บทที่ 62
ชูหลี่ทิ้งใบแนะนำหนังสือฉบับทดลองพิมพ์ไว้ให้โจ้วชวนเชยชม ส่วนตัวเองส่งไฟล์ให้เหล่าเหมียวและอวี๋เหยาคนละฉบับ พร้อมกันนั้นก็ใช้โอกาสนี้บอกข่าวร้ายเรื่องที่เจียงอวี่เฉิงไม่ยอมเซ็นสัญญากับพวกเขา พอทำทุกอย่างเรียบร้อยเธอก็กระโดดขึ้นเตียงเตรียมจะนอน…ก่อนนอนมีข้อความเข้ามาว่าอวี๋เหยาได้รับไฟล์ของเธอแล้ว แล้วสักครู่ก็ตอบกลับมา…
อวี๋เหยา : ใบแนะนำหนังสือยังไม่โอเค ตรงที่บรรยายเกี่ยวกับแม่นางเจี่ยนดูเรียบไปหน่อย ยังไม่น่าสนใจพอ แก้อีกหน่อยนะ ต้องเขียนให้ดูเกินจริงเข้าไว้
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : …แค่เขียนในใบแนะนำหนังสือ ฉันก็จะอ้วกแล้วนะคะ
อวี๋เหยา : เชิญเลย อ้วกเสร็จแล้วก็มาเขียนให้ฉันต่อ
อวี๋เหยา : ส่วนสัญญาเรื่อง ‘สวนสนุกที่หายไป’ เธอไม่ต้องกังวล ฉันเดาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเจียงอวี่เฉิงจะไม่ยอมเซ็นสัญญา ถ้าเดาไม่ผิดเขาน่าจะกำลังรอดูหลัง ‘หนังสือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำลั่ว’ ของโจ้วชวนวางขายแล้วค่อยตัดสินใจ ถึงยังไงเขาก็เป็นเจียงอวี่เฉิง อยู่กับความเป็นจริงมากกว่าโจ้วชวน พูดไปเธออาจจะไม่เชื่อ แต่ถ้าโจ้วชวนอยู่ในยุคโบราณก็คงเป็นกวีแนวโรแมนติกตามแบบฉบับดั้งเดิมทำนองเดียวกับหลี่ไป๋* นั่นแหละ
ชูหลี่ “…”
หญิงสาวจับโทรศัพท์มือถือได้ไม่กี่วินาทีสมองก็ว่างเปล่าเสียแล้ว อยู่ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้มีบางคนเปรียบเทียบตัวเองกับตัวแทนจัดจำหน่ายว่าเป็น ‘น้ำผึ้งกับหมี’ การเปรียบเทียบแบบนี้…แปลว่าตัวแทนจัดจำหน่ายคือวินนี่เดอะพูห์** งั้นเหรอ
ดูสิ ช่างเป็นความคิดที่โรแมนติกมาก
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : ฝาโลงของหลี่ไป๋แทบจะปิดไว้ไม่อยู่แล้ว ทำไมหัวหน้า บ.ก. ต้องทำให้ฉันนอนไม่หลับในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยคะ
อวี๋เหยา : ฮ่าๆๆ!
