แต่แล้วเรื่องวุ่นวุ่นวายก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่ออยู่ๆ การคบหากันระหว่างพวกเราสามสาวกับพี่น้องริชชี่ก็ตกเป็นหัวข้อข่าวเด็ดในแวดวงบันเทิง เรื่องนี้ปรากฏทั้งในหนังสือพิมพ์รายวัน หนังสือบันเทิงรายสัปดาห์ และในอินเตอร์เน็ต
ในอินเตอร์เน็ตมีรูปถ่ายของเราในร้านอาหารทะเลถูกเผยแพร่ไปทั่วทุกเว็บไซต์เกี่ยวกับข่าวบันเทิง แม้ส่วนใหญ่จะถูกทางค่ายของเควินแจ้งลบอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องนี้ยังถูกตั้งกระทู้จนกลายเป็นประเด็นร้อนประจำสัปดาห์ คงมีใครสักคนไปเห็นเราในร้านนั้น แล้วแอบถ่ายรูปด้วยโทรศัพท์มือถือที่มีกล้อง ทำให้พวกเราไม่ทันสังเกต แม้ว่าภาพถ่ายจะไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่มันก็ทำให้เดือดร้อนไม่น้อย
หนังสือพิมพ์ไม่เพียงเขียนข่าวถึงเควินเท่านั้น ยังกล่าวถึงต้ากับฝ้ายอย่างเปิดเผยด้วย แม้จะไม่บอกชื่อนามสกุลจริง แต่ก็เอ่ยถึงชื่อเล่นอย่างถูกต้องชัดเจน… ‘น้องต้า-น้องฝ้าย ลูกสาวนักธุรกิจไฮโซ’
โชคดีที่พวกเราไม่ได้ไปด้วยกันแบบครบคู่พอดิบพอดี ไม่ได้แสดงท่าทางสนิทชิดเชื้อถึงขั้นแตะเนื้อต้องตัวซึ่งกันและกัน ระดับความรุนแรงของข่าวจึงไม่มากนัก แต่ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนก็เพราะมี ‘เควิน ริชชี่’ อยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วย ส่วนฉันไม่ได้ถูกเอ่ยถึงเป็นการเฉพาะเจาะจงในทุกหัวข้อข่าวและในกระทู้ต่างๆ แต่ฉันก็มีส่วนช่วยในการลดแรงเสียดทานจากข่าวนี้ได้ เพราะเป็นคนที่ทำให้การจับคู่ไม่สมบูรณ์
“อาจารย์ฉัตรลดาขา ดูข่าวนี่สิคะ เควินเปลี่ยนแฟนใหม่แล้วล่ะค่ะ ถึงจะไม่ใช่นาตาลีแต่พวกเราก็ไม่ชอบอยู่ดีแหละ” เด็กๆ มาชวนคุยตอนฉันกำลังทานข้าวอยู่ในโรงอาหารช่วงพักเที่ยง “แถมยังมีข่าวกับตั้งสองคน ไม่รู้ว่าคนไหนกันแน่ที่เควินชอบ แต่สวยด้วยกันทั้งคู่ แถมยังรวยอีกต่างหาก”
“แต่เขาอาจจะเป็นแค่เพื่อนกันก็ได้ ไปกันเป็นกลุ่มนี่นาไม่ได้ไปเป็นคู่ จริงไหมคะอาจารย์” เด็กสาวเสียงหวานหันมาขอความเห็นจากฉัน
ฉันปั้นหน้านิ่ง แต่ก็ยอมพยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ ทั้งที่ฉันยืนยันไม่รู้กี่ครั้งว่าฉันไม่ได้ชอบเควิน แต่เด็กพวกนี้ก็ยังชอบมาลากฉันเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่เรื่อย
เควินออกมาแก้ข่าวว่าทั้งหมดเป็นแค่เพื่อนกัน ก็มีคนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้างตามปกติของข่าวคนดัง
ต้ากับฝ้ายปวดหัวอย่างหนักเพราะต่างก็ถูกทางบ้านตั้งคำถามเป็นการใหญ่ แม้ว่าจะพยายามอธิบายไปแล้วแต่ก็มีใครยอมเชื่ออย่างสนิทใจ ฝ้ายจึงถูกพ่อแม่ให้คนมาคอยติดตามความเคลื่อนไหวมานับแต่นั้น ฉันเห็นแล้วก็ได้แต่อึดอัดแทน ทว่าก็ช่วยอะไรไม่ได้
