Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์
ทดลองอ่าน Moonlight เพลงรักใต้แสงจันทร์ เล่ม 1 บทที่ 9
ชูหลี่ยิ้มพลางพูดออกมาเบาๆ “ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน” พร้อมกับเดินออกจากห้องทำงานไป เมื่อออกมาด้านนอกประตูก็เดินมายังทางเดินที่อยู่ไกลจากห้องทำงาน…ได้ยินเสียงรองเท้าของตนกระทบกับพื้นจนเกิดเป็นเสียงสะท้อนขึ้น จึงหยุดเดินและมองไปยังด้านหลัง
จากนั้นเธอก็ก้มลงไปมองขาของตน และตอนนี้เธอก็ยังสั่นอยู่หน่อยๆ ในหัวเต็มไปด้วยคำว่า ‘ทำไม’ ‘เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง’ และ ‘เกิดอะไรขึ้น’ หญิงสาวใช้มือที่สั่นเทาหยิบโทรศัพท์ออกมา กดดูข้อความที่ยังคงบันทึกไว้ ‘พรุ่งนี้ตอนสิบเอ็ดโมงครึ่งนำสัญญาเข้ามาด้วย ถ้าเลยเวลาจะไม่รอ’ เธอลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะกดโทรออกไปหาปลายสาย เสียงสัญญาณดังขึ้นเพียงสามครั้งก็มีคนรับสายอย่างรวดเร็ว
“ฮัลโหล”
“สวัสดีค่ะท่านเทพโจ้วชวน ชูหลี่นะคะ คือว่า…ที่เป็น บ.ก. จากสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยที่ได้นำสัญญาไปให้เซ็นเมื่อเช้านี้ค่ะ”
ปลายสายมีเสียงของสุนัขเห่าออกมา “โฮ่งๆ” ด้วยเสียงอันดัง สถานการณ์แลดูวุ่นวายมาก ชูหลี่อดทนรอได้สักพัก จากนั้นชายหนุ่มที่ปลายสายก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“มีเรื่องอะไร”
ชูหลี่บีบโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือเบาๆ “สวัสดีค่ะ อาจารย์ ต้องขออภัยที่รบกวนอีกครั้งนะคะ คือแบบนี้ค่ะ ฉันเพิ่งกลับมาถึงที่สำนักพิมพ์ ก็ได้คิดอยู่ครู่หนึ่งว่าจะขอความกรุณาเก็บเรื่องที่เราเซ็นสัญญาในวันนี้ไว้เป็นความลับไปจนถึงอาทิตย์หน้าจะได้หรือเปล่าคะ…”
“คุณคิดจะทำอะไร”
“…” ชูหลี่หลับตาลง “ดูเหมือนว่าจะไม่สะดวกเริ่มงานในทันทีค่ะ ฉันกลัวนิดหน่อย…ไม่ใช่ เอ่อ! ฉันขอร้องล่ะค่ะ ได้ไหมคะ”
ปลายสายเริ่มตกอยู่ในความเงียบงัน
ในที่ที่ชูหลี่ไม่สามารถมองเห็นได้ โจ้วชวนเลิกคิ้วขึ้นและยกโทรศัพท์มือถือออกห่างจากข้างหูแล้วหรี่ตามอง ราวกับว่าเขามองเห็นอีกฝ่ายกำลังชักกระตุกด้วยความตื่นตกใจอะไรบางอย่างอยู่ในขณะนี้…
พูดจาสะเปะสะปะ น้ำเสียงฟังดูแล้วช่างน่าสงสาร เป็นอะไรไปเนี่ย
เมื่อครู่นี้ไม่ได้ทำตัวลิงโลดอยู่หรอกเหรอ
โจ้วชวนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ในช่วงเวลานั้นเขาเข้าคิวคิวหลักเพื่อดูอะไรบางอย่าง ก็เห็นในลิสต์รายชื่อเพื่อนที่เป็นรูปโพรไฟล์ของเหล่าเหมียวปรากฏโพสต์ข้อความขึ้นมา หยุดดูครู่หนึ่ง จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้แล้ว
อีกด้านหนึ่ง
ขณะที่ชูหลี่รอนานเป็นชาติอย่างหงุดหงิดใจอยู่นั้น ในที่สุดปลายสายก็ตอบกลับมาด้วยคำพูดที่ว่า ‘ตามใจคุณแล้วกัน ไม่ว่าพวกคุณจะเล่นกลอะไร ขอแค่อย่ามากระทบผมก็พอ’ หลังจากนั้นเขาก็ได้วางสายไป
…ชูหลี่จ้องมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสายไปแล้ว เธอกดกลับมาที่หน้าจอหลักแล้วเหม่อลอยอยู่ประมาณสี่ห้านาที หลังจากนั้นจึงเรียกสติกลับคืนมาแล้วเร่งฝีเท้าไปล้างมือที่ห้องน้ำ เพื่อให้ดูเหมือนว่าตนเพิ่งเข้าห้องน้ำมา ปรับสีหน้าและอารมณ์ให้ดีขึ้นตรงหน้ากระจกและรีบเดินกลับไปยังห้องทำงานอีกครั้ง
