได้เท่ากับสิบคน ที่สำคัญพวกเขามีความสามัคคีที่แน่นแฟ้น ทุกคนไม่ตามกระแส รักษาความเป็นศิลปะที่เหลืออยู่น้อยนิดไม่ให้เงินซื้อไปได้ เจ้านายมองการณ์ไกล หลายคนยังไม่รู้ว่าละครออนไลน์จะเป็นเค้กก้อนใหญ่ เขาถือมีดกับส้อมเตรียมพร้อมที่จะตัด แม้ตอนนี้การประเมินมูลค่าของบริษัทยังไม่สูงสักเท่าไหร่ อนาคตยังมีแนวโน้มดี แล้วก็สามารถร่วมมือกันทำทรัพยากรองค์รวมกับหลายบริษัทที่อยู่ในมือฉันได้ ลงทุนไปก็คุ้มจะตาย ที่สำคัญที่สุดฉันกับเจ้าของบริษัทยังคงยึดมั่นคำสาบานว่าจะมีความร่วมมือกันและจะไม่แยกจากกัน หากปล่อยมือไม่ลงทุนกับบริษัทเช่นนี้ไปก็จะเป็นคนโง่ที่สุดเลยรึเปล่า”

หลังจากหนิงเหมิงพูดจบแล้ว เธอเห็นการแสดงออกถึงความปรารถนาอันแปลกประหลาดบนใบหน้าของลู่จิ้หมิง และก็ตระหนักในทันทีว่าเธอถูกชักจูงเข้าสู่รูปแบบการทำงานของเขา

ใครๆ ก็พูดกันว่าเธอคือคนที่เข้าใจลู่จี้หมิงที่สุด แล้วเขาลู่จี้หมิงทำไมจะไม่รู้จักนิสัยของเธอกันล่ะ สิ่งที่เธอไม่ยอมทนที่สุดก็คือการดูถูกอย่างไม่มีเหตุผลของเขา ยิ่งเขาดูถูกเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งต้องทำให้สำเร็จมากขึ้นเท่านั้น

ลู่จี้หมิงกล่าวกับหนิงเหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีชัยว่า “ให้ผมช่วยคุณบรรเทาแรงกดดันทางการเงินบางส่วนเถอะ”

หนิงเหมิงประเมินคำพูดเขาสักพักและแปลความหมายตรงตัวออกมาว่า “คุณหมายถึงคุณอยากจะร่วมลงทุนในโปรเจ็กต์ของฉัน?”

ลู่จี้หมิงหางตากระตุก ใช้จมูกพ่นลมเสียงดังฮึ่มออกมา แปลว่าถูกต้องแล้ว

หนิงเหมิงหัวเราะ “จะลงทุนโปรเจ็กต์ของฉันตอนนี้มันไม่ง่ายน่ะสิ แต่ถ้าคุณอยากจะลงทุนจริงๆ ล่ะก็ ลองขอร้องฉันดูสิ ไม่แน่หากฉันอารมณ์ดีๆ อาจจะแบ่งส่วนการลงทุนให้คุณก็ได้”

ลู่จี้หมิงจ้องหนิงเหมิงด้วยความฉุนเฉียว เดินลมปราณในท้องพลางคิดเรื่องสามสิบปีแม่น้ำฝั่งตะวันออก สามสิบปีแม่น้ำฝั่งตะวันตก* อย่างโมโหจนท้องเขาบวมเป่งขึ้นมาแล้ว

 

เชิงอรรถ

* โมเมนต์ (Moment) เป็นหนึ่งในฟังก์ชันของวีแชต ใช้สำหรับโพสต์ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอลงในไทม์ไลน์

* ‘สามสิบปีแม่น้ำฝั่งตะวันออก สามสิบปีแม่น้ำฝั่งตะวันตก’ หมายถึงทุกอย่างย่อมมีการเกิดและดับสูญ มีความเจริญและเสื่อมถอย ไม่มีอะไรถาวร มีที่มาจากในสมัยโบราณแม่น้ำหวงเหอจะมีการขุดคลองหรือขุดเส้นทางน้ำสายใหม่หลายครั้ง ทำให้จากเดิมที่สามสิบปีก่อนแม่น้ำหวงเหอฝั่งตะวันออกมีหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากการเปลี่ยนเส้นทางน้ำของแม่น้ำหวงเหอ ทำให้สามสิบปีหลังจากนั้นหมู่บ้านย้ายไปอยู่ฝั่งตะวันตกมากขึ้น

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 17 .. 65  เวลา 12.00 .

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: