บทที่ 1 ความลับไม่มีในโลก
“ปู นอนรึยัง” น้ำเสียงอันอ่อนหวานดังขึ้นหลังจากการเคาะประตูเบาๆ
“เข้ามาสิฝ้าย” ฉันร้องบอกและขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน หลังการอธิษฐานในคืนแห่งปาฏิหาริย์ผ่านพ้นไปเรียบร้อย
‘ฝ้าย’ เป็นนักศึกษาปริญญาโทที่กำลังจะเรียนจบในปีการศึกษาหน้า เธอเป็นคุณหนูลูกเศรษฐีที่แสนเพียบพร้อม ฉันบังเอิญโชคดีได้เธอเป็นเพื่อนสนิท จึงมีโอกาสมาใช้ชีวิตในคอนโดฯ ชั้นหนึ่งแห่งนี้โดยแทบไม่มีค่าใช้จ่าย
ฝ้ายรู้ดีว่าฉันหมกมุ่นกับการขอพรในคืนนี้มากเพียงใด แต่เธอก็ไม่ได้หัวเราะหรือทักท้วง ทว่าก็ไม่ได้มาขอพรแบบเดียวกันกับฉัน ทั้งที่ฝ้ายมีบุคลิกเป็นสาวน้อยช่างฝันโดยแท้ พอคิดแบบนี้แล้วก็รู้สึกอายนิดๆ เหมือนกัน
“เข้าห้องนอนปูทีไรรู้สึกเขินทุกที” ฝ้ายพูดพลางหันมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้ายิ้มละไม “เหมือนโดนเควิน ริชชี่จ้องมองจากทุกทิศทุกทาง เควินเต็มไปหมด”
“ก็แบบนี้มันทำให้ฉันหลับสบายนี่นา” ฉันบอกอย่างมีความสุข ฝ้ายทำให้รู้สึกดีเสมอเพราะฉันสามารถคุยเรื่องนี้กับเธอได้โดยไม่ต้องลำบากใจ ปกติแล้วฉันต้องคอยปกปิดมันไว้เป็นความลับสุดยอด ไม่ให้นักเรียนและเพื่อนครูที่โรงเรียนรู้โดยเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นคงโดนเพื่อนครูที่น่ารักบางคนคอยแซะไม่เว้นแต่ละวัน แล้วก็คงเป็นอาจารย์ที่น่านับถือของนักเรียนตายเลย “ฝ้ายมีอะไรรึเปล่า”
ฝ้ายพยักหน้า ยิ้มบางๆ ด้วยท่าทางเกรงใจจนฉันแอบกระดาก เพราะฝ้ายเป็นเจ้าของคอนโดฯ แห่งนี้ทุกตารางนิ้ว แต่กลับชอบทำท่าเกรงอกเกรงใจอยู่เรื่อย
“พรุ่งนี้ปูไม่ออกไปไหนใช่รึเปล่า”
ฉันพยักหน้าแต่คิ้วขมวดอย่างสงสัย
“คือว่า…พอดีคุณพ่อคุณแม่ฉันจะเข้ามาหา”
คำบอกเล่าของฝ้ายทำให้ฉันอึ้งไปชั่วครู่ “อ้อ…ดีจังเลยนะ ไม่ได้เจอกับพ่อแม่ฝ้ายตั้งนานแล้ว”
“โธ่ ฉันรู้ว่าปูลำบากใจ แต่ฉันก็เข้าใจนะ ก็พ่อแม่ฉันเหมือนคนอื่นเสียที่ไหน”
ฉันยิ้มเจื่อน “อย่าพูดอย่างนั้นสิ คุณพ่อคุณแม่ฝ้ายใจดีกับฉันจะตาย พรุ่งนี้ฉันไม่ได้ออกไปไหนพอดี จะอยู่รอเจอคุณพ่อคุณแม่กับฝ้ายด้วยนะ”
ฝ้ายยิ้มกว้าง รีบเอื้อมมาจับมือฉันอย่างดีใจ “ขอบใจมากนะปู คุณพ่อคุณแม่คงดีใจที่ได้เจอปูด้วย”
พ่อแม่ของฝ้ายเป็นนักธุรกิจที่มีงานล้นมือและต้องออกงานสังคมบ่อยๆ ตอนที่ฝ้ายขอย้ายออกมาอยู่ที่คอนโดฯ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ท่านทั้งสองคัดค้านเสียงแข็ง กระทั่งฝ้ายมาขอร้องให้ฉันไปที่บ้านด้วย แล้วบอกกับพ่อแม่ว่าฉันจะไปอยู่กับฝ้ายที่คอนโดฯ และจะคอยดูแลฝ้ายให้เป็นอย่างดี แล้วฝ้ายยังยกเอาเรื่องที่พวกท่านไม่เคยมีเวลาให้เธอเลยตั้งแต่เล็กจนโตมาอ้าง ว่าแม้จะไม่เคยมีใครใส่ใจแต่เธอก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหล แถมยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้โดยที่ไม่เคยมีใครเคี่ยวเข็ญ สุดท้ายพวกท่านจึงยอมตามใจ แต่ในช่วงแรกนั้นพ่อแม่ฝ้ายหมั่นมาคอยตรวจสอบความเป็นอยู่ของพวกเราแทบทุกสัปดาห์ หนึ่งปีผ่านไปเราจึงได้รับความไว้วางใจอย่างเต็มที่ เดี๋ยวนี้นานๆ ครั้งพวกท่านจะแวะเวียนมาสำรวจความเป็นอยู่สักทีหนึ่ง ส่วนฝ้ายก็จะกลับบ้านสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเป็นอย่างน้อย
ถึงแม้พ่อแม่ของฝ้ายจะเป็นสามีภรรยาที่ดูแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ท่านทั้งสองก็ใจดีมากจริงๆ เพียงแต่ว่า…ทุกครั้งเวลามาที่นี่ ท่านจะชอบตั้งคำถามสารพัดอย่างจนฉันมึนไปหมด แถมยังพยายามจับผิดพฤติกรรมของพวกเราอย่างเอาเป็นเอาตายเสมอจนฉันแทบจะหมดแรงกับการรับมือในแต่ละครั้ง