บทที่ 2
“อะไรนะ! อกหัก!”
อาริสาไม่อยากเชื่อหูตัวเอง พิมมาลาเนี่ยนะอกหัก เพื่อนที่สวยและเซ็กซี่แสนซนที่สุดในแก๊งของพวกเธอเนี่ยนะถูกผู้ชายทิ้ง?! แถมยังอาการหนักด้วย?!
“นี่แหละคือเรื่องที่ฉันอยากเม้าท์” มัชฌิมาสารภาพด้วยสีหน้ากังวล เจ้าตัวเร่งความเร็วรถให้เพิ่มขึ้น ใจคงบินล่วงหน้าไปหาพิมมาลาที่บ้านแล้วเรียบร้อย
“ปอรู้ แล้วแกล่ะจิ๊บ แกเองก็รู้มาก่อนแล้วใช่ไหม” อาริสาหันไปคาดคั้นเพื่อนอีกคน
“ไม่มากหรอก ฉันรู้นี้ดดดดเดียว”
“ก็แปลว่ารู้” อาริสาอยากงอนมาก อยากงอนใส่พวกนี้สุดๆ คนที่เพิ่งมีคู่หมั้นมาหมาดๆ สะบัดหน้าหันไปกอดอก ทำแก้มป่องแถมให้ด้วย
“แอ๊นท์ อย่างอนสิ” จีรดาซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังรีบบีบไหล่มนของอาริสาเป็นเชิงโอ๋ “นะๆๆ ไม่งอนเนอะคนสวย”
“จะงอน! ใจฉันไม่กว้างหรอกนะ เพื่อนทั้งคนมีแฟนแต่ไม่ยอมบอกฉันสักคำเลย” ว่าแล้วเธอก็ตบคอนโซลรถ “จอดตรงนี้ ฉันไม่ไปเยี่ยมมันแล้ว มันจะอกหักก็ให้มันหักไป ฉันไม่ใช่เพื่อนตายของมันแล้วนี่”
“โถ น้อยใจ”
“ปอ จิ๊บ ถ้าเป็นพวกแกมาโดนอย่างฉันแบบนี้ พวกแกจะไม่น้อยใจเลยเหรอ”
เธอหันไปถามสารถีจำเป็นกับผู้โดยสารตอนหลัง คนทั้งสองสีหน้าจืดเจื่อนกันทั้งคู่ แล้วก็เป็นจีรดาที่สารภาพเสียงอ่อย
“ไม่ใช่นะ ตอนเริ่มคบกันพวกฉันไม่รู้ มารู้ก็ตอนที่มันโดนทางนั้นทิ้งแล้วต่างหาก จะว่าไปตอนนั้นพอฉันกับยายปอรู้ก็โมโหไอ้พิมอยู่นิดๆ”
“งั้นตอนเลิกกันทำไมไม่บอกฉัน!”
“ก็ฉันเห็นแกกำลังยุ่งๆ อยู่เรื่องร้าน แล้วก็หวานใจแกน่ะไม่อยากให้ฉันบอกแก” มัชฌิมาตอบอึกๆ อักๆ ขณะที่คนไม่รู้เรื่องขมวดคิ้วมุ่น ขัดใจเป็นที่สุดที่ตนเองพลาดเรื่องสำคัญของกลุ่มไปได้
“อย่างที่ปอมันบอกแหละ” จีรดาเองก็พยักหน้ายืนยัน ซ้ำยังเพิ่มเหตุผลมาสนับสนุนด้วยว่า “แฟนแกน่ะเขากลัวว่าแกจะเข้าไปสืบเรื่องแฟนของไอ้พิมแล้วไม่มีเวลาให้เขา โธ่! อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ แกลืมไปแล้วรึไงตอนที่ฉันเป็นแฟนกับพี่ติน่ะ แกไปสืบเรื่องเขาว่าเป็นคนยังไงจนคนทั้งกระทรวงการต่างประเทศนึกว่าแกแอบชอบแฟนฉันกันหมด ทีนี้หวานใจแกก็เลยกลัว แฟนไอ้พิมคนนี้น่ะทั้งหล่อทั้งรวย สาวๆ ตอมกันเกรียวเลย แมนมันก็กลัวว่าแกจะเผลอชอบเขาไปด้วย หมอนั่นเลยบังคับให้พวกเราปิดบังแก”
“ก็ฉันเป็นห่วงเพื่อนนี่ กลัวจะถูกหลอก แล้วนี่พวกแกไม่ได้กรองก่อนเหรอว่าแฟนยายพิมเป็นคนแบบไหน ดูสิโดนหักอกจนได้” เสียสถาบันสาวสวยของพวกเธอสี่คนมาก ตั้งแต่ตั้งแก๊งกันมาก็มีแต่หักอกผู้ชายมาตลอด มาตอนนี้ดันมาโดนคนอื่นหักอกเสียได้ ทำลายสถิตินางฟ้าไกลเกินเอื้อมของพวกเธอแล้วเห็นไหม!
