บทที่ 3
ว่ากันว่าผู้หญิงเงียบล้วนฟาดผู้ชายเรียบมานักต่อนัก อันนี้อาริสาขอเถียงเล็กน้อยว่าไม่จริงเสมอไป อย่างเธอเป็นผู้หญิงเงียบและเรียบร้อยก็ไม่เคยนอกใจผู้ชาย เอาจริงๆ แล้วเธอน่ะเน้นคบยาวๆ คบทีละคน ต่อต้านการคบซ้อนด้วยซ้ำ
“ฉันว่าแกหาคนใหม่เถอะ ฉันทำไม่ได้หรอก แล้วถ้าแมนรู้ล่ะก็…”
ไม่อยากจะนึกสภาพตัวเองตอนนั้นเลย ปกรณ์เสียงสองของเธอหากรู้เรื่องนี้คงใช้เสียงหนึ่งทั้งด่าทั้งตีเธอแน่ๆ ถึงเขาจะไม่ใช่ผู้ชายสายตบตี แต่เขาอาจจะทำกับเธอขึ้นมาก็ได้ใครจะรู้
“นะๆ พวกแก แมนย้ำแล้วย้ำอีกกับฉันว่าห้ามคุยกับผู้ชายอื่น พวกแกสงสารฉันเถอะนะ ปล่อยลูกนกสวยๆ น่ารักอย่างฉันไป” น้ำตาเธอคลอแล้วนะ คลอมากๆ แล้ว จะหยดติ๋งลงมาแล้ว
หญิงสาวในชุดกีฬาสีขาวพอดีตัวเกาะเสาแน่นราวกับถูกวิญญาณจิ้งจกผสมตุ๊กแกเข้าสิง ขณะที่จีรดาก็พยายามดึงเธอให้เข้าไปในฟิตเนสที่เป้าหมายชอบมาออกกำลังกาย
“อย่าลีลาน่ายายแอ๊นท์ นี่มันหน้าที่แก เราตกลงกันแล้ว”
“ตกลงกับผีสิ พวกแกตกลงกันเองแล้วมาโบ้ยฉัน”
ก็บอกแล้วไงว่าเธอยังไม่อยากถูกฆ่าด้วยสายตาลุกเป็นไฟกับเสียงเกินมาตรฐานของคู่หมั้นตอนกลายร่างเป็นปีศาจ ที่สำคัญเธอเพิ่งอายุยี่สิบหกเองนะ! มันน้อยเกินไปที่จะถูกคู่หมั้นฆ่าปาดคอ!
“แกเหมาะที่สุดแล้วล่ะแอ๊นท์” จีรดากล่อมเสียงอ่อน ยกนิ้วชี้ขึ้นมาหนึ่งนิ้ว “ข้อแรก…แกลองคิดดูสิ นายภิมุขไม่รู้จักแกใช่ไหมล่ะ”
“กะ…ก็ใช่” ไม่อยากยอมรับแต่อาริสาก็โกหกความจริงไม่ได้ คนน่ารักที่เกาะเสาแน่นได้แต่จำใจพยักหน้าหงึกๆ
“แกหน้าตาก็โอเคใช่ไหมล่ะ” นิ้วกลางเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งนิ้วและคนที่กำลังถูกชักจูงก็พยักหน้าอย่างจำยอม “แล้วแกก็เล่นกีฬาเก่ง หุ่นก็ดีใช่ไหม”
“ก็พวกแกบอกว่าฉันอ้วนง่าย แล้วแมนก็ชอบผู้หญิงเฮลตี้”
“แกทำดีมาก หุ่นแกตอนนี้นิ่มๆ น่ากอดสุดๆ”
“จริงเหรอ”
“จริงสิ กลมกลึงไปทั้งตัว เทรนเนอร์คนนี้ปั้นหุ่นแกซะสวยเช้งเลย”
“อือๆ ครูดี” คนเกาะเสาพยักหน้าหงึกหงักยิ้มหวาน อาการบ้ายอกำเริบ
“ดังนั้น…”
“ว่า…” ตากลมโตแป๋วแหววของอาริสาจับจ้องเพื่อน
จีรดาเว้นระยะในประโยค จ้องตาคนที่กำลังตั้งใจฟังด้วยรอยยิ้ม
“ชุดกีฬาน่ะถ้าใส่ตัวเล็กๆ รัดๆ ซะหน่อยขี้คร้านหนุ่มๆ จะมองจนน้ำลายหก เห็นไหมว่าตรงสเป็กเป้าหมายทุกประการ เอวแกเล็กมากเลยนะตอนนี้ ผู้ชายเอาสองมือประกบก็จับได้รอบแล้ว น่าอวดเว่อร์ๆ”
“จริงเหรอ แกไม่ได้แกล้งชมฉันเท่านั้นใช่ไหม”
“บ้า ใครจะทำแบบนั้นได้ลงคอ” จีรดาขยิบตาให้มัชฌิมา บอกให้เพื่อนอีกคนรีบฉวยโอกาสตอนที่อาริสากำลังล่องลอยเพราะความบ้ายอค่อยๆ แกะมือเธอออกจากเสา “และที่สำคัญแกไม่อยากช่วยเพื่อนรึไง ถ้านายภิมุขไม่รู้จักพวกฉัน พวกฉันก็ทำกันเองแล้ว ไม่มาบังคับแกอย่างนี้หรอก แกก็รู้ว่าพวกฉันสองคนก็สวยไม่ใช่เล่นๆ นะยะ”
“ก็จริง” ในกลุ่มแก๊งสี่คนของพวกเธอน่ะ อาริสาอ่อนด้อยที่สุดแล้ว ตอนได้คบเป็นแฟนกับปกรณ์ตามหลักเธอต้องเลิกกับเขาภายในหนึ่งปีตามกฎของแก๊งที่ห้ามผูกมัดตัวเองไว้กับผู้ชายคนเดียว อย่างจีรดาก็เปลี่ยนแฟนทุกหกเดือน มัชฌิมาอีกคนที่ชอบคุยกับผู้ชายไปทั่ว ถึงไม่คบแต่เจ้าตัวก็ทั่วถึงตลอด ไม่ต้องพูดถึงพิมมาลาเลย แต่เธอน่ะ…เธอน่ะ…ฮือๆๆๆ มีแฟนก็มีแค่ปกรณ์มาคนเดียวตลอด ภักดีข้าวเหนียวนึ่งสุดๆ
“พวกเราในแก๊งไม่มีใครอยากให้แกเป็นผู้เสียสละหรอกนะแอ๊นท์ แต่แกต้องเข้าใจนะ แกเข้าใจพวกเราใช่ไหมเพื่อน”
อืม…
เธอชะงักไปกับคำพูดของมัชฌิมา จะว่าไปมันก็ถูกนะ เถียงไม่ได้เลยแหละ เพราะถ้าเทียบกันแล้วในกลุ่มของพวกเธอ เอาแบบเป็นกลางด้วยเอ้า! เธอสวยน้อยที่สุดแล้ว