Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์
ทดลองอ่าน Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์ เล่ม 1 บทที่ 5 – 6
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว กวาดตามองดูหญิงสาวที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม เธอดูซื่อบื้อเล็กน้อย แต่อาจเป็นเพราะความร้อนของซาลาเปาที่ถืออยู่ในมือ เขาจึงรู้สึกว่าทำไมเธอช่างดูสบายตา ต่างจากพวกเหล่าเหมียวราวฟ้ากับดิน
และคำว่า ‘ซื้อให้คุณโดยเฉพาะ’ หกพยางค์นี้ฟังแล้วก็รื่นหูเป็นพิเศษ
เมื่อทานของคนอื่นแล้ว ดังนั้นพอเอ่ยปาก น้ำเสียงของชายหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นนุ่มนวลขึ้นมาเล็กน้อย
“สาวน้อย คุณอย่ามาเสียเวลากับผมเลย สี่หมื่นห้ามันต่ำเกินไป ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เงิน…แต่หลังจากเรื่องนี้หลุดออกไป ผมจะถูกคนเขาหัวเราะเยาะเอาได้ หยวนเยวี่ยน่ะเป็นบริษัทใหญ่ไม่เป็นไรหรอก แต่คนอื่นเขาจะพูดถึงผมว่ายังไงล่ะ เขาจะพูดกันได้ว่าที่นี่ทำให้โจ้วชวนลดตัวลงมากอดขาบริษัทพวกเขา”
ยากนักที่คนเราจะพูดออกมาอย่างจริงใจ ชายหนุ่มพูดขึ้นขณะที่โบกมือให้กับเจ้าหมาที่นั่งอยู่ข้างกายชูหลี่ไปด้วย เมื่อเอ้อร์โก่วกระโดดลงจากโซฟามายังข้างกาย เขาก็ค่อยๆ ป้อนซาลาเปาในมือเข้าไปในปากของเอ้อร์โก่ว…ชายหนุ่มปฏิบัติต่อสัตว์เลี้ยงของเขาอย่างใจกว้างและอบอุ่น ส่วนชูหลี่มองไปที่เขาอย่างตรงไปตรงมา…
ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่โจ้วชวนพูด เธอก็รู้สึกว่าเขาพูดไม่ผิดเลยสักนิด…ก่อนจะจ้องไปที่หน้าตาอันหล่อเหลาและเฉยเมย ราศีของเขาแผ่กระจายออกมาอย่างสว่างไสว ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าตนเองไม่เหลือความหวังใดๆ แล้ว…
ความหวังสุดท้ายนั้นไม่ใช่วาทศิลป์ของเหล่าเหมียว แต่กลับเป็นมือของโจ้วชวนที่ยื่นมาให้
เธอฉุกคิดขึ้นมาได้ในทันใด ที่โจ้วชวนเป็นแบบนี้เพราะจำนวนการตีพิมพ์ครั้งแรกนั้นต่ำเตี้ยจนเกินไป เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติกัน จึงรู้สึกเหมือนโดนดูถูกและมีน้ำโหขึ้นมาทันที อาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นคนที่มีความภูมิใจและหยิ่งในศักดิ์ศรีมาก…
และคนแบบนี้…
ชูหลี่นั่งยืดตัวตรง “แต่ถ้าหนังสือที่ตีพิมพ์ครั้งแรกสี่หมื่นห้าพันเล่มขายหมดในทันที สัญญาชั่วคราวนี้อาจปรับเป็นเท่าตัวก็ได้นะคะ อาจารย์คะ ก่อนหน้านี้หนังสือของอาจารย์ก็ขายได้เป็นแสนๆ เล่ม แต่ครั้งนี้กลับไม่มั่นใจว่าหนังสือตัวเองจะขายได้เยอะขนาดนั้นเหรอคะ”
โจ้วชวนตะลึงงัน ทันทีที่ได้ยิน เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองเธอแวบหนึ่งและยิ้มออกมาเผยให้เห็นฟันขาว
“นี่คุณยั่วยุผมเหรอ”
หญิงสาวเริ่มแสดงความเข้มแข็งเพื่อให้โจ้วชวนยอมรับความพ่ายแพ้และแสดงความอ่อนแอออกมา เธอเดินนวยนาดและยิ้มอย่างสวยงาม ก่อนจะถือซาลาเปามาให้เจ้าหมาที่นอนหมอบอยู่ข้างกายเป็นการปลอบขวัญ
“ฉันจำได้ คุณเคยพูดว่า ‘หนังสือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำลั่ว’ เป็นนิยายเล่มใหม่ที่สุดยอดมากของคุณ”
โจ้วชวนเคยพูดไว้ แต่ถ้าเขาปฏิเสธไม่เท่ากับว่าเขากลืนน้ำลายตัวเองหรือ ดังนั้นจึงได้แต่เงียบไป ส่วนชูหลี่ก็แอบสังเกตสีหน้าของเขาอย่างระมัดระวัง เสียดายที่ชายหนุ่มไม่แสดงอารมณ์ใดผ่านทางสีหน้าเลย
สิบนาทีต่อมา โจ้วชวนก็ลุกขึ้นยืน ก้มลงมองใบหน้าเรียวเล็กของหญิงสาวที่มองตนเองอยู่บนโซฟาแล้วพูดขึ้น
“ผมมีความมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว แต่ว่ามันคงไม่ได้จริงๆ สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยไม่มีเสน่ห์มากพอที่จะดึงดูดให้ผมร่วมงานกับพวกคุณ…ขอบคุณสำหรับซาลาเปาของคุณ ถึงแม้ว่ากาแฟของผมจะไม่ได้ราคาถูกเลยก็ตาม เอ้อร์โก่ว ส่งแขก”
“โฮ่ง!”
