ทดลองอ่าน Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์ เล่ม 1 บทที่ 5 – 6 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์

ทดลองอ่าน Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์ เล่ม 1 บทที่ 5 – 6

ชูหลี่ตกตะลึง “ถ้าอย่างนั้นทำไมตอนแรกพวกเราถึงพูดออกมาได้ว่าจะตีพิมพ์สามหมื่นสอง ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะโกรธขนาดนี้ ทำไมโจ้วชวนถึงไม่จุดไฟเผาสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยนะ…อ้อ! มีเบอร์โทรติดต่อเขาไหมคะ ฉันอยากจะโทรไปขอโทษเขา”

“เธอรู้หรือเปล่าว่าการเปรียบเทียบทำให้เกิดความงดงาม นี่คือวิธีการเจรจาต่อรองที่ฉันต้องการจะบอกกับเธอ…ในด้านการทำนิตยสารพวกเรายังใหม่ ถึงแม้ว่าสำนักพิมพ์นี้จะมีมานานมากแล้วก็ตาม แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ทำนิยายแนวแฟนตาซีตะวันออก เราให้นักเขียนทั่วไปอยู่ที่แปดพัน อยากออกหนังสือก็มา ไม่อยากทำก็ไปให้พ้นหน้าเสีย แต่เราให้โจ้วชวนสามหมื่นสอง…สุดท้ายเพิ่มให้เป็นสี่หมื่นห้าพัน

เธอรู้ไหมว่านี่หมายความว่ายังไง ถ้าให้เขาตีพิมพ์ครั้งแรกหนึ่งแสน คิดเป็นค่าลิขสิทธิ์สิบเปอร์เซ็นต์ เขาก็จะแฮปปี้มาก…สมมติว่าหนังสือแต่ละเล่มมีราคาสามสิบห้าหยวน เราต้องให้ค่าลิขสิทธิ์เขาสามแสนห้าหมื่นหยวน! สามแสนห้าเลยนะเธอ! พวกเราต้องแบกรับต้นทุนหนังสือต่อเล่มประมาณยี่สิบสองเปอร์เซ็นต์ เธอลองคิดดูสิว่าเป็นเงินเท่าไร…พวกเราเป็นสำนักพิมพ์นะ เจ้านายเราเป็นนักธุรกิจไม่ใช่หลู่ซวิ่น* นักธุรกิจก็ต้องหาเงิน พวกเราไม่ใช่แหล่งสังคมสงเคราะห์ในอุดมคติ หัวหน้าต้องให้เงินเดือนเธอไว้ซื้อข้าวกิน เธอจะกินอะไร ถ้ามัวแต่เพ้อว่าจะเอาเงินให้โจ้วชวนจนหมด”

ชูหลี่ “…”

“ที่ฉันพูดมีเหตุผลใช่ไหมล่ะ”

ชูหลี่ “…”

มีกับผีอะไรล่ะ

เหล่าเหมียวพูดต่อ “ดังนั้นจำนวนการตีพิมพ์ครั้งแรกคือสี่หมื่นห้าพัน และสำนักพิมพ์ของเราก็จริงใจมาก ให้ฟ้าดินเป็นพยาน เธอควรเอาเรื่องพวกนี้ไปบอกโจ้วชวน ถ้าเปรียบเทียบกับนักเขียนคนอื่นแล้ว จะเห็นว่าเขาได้เยอะกว่าหลายเท่า คนที่มั่นใจในตัวเองสูง จิตใจพวกเขาจะสั่นคลอนทันทีถ้าถูกโน้มน้าว เธอลองแสดงวาทศิลป์โดยการขายฝันให้เขาฟัง บอกว่านี่เป็นโครงการใหม่ของสำนักพิมพ์เรา เราต้องทำอย่างสุดความสามารถเพื่อให้เขาขายหนังสือเล่มนี้ให้ได้ ถึงเวลานั้นต่อให้ใช้วิธีขายหนังสือให้หมดแล้วค่อยเพิ่มจำนวนการตีพิมพ์ในครั้งต่อไปมันก็ไม่ต่างกันเท่าไร! เธอลองดูสิ ถ้าเธอพูดแบบนี้ เขาจะต้องใจอ่อนแล้วตอบตกลงแน่นอน…”