ฝ้ายโชคดีที่ตอนนี้คุณหญิงแม่กับคุณพ่อของเธออยู่ต่างประเทศ ไม่อย่างนั้นฝ้ายคงโดนบังคับให้กลับไปอยู่ที่บ้านเป็นการชั่วคราว แม้ว่าทั้งสองคนจะอยู่ต่างประเทศแต่ก็รับรู้ข่าวสารทั้งหมดผ่านทางอินเตอร์เน็ต จึงพากันส่งผ่านความห่วงใยที่ล้นปรี่ข้ามทวีปมาตามเส้นทางการสื่อสารแทบทุกรูปแบบจนฝ้ายเครียดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แม้ว่าครอบครัวของต้ากับฝ้ายจะไม่ได้เป็นกังวลเรื่องการที่พวกเธอคบหากับเควิน ไม่ว่าจะในฐานะใดก็ตาม แต่ท่านไม่ชอบที่ลูกสาวผู้มีภาพลักษณ์ดีมาตลอดของตนต้องตกเป็นข่าวเสียหายทำนองนี้
เจอเรมี่โทรศัพท์มาสอบถามความเป็นไปของพวกเราทุกวัน เขาไม่เดือดร้อนกับเรื่องนี้เพราะไม่ใช่คนมีชื่อเสียงมากมายอย่างเควิน เขาจึงตกอยู่ในสถานการณ์ใกล้เคียงกับฉันที่สุด เพราะฉันเองก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเรื่องนี้เช่นกัน
พักนี้บางครั้งการสนทนากับเจอเรมี่ก็ทำให้ฉันรู้สึกสนุกและเลิกคิดเรื่องน่าปวดหัวต่างๆ ได้ ฉันสนิทกับเจอเรมี่ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังรักษาระยะห่างเอาไว้ให้พอดี ไม่เคยให้ความหวังหรือทำอะไรให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเป็นมากกว่าเพื่อน ฉันจะพยายามย้ำให้เขารู้ตัวว่าฉันมองเขาเป็นเสมือนน้องชาย ซึ่งเจอเรมี่ก็แสดงออกว่าเขาเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ฉันปฏิบัติต่อเขา ซึ่งมันทำให้ฉันสบายใจได้ว่าเจอเรมี่ไม่ได้จริงจังอะไรกับเรื่องของฉันเลย บางครั้งเขาก็ยังพูดถึงผู้หญิงคนอื่นที่เขาถูกใจให้ฉันฟังบ่อยๆ เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันกับเจอเรมี่ก็เป็นแค่เพื่อนกันนั่นแหละ
นอกจากคุยโทรศัพท์กับเจอเรมี่ ฉันก็จะโทรหาพ่อกับแม่บ่อยขึ้น บางครั้งลูกสาวของน้าหรือไม่ก็ญาติคนอื่นๆ เป็นคนมารับสายแทน ทำให้ฉันสบายใจว่าพ่อกับแม่มีญาติพี่น้องรายล้อมและคงไม่เหงา แต่ก็อดละอายใจไม่ได้ที่ลูกสาวคนเดียวอย่างฉันไม่ได้ไปอยู่ด้วย แม่เล่าเรื่องของป้ามณีให้ฉันฟังว่าตอนนี้ป้าทราบแล้วว่าพิมลทำงานอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งและเธอกำลังตั้งครรภ์ คนรักของเธอเป็นพนักงานของโรงแรมเดียวกัน แม่ขอให้ฉันไปหาพิมลที่นั่นและคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นลูกสาวคนเดียวของป้ามณี แม้จะท้องก่อนแต่งและมีสามีที่ป้าไม่ปลื้ม แต่ก็ควรจัดการเรื่องนี้ให้ถูกต้องและย้ายกลับไปอยู่กับป้ามณีเสีย ฉันไม่รับปากว่าจะทำสำเร็จแต่ก็จะลองดู ถึงอย่างไรป้ามณีก็เป็นคนที่มีบุญคุณกับฉัน