ชูหลี่ “…”
วันนี้โจ้วชวนเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ
ทัศนคติอันแสนเย่อหยิ่งของเขาทำให้ผู้คนสิ้นหวัง
ชูหลี่รู้ดีว่าหากตอนนี้พูดอะไรออกไปคงจะยิ่งน่ารำคาญ ตัวเธอเองก็ไม่มีความมั่นใจใด จึงทำได้เพียงยืนขึ้นก่อนวางนามบัตรลงแล้วพูดประโยคที่ฟังดูไร้สาระว่าถ้าหากเปลี่ยนใจ สามารถติดต่อกลับได้ตลอดเวลา ก่อนจะบอกลาเขาด้วยเสียงอันแผ่วเบา จากนั้นชายหนุ่มก็มองหญิงสาวที่ก้มหัวให้แล้วเดินจากไป…
ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกจากโถงทางเดิน ทันใดนั้นหางตาก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่คุ้นเคย จึงหยุดเดิน เลิกคิ้วสูง ก่อนจะถอยหลังสองก้าวแล้วย่อตัวลง…อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปยังกองขยะเก่าที่วางอยู่ข้างห้องโถงซึ่งถูกห่อไว้เหมือนกำลังจะเอาไปทิ้ง แล้วดึงคอลเล็กชั่นภาพวาดออกมาหนึ่งฉบับ
เพียงแค่เห็นหน้าปกชูหลี่ถึงกับตะลึงตาค้าง นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะได้เจอสิ่งนี้ในบ้านของโจ้วชวน…คาดไม่ถึงว่าจะเป็นคอลเล็กชั่นภาพวาดของแม่นางเจี่ยน แถมยังเป็นรุ่นลิมิเต็ดอีดิชั่นห้าสิบฉบับแรกพร้อมลายเซ็นด้วย
เมื่อก่อนเธอกับ Mr. L เคยช่วยกันแย่งชิงคอลเล็กชั่นภาพวาดนี้ถึงสี่ห้าวันจนนอนหลับไม่สนิทอยู่หลายคืนเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ได้มาไว้ในครอบครอง ก่อนจะร้องไห้ฮือๆ ด้วยกันทั้งคืน เพราะตื่นเต้นจนทนไม่ไหว…ในที่สุดคอลเล็กชั่นภาพวาดฉบับนี้ได้กลายมาเป็นเหมือนหนังสือรับรองความเป็น ‘ติ่งผู้คลั่งไคล้แม่นางเจี่ยน’
…โจ้วชวนมีคอลเล็กชั่นภาพวาดฉบับนี้ได้อย่างไร
เธอถือตรงมุมของคอลเล็กชั่นภาพวาดไว้แล้วหันไปหาโจ้วชวนด้วยสีหน้ามึนงง ไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจเอาไว้ได้
“อาจารย์คะ คุณก็ชอบแม่นางเจี่ยน…”
ยังพูดไม่ทันจบประโยค เธอหันไปมองโจ้วชวนอีกครั้ง และในวินาทีนั้นก็พบว่าเขาแปลงร่างไปแล้ว…
เหลือเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน เขาใช้มือข้างหนึ่งยันโซฟาเอาไว้ กระโดดขึ้นสูงยิ่งกว่าหลิวเสียง* จากนั้นก็แปลงร่างเป็นยูเซน เซนต์ลีโอ โบลต์** นักวิ่งร้อยเมตรที่รีบวิ่งมาตรงหน้าเธอแล้วแย่งหนังสือไป!