หลังจากนั้นสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยก็ให้พนักงานเริ่มทำงานในตอนเช้าเวลาเก้าโมงครึ่ง หลังจากที่ได้รับคำเตือนจากอวี๋เหยาแล้ว ตอนเช้าของทุกวันชูหลี่จะมาถึงที่ทำงานประมาณสิบโมงห้าสิบนาที ไม่เร็วและไม่สายจนเกินไป เธอทำประหนึ่งว่าไปบ้านโจ้วชวนมาแล้วกลับมาที่ทำงาน และรายงานความคืบหน้าเหมือนถูกเชือดกลับมา…แต่แท้จริงแล้วสัญญาที่เซ็นเรียบร้อยฉบับนั้นอยู่ในกระเป๋าที่เธอแบกไปมาอย่างไม่มีปัญหาใดๆ
ในที่สุดสัปดาห์แรกแห่งการทำงานก็จบลง
วันหยุดสุดสัปดาห์หญิงสาวนอนอยู่ในห้อง และทำใจปล่อยวางทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าร้ายใคร…พูดตรงๆ ก็คือไม่รู้จะคุยกับใคร เพราะเดิมทีแล้วเธออยากจะระบายเรื่องที่น่าอึดอัดใจเกี่ยวกับพวกคนในที่ทำงานให้ Mr. L ฟังตั้งแต่คืนวันพุธ แต่น่าแปลกที่พบว่าในคิวคิวไม่มีรายชื่อเขาอยู่ เธอเลยคิดว่าตนถูกบล็อกหรืออย่างไร เมื่อลองสอบถามคนที่อยู่รอบกายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมกันที่รวมแล้วมีแค่สามคน ท้ายที่สุดก็ได้คำตอบจากเพื่อนคนหนึ่งว่า ‘ช่วงนี้ไม่เห็น Mr. L ตอบกลับมาเลย’
ชูหลี่อดทอดถอนใจออกมาไม่ได้ รู้สึกว่าตนกำลังซวยและตกอยู่ในช่วงเคราะห์หามยามร้าย
เพื่อนร่วมงานต่างพุ่งเป้ามาที่เธออย่างน่าแปลกใจ แม้แต่เพื่อนที่รู้จักกันมาสามปีกว่าซึ่งไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันยังบล็อกเธออย่างน่าประหลาด ด้วยเหตุนี้เธอจึงรู้สึกงุนงงต่อการถูกทั้งโลกทอดทิ้ง
เฮ้อ…
ความรู้สึกพังทลาย
ชีวิตช่างไร้ความหมาย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชูหลี่ไม่รู้คือไม่ใช่แค่เธอเพียงคนเดียวที่ต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันยากลำบากนี้
ตั้งแต่คืนวันพุธ ณ ที่พักในเขตพื้นที่หรูใจกลางเมือง G ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่กระวนกระวายใจเป็นเวลาสามวันสามคืนเต็มเช่นกัน
ในคืนวันพุธ เมื่อโจ้วชวนเขียนนิยายออนไลน์เสร็จ เขาดูข่าวบนอินเตอร์เน็ตอย่างหมดอาลัยตายอยาก เมื่อเห็นข่าวแปลกๆ ก็อยากจะแชร์ จึงกรอกรหัสเพื่อเข้าสู่ระบบในบัญชี ‘Mr. L ที่หายไป’ จากนั้นก็เปิดดูลิสต์รายชื่อเพื่อน ในวินาทีแรกเขาหารูปโพรไฟล์ของเจ้าลิงไม่เจอ ทำเอาตกใจไปชั่วขณะ แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเกิดเรื่องไม่ลงรอยกัน จึงลบรายชื่อเธอทิ้งไปแล้ว
…ลบไปแล้ว ก็ถือว่าตัดปัญหาไปอย่างถาวร
ลบไปก็ดีเหมือนกัน
เขาพยายามเมินเฉยต่อลิงก์ที่คัดลอกไว้เพื่อเตรียมแชร์ให้ใครบางคนอ่าน หันไปเปิดข้อความที่ยังไม่ได้อ่านจำนวนมากแทน จากนั้นก็พบว่าคนที่ทิ้งข้อความไว้ล้วนแต่เป็นเพื่อนของเขาและเจ้าลิง…
ผีที่อยู่ด้านหลังเธอ : นาย L เจ้าลิงถามว่านายไปไหนเสียแล้ว…เกิดอะไรขึ้นกับนายหรือเปล่า ลบรายชื่อเธอทิ้งแล้วเหรอ ทะเลาะกันเหรอ เธอบอกว่าพวกนายไม่ได้ทะเลาะกันนี่นา!
ดอกไม้ป่า : เกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับเจ้าลิง
สบายสบายในสายลม : เจ้าลิงหานายอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับพวกนาย หรือว่านายจะโดนแฮกไปแล้ว
สบายสบายในสายลม : ออนไลน์อยู่หรือเปล่า
สบายสบายในสายลม : เจ้าลิงร้องไห้น่าสังเวชมาก แทบพลิกแผ่นดินหาสามีของเธอแล้วตอนนี้