ฉงหรงพูดไม่ออก เดินเข้าไปเขย่าหัวจงเจินอย่างแรงจนสาแก่ใจ “ฉันหมายถึงแอร์ที่เป็นแอร์จริงๆ!”
จงเจินมองพี่สาวที่วันนี้ใจดีเป็นพิเศษ รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ “แล้ว…?”
รอยยิ้มของฉงหรงชัดเจนขึ้นกว่าเดิมอีกระดับ “แล้วฉันก็จะมาพักอยู่ที่นี่สักช่วงหนึ่ง ดีมั้ย”
“งั้นผมจะอยู่ที่ไหน”
“นายไปอยู่บ้านฉันก่อนก็ได้”
“บ้านพี่ค่อนข้างไกลจากคณะกับโรงพยาบาล”
“รถฉัน ยกให้นายขับก็ได้”
“ยังเป็นนักศึกษา ไม่เหมาะจะขับรถ”
ฉงหรงใช้ความอดทนจนหมดแล้ว หุบยิ้ม “งั้นนายก็นอนห้องหนังสือ ตกลงตามนี้!”
“ทำไมอะเจ๊!”
“ไม่ทำไม ตอนบ่ายฉันยังมีงาน ค่ำๆ จะขนของมา เอากุญแจให้ฉันชุดนึงด้วย” พูดจบก็คว้าลูกกุญแจแล้วเดินออกไป จงเจินยืนงงอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉงหรงเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ย้อนกลับมา เขย่งเท้านวดหัวจงเจิน “ไม่ต้องห่วงนะ ช่วงที่อยู่นี่ ฉันจะออกค่าเช่าให้”
จงเจินหายงงอย่างรวดเร็ว ดิ้นหัวฟูหนีจากมือปีศาจ ฉงหรงมองหัวรังไก่ของเขา หัวเราะแล้วก็เดินออกไป
ฉงหรงปฏิบัติการเร็วมาก ตอนกลางคืนจงเจินกลับมาก็เห็นสมบัติของเธอกองอยู่เต็มห้อง ดูท่าจะอยู่ยาว เขาเพิ่งย้ายเข้ามายังไม่ทันได้ทำความสะอาด ตอนนี้ทั้งบ้านถูกเก็บกวาดจนสะอาด แต่ว่าที่นอนผ้าห่มของเขาถูกย้ายออกจากห้องนอนไปอยู่ห้องหนังสือแล้ว
จงเจินมองฉงหรงที่กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ มองอยู่นานก็ไม่เห็นความผิดปกติ “พี่ บ้านพี่มีอะไร ท่อน้ำแตกหรือไง”
ฉงหรงไม่แม้แต่จะเงยหน้า “เปล่า”
จงเจินขมวดคิ้ว คิดไปคิดมา “แล้วทำไมพี่ต้องย้ายมาอยู่บ้านผมอะ รีบร้อนขนาดนี้เชียว”
ฉงหรงพูดเหลวไหลด้วยสีหน้าจริงจัง “ฉันกลัวนายทำตัวเหลวแหลกพาผู้หญิงมาอยู่ด้วย จะมาคุมนาย”
จงเจินเบะปาก “ผมยังไม่มีแฟน”
“ใช้บริการพิเศษก็ยิ่งไม่ได้” ฉงหรงปั้นหน้าจริงจังมองเขา “ละเมิดกฎหมายว่าด้วยบทลงโทษที่เกี่ยวเนื่องกับการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสาธารณะ เข้าข่ายฝ่าฝืน กรณีซื้อบริการผู้ค้าประเวณีมีโทษจำคุกสิบวันขึ้นไปแต่ไม่เกินสิบห้าวัน ปรับไม่เกินห้าพันหยวนอีกด้วย”
จงเจินถูกสองคำนั้นทำเอาตกใจแทบตาย เบิกตาโตพลางร้องแทรก “เฮ้ยพี่!”
ฉงหรงใช้ความอดทนหมดไปแล้ว เธอก้มหน้าทำงานต่อพร้อมกับมอบอีกสองคำให้จงเจิน “หุบปาก!”
ต่อให้จงเจินเด๋อด๋ายิ่งกว่านี้อีกร้อยเท่าก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ เขาย่องเหมือนตีนแมวมาตรงหน้าฉงหรง เอ่ยถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นมาก “นี่ๆ พี่กำลังหลบหน้าใครอยู่”
ฉงหรงหัวเราะอย่างเลือดเย็น เอนพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางเยือกเย็นมองหน้าเขา “คนอย่างฉันต้องหลบหน้าใครมิทราบ”
“ก็ใช่นะ…” จงเจินเกาหัว ก่อนจะเอ่ยแบบไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ “พี่เป็นคนมีเหตุผลระดับเข้าสายเลือด ก็ควรจะรู้ว่าหลบหน้าช่วงสั้นๆ พอได้ แต่หลบระยะยาวไม่ได้ใช่มั้ย”
ฉงหรงสะดุ้งอยู่ในใจ มองหน้าใสซื่อของจงเจินอีกครั้ง หลังแน่ใจว่าตัวเองคิดมากไปเองแล้วจึงปั้นหน้าขรึมไล่จงเจินไปอาบน้ำ
รอจนจงเจินออกไปจากห้องหนังสือ ฉงหรงจึงฟุบกับโต๊ะร้องโหยหวน
ใช่แล้ว! ฉันเป็นทนายความเชียวนะ! คนสายตรรกะ ใช้เหตุผลระดับเข้มข้นอย่างฉันทำไมต้องทำตัวแบบนกกระจอกเทศอีกแล้ว?!