ปกติหน้าจงเจินแสดงอารมณ์ได้หลากหลายมาก ได้ฉายาว่าตัวอีโมจิเดินได้ พอได้ยินแบบนี้ก็ตาโต เริ่มอธิบายทันที “ทำไมจะขายไม่ออก! ทำไมจะขายไม่ออก! ผมน่ะนะกลัวว่าคุณตัวคนเดียวจะว้าเหว่ก็เลยแนะนำพี่สาวให้ต่างหาก ใช่แล้ว บอสรู้จักหมอผู้ชายโรงพยาบาลเราที่อายุไล่ๆ กับคุณและยังโสดอยู่อีกมั้ย อายุน้อยกว่าปีสองปีก็ได้”
“เรียนหมอลำบากมาก เลยอยากจะเปลี่ยนอาชีพเป็นพ่อสื่อสินะ” เวินเซ่าชิงจนใจ
“ไม่ใช่ครับ” จงเจินทำท่าเจนโลก ถอนหายใจ “ทำไมผู้หญิงดีๆ แบบพี่ผมจะหาผู้ชายไม่ได้ อาจารย์เวิน พี่สาวผมดีระดับพิเศษของพิเศษจริงๆ นะ ไม่ลองพิจารณาดูสักหน่อยหรือ”
หมอเวินปิดแฟ้มประวัติผู้ป่วย “งั้นเปลี่ยนใจละ”
จงเจินดีใจ ยังไม่ทันได้ยิ้มหน้าบานก็ได้ยินอีกฝ่ายบอกว่า “บทความรอถึงสุดสัปดาห์ไม่ได้แล้ว วันศุกร์ก่อนเลิกงานต้องมาอยู่ในเมลบ็อกซ์” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปตรวจคนไข้
จงเจินหมดแรง ทรุดนั่งที่มุมห้อง กลายเป็นอีโมจิหน้าเงียบนิ่งไปทันที
หิมะตกต่อเนื่องหลายวัน น้ำบนผิวถนนจับตัวเป็นน้ำแข็ง อากาศไม่ดี สภาพถนนก็ไม่ดี รถติดสาหัส ฉงหรงจึงใช้รถไฟใต้ดินทั้งไปทำงานและเลิกงาน
ช่วงเลิกงานคนใช้บริการหนาแน่น แม้ว่าฉงหรงจะมีที่นั่ง แต่ก็นั่งแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบาย เมื่อทนไม่ไหวเธอก็เงยหน้ามองผู้ชายซึ่งยืนอยู่ด้านหน้า เขากำลังเอียงคอดูหน้าจอของรถไฟใต้ดิน
ฉงหรงอดบ่นในใจไม่ได้ นี่มันจะบังเอิญมากเกินไปแล้วนะ
รถไฟใต้ดินหนึ่งขบวนมาทุกสองนาที แต่ละขบวนมีสิบกว่าตู้ แต่ละตู้คนมากขนาดนั้น ต่อให้ตั้งใจนัดเจอกันก็ไม่แน่ว่าจะได้เจอ แต่นี่ก็ยังมาเจอกันจนได้
เรื่องบังเอิญขนาดนี้ยังเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ลางดีแน่นอน
ผ่านไปอีกหนึ่งสถานี คนทั้งสองลงจากรถ คนหนึ่งลงด้านหน้าคนหนึ่งลงด้านหลัง แล้วเดินออกจากสถานีกลับเขตที่พักอาศัย เพื่อไม่ให้รู้สึกแย่ฉงหรงซึ่งเดินอยู่ข้างหลังจึงเลี้ยวเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตในชุมชน เดินวนหลายรอบแล้วค่อยกลับบ้าน
เมื่อคืนก่อนทำงานล่วงเวลาดึกมาก เช้านี้ฉงหรงตื่นไม่ไหว คิดอยู่ครู่หนึ่งดูเหมือนไม่มีเรื่องสำคัญอะไรก็เลยหลับต่ออย่างสบายใจถึงสิบโมง แล้วเดินเรื่อยๆ เฉื่อยๆ ออกจากบ้าน
เธอยังตื่นไม่เต็มตา ตอนที่ประตูลิฟต์ปิดจึงสะดุ้ง เพิ่งรู้สึกว่าในลิฟต์มีคนอีกหนึ่งคน ไม่ใช่แค่มีคน ยังมี…
ดูเหมือนหมาตัวนั้นจำเธอได้ มันแลบลิ้นพลางขยับเข้าใกล้ ฉงหรงแข็งทื่อไปทั้งตัว ก้อนขนสีขาวบีบจนเธอถอยไปชิดมุมลิฟต์ เบียดตัวชิดผนังลิฟต์มองหมาใหญ่อย่างระวังเต็มที่ แต่วันนี้ท่าทีเจ้าของหมาเปลี่ยนไป ไม่เป็นฝ่ายออกปากบอกให้หมาใหญ่ไปใช้ทางหนีไฟ แต่กลับทำเป็นมองไม่เห็นเหตุการณ์ เธออดทนอยู่นานมาก สุดท้ายก็ยอมแพ้ “เวินเซ่าชิง เรียกมันถอยไป! ฉันกลัวหมา!”