“มันเล่นของยาก” มัชฌิมาเองก็ยอมรับ “ถ้าเป็นฉันจีบหมอนี่ก็คงจีบไม่ติดด้วยซ้ำ รายนี้เล่นด้วยยากมาก แต่พวกเราก็รู้นิสัยไอ้พิมนี่ว่ามันพราวด์แค่ไหนเรื่องผู้ชาย กับคนนี้มันคิดว่ามันทำได้ ตอนสารภาพกับพวกฉันว่ารักเขาไปเต็มเปาน่ะน้ำตางี้ไหลทะลักอย่างกับเขื่อนแตก พวกฉันถึงโมโหไงว่าตอนคบกับเขาทำไมไม่บอกไม่เล่าให้ฟังกันบ้างเลยจะได้ช่วยยั้งๆ ไม่ให้มันจมดิ่งขนาดนี้”
“หลงขนาดนั้นเชียว” อาริสาเลิกคิ้วเรียวของตัวเองด้วยความประหลาดใจ “หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลยเหรอ”
“เรียกว่าหวังแต่งกับคนนี้ที่สุดก็ได้” มัชฌิมาซึ่งสนิทกับพิมมาลาที่สุดสันนิษฐาน “ยอมทางนั้นไปซะทุกอย่าง ชี้นกชี้ไม้อะไรก็เชื่อไปหมด”
“น่าสนใจแฮะ ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันล่ะ แล้วฉันรู้จักหรือเปล่า”
“ถ้าแกไม่รู้จัก ฉันว่าแกต้องกลับมาจากกลางเขาหรือไม่ก็ยอดดอยแน่นอน” จีรดาหัวเราะคิกคัก น้ำเสียงก็ดูมีเลศนัย “ผู้ชายคนนี้น่ะโซฮอตมาหลายปีแล้ว”
“อย่างงั้นเชียว” อาริสาตาโต
“แกว่าพี่ติที่ฉันเพิ่งเลิกไปน่ะหล่อไหมล่ะ”
“หล่อและดูดีมาก หน้าที่การงานก็ไม่เลว”
“แต่คนที่ไอ้พิมไปหลงหัวปักหัวปำน่ะดีกว่าพี่ติอีกสิบเท่า”
“ถามจริง!”
“จริงจ้า!” เพื่อนเธอประสานเสียงพร้อมกัน แล้วจึงเป็นจีรดาที่ขอเป็นคนอธิบาย
“คือผู้ชายคนนี้น่ะสมาร์ต แมน รูปหล่อ พ่อรวย จบนอก สุภาพบุรุษ การศึกษาสูง และที่สำคัญคือ…”
“พูดๆๆๆ”
“ลูกโทนจ้า เป็นลูกโทนคนเดียวของตระกูลด้วย!”
เพอร์เฟ็กต์! อย่างนี้ผู้ชายคนนี้ก็เป็นผู้รับมรดกเพียงคนเดียวเลยน่ะสิ