…ชูหลี่ไม่เคยเห็นหนุ่มเนิร์ด*** ที่คล่องแคล่วว่องไวเช่นนี้มาก่อน และในเวลานี้หนุ่มเนิร์ดกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ เขาก้มตัวเพื่อยัดคอลเล็กชั่นภาพวาดฉบับนั้นกลับไปที่กองขยะเก่าอย่างรวดเร็ว
“หลานสาวผมชอบน่ะ ปิดเทอมฤดูร้อนนี้เขามาเที่ยวเล่นที่บ้านผม…สำหรับนักวาดนอกกระแสแบบนี้ เฮ้อ! ยังไม่คู่ควรมาล้างเท้าให้ผมเลย”
เมื่อพูดจบก็จามออกมา ปลายจมูกนั้นเริ่มแดง
ชูหลี่ยังรู้สึกช็อกไม่หาย เธอได้แต่จ้องใบหน้าอันหล่อเหลาสง่างามของชายหนุ่มที่กำลังเหยียดหยามด้วยท่าทีเย็นชาและนิ่งเฉย…
‘ยังไม่คู่ควรมาล้างเท้าให้ผมเลย’
‘ยังไม่คู่ควรมาล้างเท้าให้ผมเลย’
‘ยังไม่คู่ควรมาล้างเท้าให้ผมเลย’
ชูหลี่ “…”
ร้ายกาจเหลือเกิน
ท่านเทพ…เป็นสาวน้อยซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์**** หรอกเหรอ
* เจ้าหมาวัยมัธยม เป็นถ้อยคำที่ผู้พูดอยู่ในวัยมัธยมใช้เสียดสี เยาะเย้ยตนเองที่เรียนหนักและเหนื่อยกับการใช้ชีวิตเหมือนหมาตัวหนึ่ง
* หลงหยาง อ้างอิงมาจากชื่อหลงหยางจวิน ชายรูปงามผู้เป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์เว่ยหวังในสมัยจั้นกั๋ว ภายหลังใช้เป็นคำสแลงเพื่อกล่าวถึงชายรักร่วมเพศ
** ‘ตาแก่เข็นรถ’ เป็นบทความที่เขียนเกี่ยวกับการแนะนำท่าร่วมรักของชายชรา และเป็นชื่อเรียกท่าร่วมรักท่าหนึ่ง
* อลาสกัน มาลามิวต์ เป็นสุนัขลากเลื่อนแถบอาร์ติกที่เก่าแก่ที่สุดพันธุ์หนึ่ง หูตั้งเป็นรูปสามเหลี่ยม กระบอกปากเรียวเล็กน้อย ขนมีหลายสี ขนชั้นนอกหยาบหนา ขนชั้นในอ่อนนุ่ม
* ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ เป็นสุนัขสายพันธุ์โบราณ มีถิ่นอาศัยอยู่ในทิเบตหรือบริเวณเอเชียกลางไปถึงประเทศอินเดีย มีอุปนิสัยที่หวงถิ่นฐานและดุร้ายมาก สูงราว 61 ถึง 72 เซนติเมตร
* หลู่ซวิ่น เป็นนามปากกาของ โจวจางโช่ว นักเขียนชาวจีนที่สำคัญคนหนึ่งของคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยมากจะเป็นผู้เขียนวรรณคดีจีนสมัยใหม่ รวมทั้งวรรณคดีคลาสสิกจีน
** SF Express เป็นชื่อบริษัทขนส่งพัสดุของจีน
* หม่าเหลียง ตัวละครเด็กหนุ่มชาวนาจากนิทานเรื่อง พู่กันวิเศษ (Magic Brush) ผู้ซึ่งสามารถเสกสรรสิ่งต่างๆ ให้กลายเป็นจริง เพียงแค่จรดปลายพู่กัน
** โทมินจุน ชื่อพระเอกในซีรี่ส์เกาหลี เรื่องยายตัวร้ายกับนายต่างดาว โดยเป็นมนุษย์ต่างดาวที่อยู่บนโลกมนุษย์มากว่า 400 ปี หน้าตาหล่อเหลา แต่มักจะมีสีหน้าเรียบนิ่งเสมอ และนิสัยเย็นชา
*** ‘ยายตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ละครโทรทัศน์แนวรักโรแมนติกดราม่าของเกาหลี ถ่ายทอดเรื่องราวของชายจากต่างดาวที่มาติดอยู่บนโลกมนุษย์และเกิดความรักความผูกพันกับดาราสาวคนดัง
* หลิวเสียง เป็นอดีตแชมป์โลกและเหรียญทองโอลิมปิกในการแข่งขันวิ่งกระโดดสูงชาวจีน
** ยูเซน เซนต์ลีโอ โบลต์ เป็นอดีตนักวิ่งระยะสั้นชาวจาเมกา โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นนักวิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
*** เนิร์ด คือคนที่ดูมีสติปัญญาดีกว่าคนปกติ ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และส่วนใหญ่จะถูกเพื่อน ๆ มองว่าเป็นเด็กเรียนหรือหนอนหนังสือ
**** สาวน้อยซากุระ เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่อง ‘ซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์’ เธอเป็นสาวน้อยอายุ 10 ขวบ ซึ่งชีวิตพลิกผันต้องกลายเป็นมือปราบไพ่ทาโรต์ เป็นผลงานของ Clamp กลุ่มนักวาดที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 1996
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 5 ม.ค. 66 เวลา 12.00 น.