โจ้วชวน “…”
ร้องไห้กับผีอะไรล่ะ
กำลังดีใจกอดสัญญาของโจ้วชวนจนนอนไม่หลับอยู่น่ะสิ
เมื่อจ้องไปที่คำว่า ‘สามี’ คำนี้ทำให้โจ้วชวนเบะปากและเกิดความรู้สึกเสียวฟัน
เขาหัวเราะออกมาครู่หนึ่ง ก่อนจะยกขาขึ้นกระดิกไปมาแล้วพึมพำกับตนเอง “มีคนวิ่งเต้นแทนเธอเต็มเลยนะ”
จากนั้นก็ออกจากบัญชีคิวคิวสำรองและเข้าบัญชีหลัก เปิดดูรายชื่อที่ออนไลน์ แล้วเข้าไปคุยกับเจียงอวี่เฉิงพร้อมกับแชร์ลิงก์ให้ พอได้รับการตอบกลับเป็น ‘???’ โจ้วชวนจึงเริ่มการสนทนากับเพื่อนของเขา…
ทว่าการพูดคุยกับเจียงอวี่เฉิงนั้นไม่สามารถหยุดความรู้สึกในสามวันนี้ได้เลย ทุกวันที่เจียงอวี่เฉิงเขียนนิยายออนไลน์เสร็จก็จะเห็นโจ้วชวนทิ้งข้อความไว้เป็นสิบข้อความ เป็นข้อความประเภทรายงานตนเอง เช่น ‘ตื่นแล้ว’ ‘เที่ยงนี้กินอะไรมา’ ‘ตอนเย็นอยากกินอะไร’ ‘ข่าวนี้น่าสนใจ ฮ่าๆๆๆๆๆ’ ‘นายดูนักเขียนประหลาดคนนี้สิ หาเรื่องแฟนคลับอีกแล้ว’ ‘ขอให้มาตุภูมิแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองหมื่นปีหมื่นๆ ปี’ และอีกหลากหลายเรื่องราว…
เจียงอวี่เฉิงอกจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
จนกระทั่งเมื่อถึงตอนเย็นของวันหยุดสุดสัปดาห์ ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวแล้วระเบิดมันออกมา…
โจ้วชวน : แกงเนื้อสันนอกที่ฉันกินเย็นนี้รสชาติแย่จนกลืนไม่ลง ทำไมร้านยังอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่เจ๊งสักที
เจียงอวี่เฉิง : …พี่ใหญ่? นายจะเอะอะทำไม วันนี้เย็นนายจะกินอะไร ฉันไม่ได้ไปหารด้วยสักหน่อย และนายก็ไม่ได้เชิญฉันไปกินข้าวด้วย!!!!
โจ้วชวน : …
โจ้วชวน : ฉันก็แค่พูดเฉยๆ
โจ้วชวน : น่าเบื่ออะ ทำไมนายถึงโหดร้ายแบบนี้
เจียงอวี่เฉิง : เบื่อก็ไปเขียนนิยายนู่นไป มีคนอ่านไม่รู้กี่คนกำลังรอให้ท่านเทพโจ้วชวนลงนิยายใหม่ ยิ่งลงเพิ่มก็ยิ่งทำให้พวกเขาดีใจ…ทำไมต้องมาคุยเรื่องไร้สาระกับฉันด้วย ฉันไม่ได้จ่ายค่าต้นฉบับให้นายสักหน่อย
โจ้วชวน : ทำไมนายถึงได้ใจแคบนักนะ ถ้าเอาจำนวนตัวอักษรที่เคยคุยกับนายไว้มารวมกัน พันตัวอักษรก็เพียงพอที่จะซื้อบ้านในเมือง G ได้เป็นหลังแล้ว
เจียงอวี่เฉิง : อย่างน้อยคำพูดที่นายพิมพ์มาตั้งแต่คืนวันพุธมาจนถึงตอนนี้ ก็สามารถซื้อบ้านหนึ่งหลังที่มีห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และห้องหนังสือได้เลยแหละ
เจียงอวี่เฉิง : เกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่เนี่ย
เจียงอวี่เฉิง : …นายอย่ามาตกหลุมรักฉันเลย ฉันกลัวจนตัวสั่นไปหมดแล้ว กระผมเป็นเพียงนักเขียนที่เคยดัง คงไม่เข้าตาท่านหรอก ว่าไหมขอรับ
โจ้วชวน : ???
โจ้วชวน : รสนิยมทางเพศของฉันยังเหมือนเดิม ฉันก็แค่เบื่อๆ น่ะ
เจียงอวี่เฉิง : ถ้างั้นระหว่างที่ฉันกับนายรู้จักกันมาสามปีสิบเดือนสิบเอ็ดวัน นายไม่เคยมาก่อกวนฉันเลย เงียบเป็นเป่าสาก นายใช้ชีวิตยังไง
เมื่อเจียงอวี่เฉิงถาม อีกฝ่ายหนึ่งเงียบไปนาน ไม่ยอมตอบกลับมา
และที่เจียงอวี่เฉิงไม่รู้ก็คือมือทั้งคู่ของโจ้วชวนได้ละออกจากแป้นพิมพ์และจ้องไปที่หน้าจอด้วยความงุนงง…
เขารู้คำตอบที่เจียงอวี่เฉิงถามดี…ระหว่างที่รู้จักกับเจียงอวี่เฉิงมาสามปีสิบเดือนสิบเอ็ดวัน เขาไม่เคยไปก่อกวนเจียงอวี่เฉิงเลย เงียบเป็นเป่าสาก แต่ครั้งนี้กลับหาเรื่องไปก่อกวนอีกฝ่ายเสียแล้ว เพียงเพราะว่าสามวันก่อนหน้านี้ เธอคนนั้นเพิ่งถูกเขาบล็อกไปกับมือ
โจ้วชวน “…”
เฮ้อ…น่าเบื่อชะมัด
นักเขียนมือเทพผู้หมดอาลัยตายอยาก
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือนมกราคม 66)