“ขอโทษนะครับ ที่ผมเคยบอกเจว่าคุณหน้าตาเหมือนแม่ของเรา” อยู่ๆ เควินก็เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบด้วยเรื่องนั้น คงเพราะเขาไม่มีอะไรจะคุยด้วยจริงๆ
“ไม่ใช่เรื่องที่ต้องขอโทษนี่คะ” ฉันบอกเขาและยิ้ม ได้แต่หวังว่ามันคงไม่ใช่ยิ้มสยอง
“ดูเหมือนว่า…เจจะทำให้คุณอึดอัด”
ฉันเลื่อนแววตาหวั่นไหวจากถ้วยสลัดไปที่หน้าเควิน ไม่ใช่เจอเรมี่หรอกที่ทำให้ฉันอึดอัดจนหายใจไม่ออก แต่เป็นพี่ชายเจอเรมี่ต่างหาก ตอนนี้ฉันอึดอัดจนจะหายใจไม่ออกแล้ว เมื่อไหร่สามคนนั้นจะกลับมากันเสียที ใครก็ได้ช่วยรีบกลับมาเร็วๆ หน่อย ฉันยังไม่อยากตายยย
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ” จะว่าไปเควินก็ช่างสังเกตเหลือเกิน ถึงจะเข้าใจผิดก็เถอะ “เจเขาก็ร่าเริงดี”
เควินยิ้ม รอยยิ้มของเขาอ่อนโยนกับทุกคนแบบนี้เสมอหรือไงนะ
“นั่นคงเพราะคุณเป็นคุณครูที่มีความอดทนกับเด็กเรื่องมาก ผมพอจะดูออกนะว่าคุณไม่ได้อยากมาด้วยวันนี้เลย” เขาพูดด้วยสีหน้าสดใสดี แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ” ฉันรีบปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เขารู้สึกแย่ “พอดีว่าวันนี้ฉันรู้สึกปวดหัวนิดหน่อย”
เควินพยักหน้ายอมรับคำแก้ตัวของฉัน ก่อนเปิดกระเป๋าตัวเองแล้วหยิบของบางอย่างออกมาวางลงตรงหน้าฉัน ฉันจ้องโลหะมันวาวบนโต๊ะด้วยความไม่เข้าใจ
“พวงกุญแจชื่อศิลปินที่ทำมาเป็นของขวัญจับสลากในงานเลี้ยงครบรอบ ชิ้นนี้เป็นตัวเค แทนชื่อผม แล้วก็มีชื่อเต็มผมสลักไว้ด้านหลัง ทำมาแค่ยี่สิบชิ้น” เขาบอกและมองสีหน้างงงันของฉันด้วยรอยยิ้มแสนสุภาพ “คุณต้ากับคุณฝ้ายเล่าให้ฟังว่าคุณติดตามผลงานของผมมาตั้งแต่สมัยเรียน ผมก็เลยขอจากพี่ที่บริษัทมาชิ้นหนึ่ง…ผมให้คุณ”
ฉันพึมพำขอบคุณอย่างงุนงงไม่หาย พยายามควบคุมเสียงหัวใจที่มันเต้นแรงด้วยความดีใจเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ถึงจะรู้ว่าเขาให้ในฐานะศิลปินกับแฟนคลับ แต่นาทีนี้ฉันอยากหลงตัวเองจนตัวสั่น อยากคิดเข้าข้างตัวเอง และอยากบอกตัวเองว่าสายตาที่เควินกำลังมองมาที่ฉันบอกให้รู้ว่าเขาเห็นฉันเป็นคนพิเศษ… แต่คิดอีกที…ไม่เอาดีกว่า เพราะถ้าขืนคิดแบบนั้นอีกพรุ่งนี้ฉันคงต้องไปหาจิตแพทย์
แต่การที่เควินแสนดีขนาดนี้ ต่อให้ในวันพรุ่งนี้จะได้พบกับผู้ชายที่เป็นเนื้อคู่ของตัวเอง ฉันก็คงไม่สามารถลบเควินออกไปจากความรู้สึกได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงช่วยเป็นพยาน ในที่สุดฉันก็ตกหลุมรักเควิน ริชชี่จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วจริงๆ!
ฉันจะเก็บพวงกุญแจชิ้นนี้ไว้ตราบฟ้าสิ้นดินสลาย มันจะกลายเป็นมรดกตกทอดชิ้นสำคัญของลูกหลานฉันในอนาคต วันหนึ่งหากฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายสักคน ฉันจะบอกเขาไปอย่างภาคภูมิใจและไม่ปิดบังว่าพวงกุญแจรูปตัวเคชิ้นนี้คือสิ่งที่เควิน ริชชี่มอบให้ฉันเองกับมือ ฉันจึงรักมันมากเท่าๆ กับแหวนแต่งงานของเรา…หวังว่าสามีในอนาคตของฉันจะไม่โมโหหึงอย่างไร้เหตุผล
ทันใดนั้นเองต้ากับฝ้ายก็เดินกลับมา แล้วเจอเรมี่ก็คุยโทรศัพท์เสร็จพอดี ฉันรีบตั้งสติพร้อมกับคว้าพวงกุญแจสุดที่รักบนโต๊ะมาใส่กระเป๋าตัวเองอย่างรวดเร็ว พอรู้สึกตัวว่าเควินกำลังมองอยู่หน้าก็ร้อนซู่ทันควัน เขาสบตาฉันยิ้มๆ คล้ายกำลังกลั้นหัวเราะ ฉันอายจนอยากมุดหนีไปใต้โต๊ะแต่ก็ทำไม่ได้
อีกนานแค่ไหนฉันถึงจะเลิกเสียอาการเพราะเควินได้นะ…