“ปู”
ฉันหันขวับไปมองตามเสียงเรียกที่คุ้นหู เจอเรมี่เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าสดใส ขณะที่ฉันนั่งรอพิมลอยู่ตรงล็อบบี้ของโรงแรม
“มาทำอะไรที่นี่ครับ”
“หาเจอน้องสาวที่ทำงานอยู่ที่นี่ เจล่ะมาทำไม”
“มาถ่ายแฟชั่น กองถ่ายอยู่ที่สระว่ายน้ำด้านโน้น เจถ่ายคู่กับเควินนะ เป็นครั้งแรกเลย ไปทักทายเควินกันเถอะ” เจอเรมี่ฉุดฉันให้ลุกขึ้น
“แต่ฉันรอน้องอยู่”
“น้องสาวปูชื่ออะไรล่ะ”
ฉันนิ่วหน้าสงสัย แต่ก็ตอบคำถามเขาไปโดยดี เจอเรมี่ขยิบตาให้และเดินไปที่ฟร้อนต์ ก่อนจะกลับมาหาฉันอีกครั้ง
“ไปกันเถอะ เจขอให้เขาบอกน้องสาวปูว่าถ้ามาแล้วให้รออยู่แถวนี้ก่อน”
ฉันถูกเจอเรมี่ลากมาถึงกองถ่ายแฟชั่นจนได้ เควินซึ่งกำลังทำผมโดยช่างผู้หญิงตัวเล็กๆ หันมามองเราสองคนด้วยสีหน้าฉงน
“คุณปู มาได้ยังไงครับ” เควินถามฉันขณะที่เจอเรมี่กำลังทักทายกับทีมงานกองถ่ายแฟชั่น
“แหม น้องเจ ที่แท้ก็มัวไปรับแฟน ถึงได้มาสายกว่าเควิน แฟนสวยนะคะ” ช่างแต่งหน้าตัวเล็กหน้าตาน่ารักหันมาทักทายฉันอย่างยิ้มแย้ม
ฉันได้แต่ยืนเอ๋อ ปล่อยให้เจอเรมี่ทำทียอมรับว่าเป็นแฟนฉันอย่างหน้าตาเฉย กองบรรณาธิการข่าวจากนิตยสารรีบซักถามเป็นการใหญ่ โชคดีที่เจอเรมี่ปฏิเสธเมื่อเขาขอถ่ายรูปฉัน โดยให้เหตุผลไปมั่วๆ ว่าฉันเป็นครู ถ้ามีข่าวออกไปอาจไม่เป็นผลดีต่ออาชีพ คุณนักข่าวก็แสนดีที่ไม่เซ้าซี้เรื่องมาก แต่ฉันไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เลย การมาอยู่ตรงนี้ทำให้รู้สึกปั่นป่วนในกระเพาะอาหารและมึนศีรษะจนคิดอะไรไม่ออก
“ตกลงว่านี่แฟนน้องเจจริงๆ ใช่ไหมคะ” มีคนถามย้ำ
“ครับ อย่างคราวก่อนที่เราสองคนไปเดต ผมขอให้เควินไปเป็นเพื่อน ส่วนปูเขาก็พาเพื่อนไปอีกสองคน แต่ดันมีข่าวออกมาว่าเควินเป็นแฟนกับเพื่อนของปูเสียได้ เรายังงงอยู่เลย” เจอเรมี่สาธยายเรื่องโกหกและหันมาขยิบตาให้ฉันอย่างสนิทสนม
ไม่นะ…
การปล่อยข่าวของเจอเรมี่ในทำนองนั้นก่อให้เกิดผลดีกับทุกฝ่าย ยกเว้นฉัน และมันก็ทำให้การเจรจากับพิมลในวันนี้พังพินาศไปด้วย เพราะเมื่อเดินออกจากกองถ่ายแฟชั่นฉันก็จิตใจปั่นป่วนและไม่มีสติไปตลอดทั้งวัน ต้ากับฝ้ายขอบอกขอบใจฉันเสียยกใหญ่ แถมยังเข้าใจว่ามันคือเรื่องจริง ทั้งๆ ที่ฉันพยายามอธิบายแต่ทั้งสองคนไม่ยอมฟัง คงเป็นเพราะพวกเธออยากให้มันเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว
เจอเรมี่มาแก้ตัวกับฉันทีหลังว่าเขาทำเพื่อต้ากับฝ้ายและเควิน ซึ่งฉันก็ไม่รู้จะหาคำใดมาด่าเขาดี จึงต้องปล่อยเลยตามเลย ฉันไม่ได้พบกับเจอเรมี่และเควินอีกเลยนับแต่วันนั้น ฉันปฏิเสธการนัดพบของเจอเรมี่ทุกครั้งโดยอ้างว่างานยุ่งเพราะเป็นช่วงใกล้สอบของนักเรียน และยังโกหกเขาด้วยว่าฉันมีผู้ชายที่ชอบอยู่แล้ว เป็นเพื่อนสมัยเด็กที่ยังติดต่อกันอยู่เป็นครั้งคราว
ส่วนเควิน ตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราต้องพบกันอีกแล้ว เควินคงไม่สนใจเรื่องของฉันกับเจอเรมี่มากนัก ต่อให้เข้าใจผิดว่าฉันกับเจอเรมี่เป็นแฟนกันจริงๆ เควินก็คงไม่ห่วง เพราะคงจะคิดว่าผู้หญิงท่าทางอย่างฉันคงไม่เป็นพิษเป็นภัยกับน้องชายตัวร้ายของเขาแน่นอน
ตอนที่เจอเรมี่โกหกคนอื่นอยู่นั้นฉันเอาแต่สับสนเพราะไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใจหนึ่งก็คิดว่ามันอาจดีที่ได้ช่วยเหลือต้ากับฝ้ายเพราะฉันก็ไม่ได้มีอะไรจะเสียหาย และไม่เคยคิดจะเป็นแฟนกับเจอเรมี่จริงๆ แต่อีกใจก็ต่อต้านเพราะว่าไม่อยากให้เควินเข้าใจผิด แต่พอคิดได้ว่าต่อให้เควินเข้าใจผิดมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรแตกต่างกัน… ด้วยเหตุนี้ฉันจึงตัดสินใจยืนเอ๋ออยู่อย่างนั้นจนจบเรื่อง
ตอนนี้ฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นแล้ว ฉันยังมีเรื่องสำคัญต้องทำอีกอย่าง นั่นก็คือการเจรจากับพิมลให้สำเร็จ วันนั้นก็ใช่ว่าจะล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะพิมลเองก็มีท่าทียอมรับฟัง เพียงแต่เธอยังปฏิเสธที่จะกลับบ้านตอนนี้ บอกว่าไม่อยากให้แม่ต้องอับอายเพื่อนบ้าน อย่างน้อยก็อยากคลอดลูกเสียก่อน แต่ป้ามณียืนยันว่าต้องการดูแลพิมลซึ่งกำลังตั้งครรภ์ และไม่อยากให้ทำงานหนัก
ดังนั้นฉันจะหาโอกาสไปเกลี้ยกล่อมพิมลให้สำเร็จให้ได้