จากนั้นบนใบหน้าของชูหลี่ก็เต็มไปด้วยคำถาม

“ฉันพูดไปหมดแล้ว พรุ่งนี้เธอค่อยลองไปใหม่นะ”

หัวหน้า บ.ก. อย่างอวี๋เหยาปรบมือให้ชูหลี่ขึ้นมาก่อน ทันใดนั้นเองทั้งห้องทำงานต่างก็ปรบมือให้เธอเสียงดังเกรียวกราว มีเพียงชูหลี่เท่านั้นที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยคำถาม

เธอรู้สึกว่าเหล่าเหมียวจะไม่ยอมรามือ หากยังไม่เห็นเธอถูกโจ้วชวนทุบกับตาตัวเองสักครั้ง แล้วให้เขาจ่ายเงินค่าหีบห่อและค่าส่งพัสดุเพื่อส่งเธอมาทาง SF Express**

…ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่อนร่วมงานใหม่ไปเอาความอาฆาตแค้นขนาดนี้มาจากไหน

 

แต่นี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการยืนกดกริ่งที่หน้าประตูรั้วบ้านของโจ้วชวนในวันที่สองเลย

โชคดีที่วันนี้โจ้วชวนดูเหมือนจะตื่นเช้า เพราะไม่มีอาการงัวเงียแต่อย่างใด สิบนาทีให้หลังชูหลี่จึงได้ไปนั่งบนโซฟาในบ้านเขาอย่างราบรื่น แต่ที่โชคร้ายก็คือหลังจากที่ชายหนุ่มเปิดประตูให้เธอ เขาก็ชงกาแฟดื่มและอ่านอีเมลอย่างไม่สนใจ นอกจากจะทำกาแฟสดแบบมือโปรให้ชูหลี่ดื่มหนึ่งแก้วแล้ว เขาก็ทำท่าเหมือนเธอซึ่งนั่งอยู่ข้างเอ้อร์โก่วบนโซฟาเป็นอากาศธาตุ

เป็นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าสำนักพิมพ์มีข้อเสนอที่ต่ำเกินไป ทำให้ชูหลี่ขาดความมั่นใจในตนเอง เธอจึงนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่บนโซฟา ไม่กล้าเอ่ยปากออกมาแม้แต่น้อย

ดังนั้น…หนึ่งชั่วโมงต่อจากนั้น

เมื่อโจ้วชวนดื่มกาแฟและจัดการอีเมลของตนเองเสร็จเรียบร้อยก็หันหน้ามา เขาเห็นหญิงสาวนั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟากับเจ้าสุนัขพันธุ์อลาสกัน มาลามิวต์ ท่าทางช่างดูน่าสงสาร

โจ้วชวน “…”

เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของเจ้าของ เอ้อร์โก่วก็ยกอุ้งเท้าขึ้นมาสะกิดหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ

ชูหลี่ “…”

โจ้วชวนกระแอมแล้วพูดเสียงเรียบ “เมื่อวานเพิ่งตื่นนอนเลยมีอาการงัวเงีย ไม่ได้ทำให้คุณตกใจใช่ไหม”

ชูหลี่ “…”

กลัวจนแทบจะวิ่งหนีแล้ว ขอบคุณนะคะ

ฉันในตอนนี้แค่เห็นท่านเทพก็ฉี่จะราดแล้ว

ชูหลี่ห้ามความคิดตนเองแล้วส่ายหน้า รู้สึกได้ว่าการที่โจ้วชวนเป็นฝ่ายเริ่มต้นบทสนทนาดูเหมือนการแสดง จากนั้นเธอจึงขยับริมฝีปาก…พยายามอยู่นานก็ยังรู้สึกว่าเธอทำตามเทคนิคขายฝันที่เหล่าเหมียวบอกมาไม่ได้จริงๆ ทำได้เพียงดันซาลาเปาที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้าแล้วเปลี่ยนเป็นพูดว่า…