อวี๋เหยา : อืม ใช่แล้ว ฉันเห็นเจียงอวี่เฉิงโพสต์รูปตั๋วหนังสามใบในเวยป๋อ…โจ้วชวนก็ไปด้วยใช่ไหม ทำไมเธอไม่แชร์ต่อล่ะ ที่ไปดูหนังก็เสียเปล่าน่ะสิ โอกาสคุยโวโอ้อวดอย่างนี้พลาดได้ยังไงกัน
ชูหลี่ “…”
คุยโวโอ้อวด? คุยโวโอ้อวดกับใคร
สำนักพิมพ์ซินตุ้นเหรอ
โบกผ้าเช็ดหน้าด้วยความลำพองใจอย่างเห็นได้ชัด : ดูสิ นักเขียนที่พวกคุณใช้จำนวนตีพิมพ์ครั้งแรกแสนกว่าเล่มก็ซื้อตัวไปเซ็นสัญญาไม่ได้ แต่ถูกพวกเราหลอกมาได้ด้วยบัตรกำนัลดูหนังมูลค่าสิบแปดหยวนใบเดียว ฮ่าๆๆ น่าโมโหไหมล่ะ
ชูหลี่สับสนไปหมด แต่ก็ไม่อยากเอาคำถามไร้สาระประเภทนี้ไปถามอวี๋เหยา จึงทำได้เพียงแค่ล็อกอินเข้าไปในเวยป๋อของนิตยสารแสงแห่งจันทราเพื่อแชร์โพสต์ของเจียงอวี่เฉิง
‘ดีใจอย่างยิ่งที่ได้ดูหนังเรื่องนี้กับอาจารย์จนจบ ได้รับทั้งประโยชน์และได้แบ่งปันความรู้สึกร่วมกันมากมาย สู้ไปด้วยกันนะ [ยิ้ม]!’
…แม้ข้อความจะเรียบง่ายอย่างไรก็ไม่อาจห้ามไม่ให้นักอ่านบางส่วนเข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์ได้อยู่ดี…
‘โอ้พระเจ้า ไปดูหนังกับท่านเทพเจียงอวี่เฉิง! อิจฉาสุดๆ!’
‘นี่เรียกได้ว่าเป็นสิทธิพิเศษเลยนะ…ได้ยินมาว่าเจียงอวี่เฉิงก็หล่อไม่เบา เป็น บ.ก. นี่ดีขนาดนี้เลยเหรอ อีกอย่างที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยเซ็นลายเซ็นให้ใคร ปกติแฟนคลับจะเจอเขาสักครั้งก็ยากเย็นเหลือเกิน…ว่าแต่มีตั๋วหนังสามใบ อีกใบคงไม่ใช่ของโจ้วชวนใช่ไหม เหอะๆ’
‘QAQ ฉันอยากเป็น บ.ก. ที่สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยจังเลย ท่านเทพเจียงอวี่เฉิงของฉัน อ๊าๆๆ!’
‘ดูจากลักษณะการพูด แอดมินน่าจะเป็นผู้หญิงใช่ไหม…ไปดูหนังกับเจียงอวี่เฉิงและโจ้วชวนพร้อมกันในครั้งเดียวเลยเหรอ’
‘ไม่รู้ว่าทำไมรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไร…’
‘ยังตั้งใจแชร์ต่ออีกต่างหาก ดูแล้วก็ดูไปสิ อยู่เงียบๆ ไม่ได้เหรอ ขี้อวดจัง’
ชูหลี่ไล่อ่านคอมเมนต์บางส่วน ในจำนวนประมาณเจ็ดถึงแปดคอมเมนต์จะมีข้อความแปลกๆ สักหนึ่งข้อความ…เธอแคปภาพหน้าจอคอมเมนต์เหล่านี้ส่งไปในกลุ่มวีแชตกอง บ.ก. นิตยสารแสงแห่งจันทรา อวี๋เหยาพิมพ์ ‘…’ มาเป็นคนแรก ส่วนอาเซี่ยงตามมาติดๆ…
ช้างที่บินได้ : ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ แรงเกินไปแล้ว
อวี๋เหยา : …ฉันก็งงเหมือนกัน ขอโทษด้วยนะชูหลี่ ฉันไม่เคยมีนักเขียนชายที่หน้าตาดีและมีความเป็นไอดอลขนาดนี้มาก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าแค่ไปดูหนังจะมีแฟนคลับไม่ชอบใจด้วย
จิ๊บๆๆๆ : คงไม่ใช่มือปืนไซเบอร์ของซินตุ้นฝั่งนั้นส่งมานะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!
ชูหลี่คิดในใจ ‘ฮ่าๆๆๆ’ อะไรกันล่ะ ตลกตรงไหนยะ ฉันหัวร้อนไปหมดแล้วเนี่ย