ความจริงเธอไม่ได้มีเจตนาดูถูกอะไร อาชีพทนายความปกติก็อยู่ระหว่างสีขาวกับสีเทาอยู่แล้ว คนที่รู้จักจะมีเบื้องหลังซับซ้อนหน่อยก็ไม่เป็นไร
คำตอบของหลินเฉินมาแนวคลุมเครือ ‘แล้วเธอเห็นว่าไงล่ะ’ ฉงหรงรู้สึกไร้สาระเลยไม่ถามอีก
จนถึงปีนั้น ปีที่เธอได้เจอตัวจริงของเขา
ฉงหรงเรียนนิติศาสตร์ คนที่เรียนกฎหมายส่วนใหญ่จะมีเหตุผล เยือกเย็น ควบคุมอารมณ์ได้ดี สำหรับเธอแล้วเกมก็คือเกม ถูกกั้นออกจากโลกแห่งความจริงด้วยกำแพงมิติ แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอเวินเซ่าชิงตัวจริง เรื่องนี้ต้องขอบคุณหลินเฉิน
ฉงหรงไม่เคยถามหลินเฉินว่าถ้าตอนนั้นเขาสามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องอะไร ยังจะแนะนำให้เธอรู้จักกับเวินเซ่าชิงหรือไม่
ตอนที่เธอพบกับเวินเซ่าชิงครั้งแรกก็เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิอันอบอุ่น ดอกไม้บานสะพรั่งแบบนี้ ดอกไม้บานทั่วเมือง แสงอาทิตย์กับสายลมอบอุ่นอ่อนโยน เมฆขาวลอยอย่างเกียจคร้านเหนือศีรษะ คนคนนั้นปรากฏตัวขึ้นอย่างเรียบง่าย
หลินเฉินเชิญทุกคนไปกินข้าวที่บ้าน เป็นบ้านที่เขาเช่าอยู่ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย พอดีกับที่วันนั้นเธอมีเรียน หลังเลิกเรียนก็รีบตามไป
ระหว่างรอลิฟต์ที่ชั้นล่างของบ้านหลินเฉินมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ เขาสวมเสื้อขาวกางเกงเทาเรียบง่าย มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า มืออีกข้างถือถุงอาหารที่ดูไม่ค่อยเข้ากันอีกหลายถุง แต่ไม่มีความรู้สึกแปลกแยกแม้แต่น้อย ท่วงท่าผ่อนคลาย
เรียนกฎหมายมานาน ฉงหรงชอบฝึกฝนตัวเองเรื่องการตื่นตัวต่อทุกสิ่งในสภาพแวดล้อมด้วยท่าทีแบบไม่ได้ตั้งใจ นานๆ เข้าก็เลยกลายเป็นโรคที่เกิดจากการทำงาน ชอบเจาะลึกถึงรายละเอียด
เธอแกล้งทำเป็นเดินไปเดินมาเหมือนไม่มีเจตนา ก่อนจะหยุดอย่างไร้สุ้มเสียงอยู่ทางด้านขวาข้างหลังผู้ชายคนนั้น จากนั้นก็จ้องมอง พิจารณาเขาอย่างเปิดเผย
ชายหนุ่มหลุบตาเล็กน้อย จ้องหน้าจอแสดงหมายเลขชั้น ตัวเลขหยุดนิ่งอยู่นานมาก เขาก็ไม่ได้มีท่าทีร้อนใจ เธอสังเกตเห็นว่านิ้วมือที่หิ้วถุงอาหารพวกนั้นเรียวยาวสะอาด เล็บมือดูสุขภาพดี แล้วจู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เขาล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงก่อนจะกดรับสาย
‘ซื้อแล้ว กำลังรอลิฟต์อยู่ชั้นล่าง เดี๋ยวก็ขึ้นไปละ’
น้ำเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ดึงดูด บวกกับความสุภาพอ่อนโยนเล็กน้อย ฉงหรงเห็นเพียงใบหน้าด้านข้างของเขา ใบหน้าด้านข้างเข้ากันกับน้ำเสียง ผิวขาวละเอียด โครงหน้าที่สง่าผ่าเผยดูอ่อนโยนมากแม้มองไม่เห็นคิ้วกับตา เห็นเพียงแสงลอดผ่านขนคิ้วเล็กๆ ดกดำปรากฏเป็นแสงเงาจางๆ
ประตูลิฟต์เปิดออก เขาเดินไปด้านหน้าก่อนหนึ่งก้าวแล้วยื่นมือกันประตูลิฟต์ เอียงตัวเล็กน้อยหันหน้ามองมาทางเธอ
ตอนนี้ฉงหรงจึงเห็นใบหน้าเขาตรงๆ ทั้งคิ้วทั้งตาดูดี ดีแบบไม่รู้จะบรรยายอย่างไร ผู้ชายน้อยคนที่จะมีหน้าตาแบบนี้ ท่าทางสะอาด แต่ดึงดูดใจ…เป็นพิเศษ
ฉงหรงค้างนิ่ง เขาจึงส่งสัญญาณให้เธอเข้าลิฟต์ก่อน เธอยืนงงครู่หนึ่งก่อนจะรีบเดินเข้าลิฟต์แล้วกดเลขชั้น
ผู้ชายคนนั้นเดินตามเข้ามา มองแวบหนึ่งแต่ไม่กดเลขชั้น ฉงหรงอดไม่ไหวต้องเหลือบมองเขา ก่อนจะผินหน้ากลับคล้ายไม่คิดอะไร ชั้นเดียวกันหรือ