“อาจารย์คะ ทานซาลาเปาสักหน่อยไหมคะ ดื่มกาแฟตอนท้องว่างในยามเช้าไม่ดีต่อสุขภาพ อีกอย่าง อาจารย์เหมือนจะเป็นหวัดอยู่นะคะ”

โจ้วชวนรับซาลาเปามา เหลือบมองสองครั้ง กินเข้าไปคำหนึ่ง แล้วนัยน์ตาสีน้ำตาลก็จ้องไปที่เธอ

“รสชาติไม่เลวเลย ขอบคุณนะ แต่ผมอยากจะเตือนคุณไว้ ซาลาเปานี่ไม่คู่ควรแก่ค่าลิขสิทธิ์แสนกว่าหยวนหรอกนะ”

ชูหลี่ “…”

ทันใดนั้นชูหลี่ก็ก้มหน้ามองดูสัญญา แล้วค่อยๆ เก็บกลับไปเงียบๆ…เธอลังเลอยู่พักหนึ่งและยืดตัวตรง ก่อนจะอ้างคำพูดที่เหล่าเหมียวเคยบอกมาพูดให้เขาฟังอย่างตะกุกตะกัก แต่เมื่อพูดไปเรื่อยๆ ก็คล่องขึ้นจนเกือบจะมั่นใจกับคำพูดของตนเองแล้ว ดังนั้นในตอนท้ายเธอจึงใช้วาทศิลป์กึ่งจริงกึ่งเสแสร้ง

“อาจารย์คะ เซ็นสัญญาให้พวกเราเถอะนะคะ ให้โอกาสพวกเราสักครั้งเถอะค่ะ พวกเราจะขยันทำหนังสือเล่มนี้ออกมาให้ดี…ขอเพียงแค่มันเสร็จสมบูรณ์ หลังจากนี้ไม่ต้องพูดถึงการตีพิมพ์ครั้งแรกที่แสนเล่มหรอกค่ะ ต่อให้เป็นสองแสนพวกเราก็จะตั้งใจคว้ามาเพื่อคุณให้ได้!”

โจ้วชวนบีบซาลาเปาที่เหลืออยู่ คิดใคร่ครวญแล้วยิ้ม “…คำพูดช่างขายฝันเสียจริง คุณคิดว่าตัวเองเป็นหม่าเหลียง* ผู้มีพู่กันวิเศษหรือไง”

ชูหลี่ “…”

ท่านเทพคะ คุณจะเชื่อไหมว่าถ้าฉันถ่ายรูปคุณในสไตล์นี้แล้วโพสต์ลงในเวยป๋อจะต้องมีคนแชร์เป็นล้าน บดขยี้โทมินจุน** ได้แน่ๆ แฮชแท็ก #ช็อก! ยายตัวร้ายกับนายต่างดาว!*** ใบหน้าที่แท้จริงขององค์ชายผู้อ่อนโยนดั่งหยกคือนายตัวร้าย

โจ้วชวนผู้ที่ไม่รู้ว่ากำลังถูกตำหนิ ยื่นซาลาเปาที่เหลือในมือคืนให้ชูหลี่และพูดสั้นๆ ว่า “กินเสีย”

ชูหลี่เหลือบมองซาลาเปาที่อยู่ในมือเขา แสดงสีหน้าราวกับว่าซาลาเปานั้นโรยยาเบื่อหนูลงไป เธอจึงทำท่าตกใจแล้วโบกมือปฏิเสธ

“ฉันเคยกินแล้วค่ะ ซาลาเปานี้ซื้อให้คุณโดยเฉพาะ คงจะไม่ดีถ้ามามือเปล่า…”

งั้นก็ซื้อมาสองลูกเลยสิ?

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com